น้ำ
อ่าน: 2820พระราชดำรัส เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
ในโอกาสที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา
นำคณะเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ไทยประจำภูมิภาคยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง
พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศ
เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
วันศุกร์ ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๒ข้าพเจ้าดีใจ ที่ได้มีโอกาสพบกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้งหนึ่ง ทั้งได้พบกับทูตานุทูตที่นี่ และฝ่ายกงสุลของกระทรวงการต่างประเทศที่มาประชุมในกรุงเทพในครั้งนี้
ความจริงท่านทั้งหลายก็เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรู้และความสามารถมาก ถึงได้เป็นผู้ใหญ่ในทางราชการนี้ และแต่ละคนก็มีความรู้ด้านต่างๆ พร้อมที่จะปฏิบัติงาน งานของกระทรวงการต่างประเทศนั้นก็มีความสำคัญ เพราะว่าจะต้องเป็นผู้แทนของประเทศไปสู่ประเทศต่างๆ ในโลก ซึ่งข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าชื่อเสียงของประเทศนั้นจะทำให้ประเทศอื่นๆ เขามีความนับถือ และเมื่อมีความนับถือก็จะทำให้เขาร่วมมืออย่างดี ไม่ใช่เฉพาะแต่การร่วมมือ แม้แต่เพียงไม่เบียดเบียนก็เป็นผลงานอย่างหนึ่งที่ควรจะมุ่ง คือว่าประเทศหนึ่งประเทศใดก็จะอยู่ได้ด้วยการสร้างสรรค์ประเทศให้ก้าวหน้า แต่ว่าต้องมีความปลอดภัยด้วย ปลอดภัยนั้นก็ได้มาจากป้องกันศัตรู ป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามา อีกด้านหนึ่งก็เป็นการส่งเสริมให้มีมิตรที่ดี เพื่อลดจำนวนศัตรูอย่างหนึ่ง และเพื่อให้เป็นผู้ที่จะมาช่วยถ้ามีศัตรู แต่ที่ดีที่สุดก็คือไม่มีศัตรู ฉะนั้นงานของท่านก็สำคัญอยู่ที่จะทำให้ประเทศอื่นๆ เป็นมิตร วิธีทำให้ประเทศอื่นๆ เป็นมิตร นั้นก็คือแสดงความตั้งใจดีของเรา หวังดีของเราทั้งแสดงว่าเรามีความจริงใจอยากที่จะได้เป็นมิตร ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ฉะนั้นงานของท่านก็มีหลายด้าน
ที่มาในวันนี้ ตามที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวก็ขอให้โอวาท ส่วนนี้ก็เป็นโอวาท ส่วนที่เป็นความคิดในด้านการพิจารณานั้นก็ได้เคยได้แจ้งหลายอย่างแล้ว ที่กล่าวถึงที่ได้พูดในวันที่ ๔ ธันวานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อประเทศและต่อโลก และที่ได้กล่าวนั้นก็ค่อนข้างจะกว้างๆ มาก แล้วก็เป็นสิ่งที่จะกระทำได้ยากเป็นสิ่งที่จะต้องใช้เวลานาน แต่ว่าถ้าไม่ทำก็อาจทำให้ทั่วโลกเกิดความเดือดร้อนได้ วันนั้นก็ได้กล่าวถึงว่าที่พูดนั้นยังมีอีกมาก ที่ที่มีอยู่ในใจก็คือปัญหาความเป็นอยู่ของโลกและของประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องทรัพยากรบางส่วน ซึ่งอาจทำให้ขาดแคลนและเป็นผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพลโลกอย่างมาก คือ การขาดแคลนน้ำที่จะใช้ได้อย่างดี เรื่องนี้ก็อยู่ในแนวเดียวกับสิ่งแวดล้อม ความหนักใจในสิ่งแวดล้อม แต่ว่าเรื่องน้ำนี้ก็เป็นปัจจัยหลักของมวลมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้นเอง แม้สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายทั้งสัตว์ทั้งพืชก็ต้องมีน้ำ ถ้าไม่มีก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าน้ำเป็นสื่อหรือเป็นปัจจัยสำคัญของการเป็นสิ่งมีชีวิต แม้สิ่งไม่มีชีวิตก็อาจต้องการน้ำเหมือนกัน มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นอะไรไม่ทราบ เช่นที่ในวัตถุต่างๆ ในรูปผลึกก็ต้องมีน้ำอยู่ในนั้นด้วย ถ้าไม่มีน้ำก็ไม่เป็นผลึก กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีรูป ฉะนั้นน้ำนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่กล่าวถึงข้อนี้ก็จะได้ให้ทราบถึงว่าทำไมการพัฒนาขั้นแรกหรือสิ่งแรกที่นึกถึงก็คือทำโครงการชลประทาน แล้วก็โครงการสิ่งแวดล้อมทำให้น้ำดี สองอย่างนี่ อื่นๆ ก็จะไปได้ถ้าหากว่าปัญหาของน้ำนี้เราได้สามารถที่จะแก้ไขหรืออย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เราได้มีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอ ฉะนั้นการพัฒนานั้น สิ่งสำคัญก็อยู่ที่ตรงนี้ นอกจากนี้ก็เป็นสิ่งที่ต่อเนื่อง เช่นวิชาการในด้านการเพาะปลูกเป็นต้น ตลอดจนถึงวิชาการเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม หรือการค้า หรือการคลังอะไรพวกนี้ก็ต่อเนื่องต่อไป
เรื่องน้ำนี้ก็เป็นที่น่าสนใจ แล้วก็เพื่อที่จะให้เข้าใจดีว่าน้ำในโลกนี้มีมาก จะยกตัวเลขขึ้นมาก็จะมองไม่เห็นหรือไม่เข้าใจว่าจำนวนเป็นเท่าไร เพราะว่าเป็นจำนวนเป็นล้านๆ ลูกบาศก์กิโลเมตรที่มีอยู่ในโลกนี้ แต่ส่วนใหญ่น้ำนั้นตามตัวเลขมีกว่า ๙๗ เปอร์เซ็นต์อยู่ในทะเล ซึ่งเรานำมาใช้ประโยชน์บริโภคหรือใช้การไม่ได้ ที่เหลือนั้นก็อยู่ในรูปน้ำที่อยู่บนบกอยู่ในฟ้า แล้วก็ในจำนวนน้ำทั้งหมดที่เรียกว่าใช้ได้ หรือที่ใช้อยู่มีจำนวนเพียง ๐.๐๑๔ เปอร์เซ็นต์ของน้ำทั้งหมดในโลก ซึ่งก็ดูแล้วมันไม่เห็น มันนิดเดียว และจำนวนนี้ เป็นน้ำที่เราไม่สามารถที่จะนำมาใช้ จึงเหลือน้ำที่จะใช้ได้เพียงจำนวนเรียกว่าน้อยมาก เปรียบเทียบกับจำนวนที่มีน้ำในโลก แต่ในจำนวนน้อยที่สุดที่มีนี้ก็พอเพียงสำหรับการใช้ในโลกนี้ ถ้าคำนวณดูก็เรียกว่านับว่าเหลือเฟือ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะใช้น้ำนี้อย่างไร ถ้าหากว่าทำอย่างไม่ระมัดระวังน้ำนี้ก็คงหมดเหมือนกัน หรือไม่หมดก็ใช้ไม่ได้ เช่นปล่อยให้น้ำนี้เสียปล่อยให้น้ำนี้ไม่เกิดประโยชน์ ก็จะเหลือเปอร์เซ็นต์ เหลือเสี้ยว หรือไม่ถึงเสี้ยว หมายความว่านิดเดียวที่จะใช้ได้ แล้วก็ที่จะใช้ได้นั้นยังมีอยู่ที่ที่ยังไม่สามารถที่จะไปเอา เช่นน้ำที่ลงทะเลในเขตที่ไม่มีคนอยู่ก็มากอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นเราจะต้องพยายามที่จะคิดให้ดีว่า เราจะใช้น้ำนี้ให้ดีอย่างไร
ถ้าดูเฉพาะปัญหาในประเทศไทยก็กำลังค้นหาตัวเลข เพราะน้ำที่ใช้ได้นั้นย่อมมาจากน้ำฝน ฝนลงมาแล้วจำนวนหนึ่ง จำนวนที่ฝนลงนั้นเป็นน้ำที่เรียกว่าน้ำจืด เพราะว่าเป็นน้ำที่กลั่นมาจากทะเลและจากพื้นดินเป็นน้ำที่ไม่ใช่น้ำเค็มหรือน้ำที่เจือปน แต่ว่าน้ำที่ลงมานี้ลงมาแล้วก็ระเหยขึ้นไปได้ เราจะใช้ได้เป็นน้ำที่ไหลลงมาเพียง ๒๕ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนนี้โดยเฉลี่ย แล้วก็ระเหยขึ้นไปหรือซึมไปในดินในส่วนที่จะใช้ไม่ได้ ตกลงก็เหลือ ๒๕ เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ใน ๒๕ เปอร์เซ็นต์นั้นลงมาแล้วก็ไหลลงทะเลโดยตรง โดยที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ฉะนั้นปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากน้ำที่ไหลลงไปในทะเลรวมทั้งหมดนี้ ๒๕ เปอร์เซ็นต์ หมายความว่าเราดักมาใช้ตามทาง อย่างเช่นเรานำมาบริโภค ใช้สำหรับเก็บในร่างกายเราเพื่อให้เราเคลื่อนไหวได้ ถ้าไม่มีน้ำ เราเคลื่อนไหวไม่ได้ แล้วก็ขอโทษทีเราก็ต้องถ่ายออกไป ถ่ายออกไปแล้วก็ไหลออกไป ทิ้งไป หมายความว่า ๒๕ เปอร์เซ็นต์ของน้ำฝนนั้น ก็จะต้องผ่านตัวเราส่วนหนึ่ง ผ่านเครื่องจักรเครื่องกลอะไรต่างๆ ผ่านส่วนที่จะละลายปุ๋ยให้แก่พืชพรรณอะไรต่างๆ นี้ ก็เป็นน้ำจำนวนนี้แหละ ฉะนั้นต้องไม่ให้น้ำที่ผ่านลงทะเลโดยตรงให้มันเสียเปล่าไป จะต้องนำน้ำนี้มาใช้ให้ได้ประโยชน์มากที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้ขาดแคลน
อันนี้ไม่ทราบว่าจะกระทบกระเทือนมิตรประเทศหรือไม่ หรือจะกระทบกระเทือนผู้เป็นนักวิชาการบ้างหรือเปล่า แต่ก็ขอพูดขึ้นมาเพราะว่าบัดนี้ก็เข้าใจว่าโครงการนี้ไม่ปฏิบัติแล้ว ยกตัวอย่างของโครงการเจ้าพระยา ๒ เจ้าพระยา ๒ นี้ ท่านทั้งหลายก็คงได้ทราบดี โดยเฉพาะทูตที่ไปอยู่ออสเตรียก็จะเข้าใจดีเพราะว่าได้มีการเจรจาน้ำที่ลงมาตามหลักนั้นลงมาแล้วก็มาท่วมกรุงเทพ เขาจะต้องให้ไหลลงทะเลโดยตรง เพื่อไม่ให้ท่วมกรุงเทพ นั่นเป็นหลักของเขา ฉะนั้นน้ำที่ไหลลงมามากนั้นเกินควรมาท่วมกรุงเทพแล้วทิ้ง ก็ดูเป็นการดี โครงการนี้น่าดู น่าใช้ น่าทำ แต่หากว่าในหน้าแล้งเวลาไม่มีน้ำไหลลงมา น้ำไหลลงมาน้อยมาก ไม่สามารถที่จะพอใช้ สำหรับทำ แม้แต่น้ำประปาจะขาดแคลนในหน้าแล้ง น้ำที่ลงมาจะไม่สามารถที่จะไปให้กับสิ่งเพาะปลูกในรอบด้านของกรุงเทพ ไม่มีพอเพราะว่าทิ้งไปแล้ว ทิ้งไปลงทะเลตอนที่เราไม่ต้องการในระยะเวลาประมาณ ๒ เดือน ถ้าหากว่าเขาจะทำวิธีการอย่างหนึ่ง เขาจะบอกว่าต้องกั้นเป็นทำนบกั้นแม่น้ำไม่ให้ไหลลงไป หรือให้ไหลลงไปน้อยหน่อย ทางที่สมุทรปราการเป็นทำนบกั้นทะเล อันนี้ก็เกิดปัญหาเหมือนกัน เพราะว่าน้ำที่ลงมาก็กักอยู่ น้ำโสโครกที่ออกมาจากกรุงเทพก็ขังอยู่ ก็ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องทำให้กรุงเทพมีความปลอดภัย แล้วก็ราคาของโครงการนี้เขากะไว้ตอนนั้นสองหมื่นล้าน สองหมื่นล้านนี้หมายความว่าทำสำหรับทิ้งน้ำดีลงทะเล แล้วก็กักน้ำโสโครกในหน้าแล้งอีกประมาณ ๘-๑๐ เดือน เราก็นั่งอยู่ในน้ำโสโครกตลอด ๘ เดือน ส่วนที่เหลือนั้นก็อาจดี สบายดี ปล่อยลงไปแล้วในราคาสองหมื่นล้านนี้ไม่ได้นึกถึงสิ่งที่จะต้องทำ ก็คือซื้อที่หรือเวนคืนที่ ซึ่งถ้าหากว่าเวนคืนที่แล้วสองหมื่นล้านนั้นไปแล้ว ในระยะประมาณ ๓๐ กิโลเมตร คูณ ๒๐๐ เมตรนั้น ถ้านับดูแล้วขี้เกียจที่จะคิดว่าเป็นจำนวนกี่ไร่และไร่ละกี่แสน เกินสองหมื่นล้านแล้ว ฉะนั้นทำโครงการนี้สองหมื่นล้านก็เท่ากับจะต้องซื้อที่ แล้วเขาก็บอกว่าคุ้ม เพราะว่าในที่นั้นจะสร้างที่อยู่เป็นอาคารสำหรับเป็นธุรกิจ เป็นอะไรต่างๆ คุ้ม เพราะว่าสามารถที่จะก่อสร้างและมีกำไรเยอะ อันนี้มันคนละเรื่อง มันผลพลอยได้อย่างอื่น แต่ว่าคนที่จะเดือดร้อนก็เจ้าของที่ เขาได้รับเงินที่เวนคืนก็ไม่พอที่จะไปซื้อที่ที่อื่น ไปหาที่อาศัยที่ทำที่อยู่และทำกิน ก็หมายความว่าเปลี่ยนมือที่ดินไปให้กับธุรกิจ อันนี้ก็เลยไปใหญ่ อันนี้ถึงว่าหากว่ามีโครงการใดๆ แล้วก็ทำตามหลักของเศรษฐกิจหรือของธุรกิจทางหนึ่ง ใช้รากฐานที่ผิดแล้วไม่ได้ผลตามที่เป้าประสงค์ของโครงการ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ฉะนั้นที่ตั้งใจจะทำความต้องการ ของเราคือให้น้ำที่ลงมาไม่มาทำเสียหาย แต่ว่าต้องเก็บน้ำนั้นๆ ไปทำคุณประโยชน์ คือน้ำนั้นจะทำคุณประโยชน์ได้ ฉะนั้นโครงการที่เราควรจะสนับสนุน ก็คือโครงการเก็บน้ำนั้นที่จะลงมาทำความเสียหาย เก็บมาไว้สำหรับทำประโยชน์ในหน้าแล้ง อันนี้เป็นหลักเรียกว่าเป็นเป้า หรือเป็นแนวความคิดของโครงการที่ควรจะทำ
ที่ได้ชักนิยายเกี่ยวข้องกับโครงการเจ้าพระยา ๒ นี้ ที่บอกว่าอาจกระทบกระเทือนเพราะว่าบางคนจะโกรธว่าทำไมต่อต้าน แล้วก็ถ้าพระเจ้าอยู่หัวต่อต้านก็มีน้ำหนัก แต่ว่าที่ต่อต้านด้วยเหตุนี้ที่ได้กล่าวเมื่อตะกี้ ถ้าหากว่าใครแก้ปัญหานี้ได้โดยที่จะมาบอกว่าที่พูดนั้นไม่จริง หรือไม่เป็นดังที่พูด ก็ไม่เป็นไร ก็ทำก็ได้ ไม่โกรธที่ว่าเขาจะมาคัดค้านในความคิด แต่ว่าความคิดอย่างนี้บริสุทธิ์ใจ ความคิดเพื่อแก้ปัญหาก็คือกักน้ำนั้นเอาไว้ โดยใช้เงินสองหมื่นล้านที่ว่าไปทำโครงการกักน้ำ ซึ่งมีที่บางแห่งที่จะทำได้ กักน้ำที่ลงมาท่วมกรุงเทพ และเมื่อกักเอาไว้หน้าแล้งจะสามารถที่จะนำน้ำนั้นมาใช้เป็นจำนวนหลายแสนไร่ หมายความว่ามาใช้เพื่อทำการเพาะปลูกหรือแม้แต่มาสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ต้องการน้ำเหมือนกัน ซึ่งจะทำเงินคือหมายความว่าจะเป็นรายได้ของประเทศอย่างมหาศาล และสองหมื่นล้านนั้นจะได้ทุนคืนมาภายในไม่ช้า อาจภายใน ๑๐ ปี หรือ ๒๐ ปี สามารถที่จะนำรายได้มาใช้หนี้สองหมื่นล้านได้ ถ้าทำโครงการตามที่เขากะไว้นั้น กี่ปีก็ไม่สามารถจะใช้หนี้ได้ ก็พูดกันมากว่าทางราชการเดี๋ยวนี้ทำหนี้สินให้ลูกหลาน หรือเหลนโหลนต้องใช้ไม่ไหวจะทำให้ประเทศไทยเป็นหนี้จมลงไป ไม่สามารถที่จะตีตื้นขึ้นมาได้ ซึ่งก็เป็นความจริง ถ้าไปกู้ยืมมาในสิ่งที่ไม่มีทางที่จะใช้หนี้ได้ มันก็เป็นปัญหา จะทำให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้นตลอดเวลา บางคนก็บอกว่าเป็นหลักวิชาของการคลังหรือการธุรกิจที่จะต้องเป็นหนี้ อันนี้อาจถูกต้องแต่ว่าสำหรับนักวิชาการนั้นเขาก็มีเหตุผลของเขา แต่คนที่ไม่ได้เป็นนักวิชาการแล้วเขาก็คิดอย่างสามัญสำนึกว่าถ้าเป็นหนี้เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่มีทางที่จะใช้หนี้ มันเท่ากับฆ่าตัวตายหรือจะต้องฆ่าตัวตาย หมายความว่าประเทศต่างๆที่ก่อหนี้ขึ้นมาที่ใช้หนี้ไม่ได้ ก็ย่อมต้องเปลี่ยนการปกครองหรือเปลี่ยนทัศนะ คือหมายความว่ามีการยึดอำนาจขึ้นมาแล้วก็บอกกับนานาประเทศว่าหนี้สินที่รัฐบาลก่อนๆ นี้ทำไว้ไม่รับรู้ ซึ่งก็ย่อมทำได้ แต่ว่ารู้สึกจะไม่ค่อยเป็นที่พอใจของนานาประเทศ เพราะนานาประเทศลงท้ายก็จะต้องมาปราบ ลงท้ายก็ทำให้ประเทศล่มจมได้
การที่พูดนี้ก็เพื่อที่จะให้ประเทศซึ่งเป็นเหมือนบุคคลอยู่ปลอดภัย ไม่ต้องมีใครมายุ่งในกิจการภายในของเรา อันนี้ก็เป็นหลักอย่างหนึ่งของการพัฒนา คือว่าพัฒนาในสิ่งที่มีอยู่แล้ว ก็สามารถที่จะเอาทุนคืนได้ โดยคิดอย่างสามัญสำนึก ไม่ใช่คิดแบบที่จะทำกลไกของการคลังหรือการค้า เขาก็อาจบอกว่าเรากู้ยืมวันนี้ เราใช้หนี้ไปเรื่อยๆ ลงท้ายหนี้นั้นมันก็ลดลงไปจะหมดไป เพราะเหตุว่าในอนาคตหนี้ที่เราก่อขึ้นมามันจะลดไปเอง เพราะว่าเงินราคามันตก อันนี้มันเป็นเรื่องกลไกแบบการคลัง เราอาจทำให้ค่าของเงินตราของเราลดลงไป หรือค่าของเงินตราต่างประเทศที่เรากู้มา สมมุติว่าเรากู้มาสองหมื่นล้านบาท ว่าไปเป็นประมาณพันล้านดอลล่าร์ไม่ถึงดี เพราะว่าเดี๋ยวนี้ดอลล่าร์มันสูงขึ้นไป สมมุติว่าพันล้านดอลล่าร์ แต่ใน ๑๐ ปีข้างหน้า ค่าของเงินพันล้านดอลล่าร์นั้นก็เหลือ อาจเหลือเท่าห้าร้อยดอลล่าร์ในปัจจุบันในข้างหน้า คล้ายๆ ว่าจะลดหนี้โดยกลไกของการคลังซึ่งก็รู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรม เขาถึงต้องมีดอกเบี้ย แล้วดอกเบี้ยก็ท่วมขึ้นไป ลงท้ายก็บอกว่าเขาใจดี เขาให้ยืมแล้ว เสร็จแล้วไม่ต้องใช้หนี้เขาก็ได้ แต่ลงท้ายเขาก็มาเอาเปรียบเราในด้านต่างๆ เราไม่สามารถที่จะพูดอะไร เพราะว่าเขาก็มาบอกว่าเราเป็นหนี้เขา ไม่ใช่หนี้บุญคุณเท่านั้นเองเป็นหนี้เงินเขา เราก็จนปัญญา ลงท้ายก็ต้องทำตามที่เขาต้องการ
อันนี้เป็นเรื่องการพัฒนาหรือวิธีพัฒนา และเกี่ยวข้องกับเรื่องของท่านทั้งหลายของกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งท่านทั้งหลายจะเป็นผู้ต้องไปเจรจา ก็เดือดร้อน เข้าใจว่าท่านทั้งหลายเคยไปเจรจาอะไรต่างๆ แล้วก็อึกอักไม่รู้จะพูดอย่างไร ก็เดือดร้อนเพราะว่าวิธีปฏิบัติในสาขาอื่นๆ ได้ปฏิบัติแบบนี้ บอกเงินมันไม่มีค่าเท่า งั้นก็ไม่ต้องใช้หนี้ ซึ่งประเทศต่างๆ มีหลายประเทศที่ทำแบบนี้ แล้วชื่อเสียงเขาก็ไม่ค่อยดี เมืองไทยนี้มีชื่อเสียงดีมาตลอด ที่เราอยู่รอดได้แม้จะมีเรื่องวุ่นวายในประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว ประเทศต่างๆ ในโลกก็ยังนับถือ แม้บางทีก็บอกไทยแลนด์เป็นอย่างนั้นๆ แย่มาก แต่ในส่วนรวมแล้วดูตามที่เขาวิจารณ์ นับว่าเขาว่าประเทศไทยน้อยมาก เขาไม่สามารถที่จะว่า ด้วยเหตุว่าเมื่อเรามีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นไปตามเดิม เพราะว่าเราประกาศ ทุกรัฐบาลได้ประกาศว่าพันธะกับประเทศอื่นๆ ในโลกยังคงเดิม หมายความว่าเราไปกู้เงินเขามา เรายังมีพันธะกับเขา ไม่ยกเลิก ซึ่งประเทศบางประเทศเขายกเลิก เวลาเปลี่ยนแปลง เขาก็บอกยกเลิกไม่รับผิดชอบ แต่ว่าของเราจะเป็นใครก็ตามขึ้นมาก็รับผิดชอบ หมายความว่าคนไทยมีความรับผิดชอบ เขาจึงมีความนับถือ เราทำอะไรก็ตามเขายังนับถือ ไม่สามารถที่จะมีอะไรมาข่มขู่เรา ฉะนั้นวิธีพัฒนานั้นก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของการต่างประเทศเหมือนกัน เพื่อที่จะให้ชื่อเสียงของประเทศยังคงดีอยู่ เมื่อชื่อเสียงของประเทศดีอยู่ ก็ทำให้ประเทศมีความปลอดภัยมั่นคงได้อย่างดี
อันนี้ก็มาพูดถึงการพัฒนาแหล่งน้ำหรือเรื่องน้ำ ก็มาโยงกับหน้าที่ทางกระทรวงการต่างประเทศ คือชื่อเสียงของประเทศชาติ ผลประโยชน์ของประเทศชาติ มันก็โยงกันอย่างนี้ ฉะนั้นถ้าหากว่าจะถือว่าเป็นหลักของการพัฒนา อันนี้ก็เป็นหลักอันสำคัญ คือการพัฒนาในสิ่งที่จะสามารถเอาทุนคืนได้ แล้วก็เป็นการพัฒนาที่เข้ากับหลักของธรรมชาติและความต้องการส่วนใหญ่ของประเทศ
วันนี้ถ้าพูดแค่นี้ดูจะมีข้อเดียว แต่ว่าก็นึกว่าเป็นข้อที่กว้างพอสมควร ขอยุติเกี่ยวข้องกับเรื่องการพัฒนาแค่นี้ดีกว่า ถ้าท่านรัฐมนตรีหรือใครมีข้อสงสัยอะไรก็เชิญ…
Next : จบการศึกษา ไม่ใช่เรียนจบแล้ว » »
ความคิดเห็นสำหรับ "น้ำ"