บทเรียนจากหมอก
เมื่อเช้า ขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาล หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่มาก รถสวนมาเปิดไฟหน้า แต่มองเห็นได้เพียงสิบเมตร เมื่อเช้า ผมขึ้นทุกทางด่วนเพราะว่าเป็นทางแยกกับเลนที่สวนมา และขับไปด้วยความเร็วที่ช้าผิดปกติ จากเดิมที่ขับช้าอยู่แล้ว
ที่น่าแปลกใจคือธรรมดาหมอกในกรุงเทพ 8 โมงก็หายหมด แดดแจ๋แล้ว คราวนี้ 9 โมงยังมีหมอกหนา เริ่มจางไปตั้งแต่ 10 โมง แสดงว่าหมอกคราวนี้ลงหนามาก (เป็นความสูงหลายๆ ร้อยฟุต) แสงแดดใช้เวลานานกว่าจะให้ความร้อนแก่หมอกจนระเหยไปหมด
เมื่อวานหมอกลงจัดจนเรือเฉี่ยวกันบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา วันก่อนนั้น เครื่องบินลงที่สุวรรณภูมิไม่ได้ ต้องย้ายมาลงดอนเมือง 20 เที่ยว ถามถึงโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งนั่นกลับเป็นประเด็นของบันทึกนี้
การที่เราจะปฏิเสธอะไรว่าไม่ใช่-ไม่จริง-เป็นไปไม่ได้ เป็นการเอาความรู้สึก-ข้อมูล-ประสบการณ์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ว่าเราเป็นผู้ที่ถูกต้อง แล้วเรายัดเยียดความผิดให้กับอีกฝ่ายหนึ่ง
การเดินทางระหว่างสถานที่สองแห่ง ยังเดินได้ตั้งหลายวิธี แม้จะตั้งด่านกั้นไว้กลางทางระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดหมายปลายทาง เมื่อไม่เห็นว่ามีรถผ่านไป ไม่ได้หมายความว่ารถจะไม่ไปถึงจุดหมาย อาจจะอ้อมไป มาเร็วก่อนตั้งด่าน หรือล่าช้าจนเลิกด่านไปแล้ว หรือเปลี่ยนรถ หรือเลือกการเดินทางแบบอื่นๆ ฯลฯ
ไตร่ตรองดูตามตรรกะ เราไม่สามารถจะการปฏิเสธว่าไม่ใช่-ไม่จริง-เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากว่าเราไม่รู้จริงทุกกรณี แล้วในเวลานี้ จะมีใครเป็นพหูสูตรที่รู้ไปซะหมด จนสามารถปฏิเสธได้อย่างหมดจด (มีแต่ผู้ที่รู้เยอะ แต่ไม่มีที่รู้ทุกอย่างทั้งหมด) สิ่งที่ทำได้มากที่สุดคือ “ไม่เชื่อ” เท่านั้น
ดังนั้น หากไม่เป็นคนดึงดันจนเกินไป ก็ควรฟังจนเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไรจนเข้าใจนะครับ หลังจากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธก็ได้ ถ้าไม่ฟังแล้วตัดสินใจ จะรู้หรือครับว่าตัดสินใจอะไรลงไป
« « Prev : แปดความลับของความสำเร็จ
5 ความคิดเห็น
ฟังว่า เจ้ากรุงสยามไม่ทรงเชื่อต่อฝรั่งนายหนึ่งผู้กราบทูลว่า บ้านเมืองของเค้าหนาวมาก ในฤดูหนาวนั้น น้ำในแม่น้ำจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง สัตว์ขนาดใหญ่ๆ เช่น ช้างในเมืองไทยก็สามารถก้าวข้ามได้สบาย…
พระเจ้ากรุงสยามพร้อมทั้งบรรดาอำมาตย์ในท้องพระโรงไม่ทรงเชื่อเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม่น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งให้ช้างเดินข้ามได้อย่างไร…
นิทานเรื่องนี้ คัดค้านความรู้เชิงประสบการณ์ เพราะมิได้บอกความจริงแก่เราทั้งหมด…
เจริญพร
น้องเล่าภาพปรากฏการณ์เรื่องหมอกในเมืองกรุง ทำให้พี่คิดไปถึงเรื่องเวลาของการมีแสงแดดให้ใช้กับเรื่องของการใช้พลังงานอบแห้งเวลาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ไปโน่นเลย
อาจ๋าๆๆๆ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ คิดถึงค่ะ …หนูจิ
เราจะเห็นคุณค่าแสงแดดมากขึ้นอีตอนที่หมอกลงจัดนี่แหละ
ไม่อย่างนั้น ฝนตกแดดออกอย่างไรก็เห็นเป็นธรรมดาๆ เฉยๆๆ