เมื่อเอาใจนำ ทุกข์ก็เปลี่ยนเป็นสุข — ศ.นพ.ประเวศ วะสี
อ่าน: 3507เคล็ดลับของความสุขนั้นไม่ยากเลย เหมือนเส้นผมบังภูเขา เราทำอะไรๆ โดยเอาความรู้นำบ้าง เอาเศรษฐกิจนำบ้าง เอาการเมืองนำบ้าง แล้วก็นำเราเข้าไปสู่ความเครียด ความขัดแย้ง และวิกฤต จริงอยู่ ความรู้ก็ดี เศรษฐกิจก็ดี การเมืองก็ดี มีความจำเป็นแต่ไม่ใช่ตัวนำ
ถ้าเอาความรู้นำ เอาเศรษฐกิจนำ เอาการเมืองนำ จะไปกระตุ้นอกุศลมูล และเกิดความใจร้ายตามมาได้อย่างสุดๆ จนกลบความดีแห่งความเป็นมนุษย์ไปเสียหมด เราตกอยู่ในความเข้าใจผิดหรือโมหภูมินี้และเครียดขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องทำความเข้าใจตรงนี้ให้ดีๆ เพื่อจะออกจากโมหภูมิให้ได้
พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นสัตว์ร้ายในตัวมนุษย์ ๓ ตัว ที่เราต้องระวังระไว เพราะถ้ามันออกมาเพ่นพ่านในการคิด การพูด และการทำของเรา มันจะก่อความเดือดร้อนให้ตัวเราเองและสังคม สัตว์ร้าย ๓ ตัวนั้นชื่อ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ เราอาจจะไม่ชอบภาษาบาลีเหล่านี้เพราะเราไปติดศัพท์ฝรั่งเสียจนเคย แต่คำบาลีเหล่านี้บอกอะไรที่ลึกซึ้งกว่าภูมิปัญญาตะวันตกมาก และไม่ยากที่จะเข้าใจถ้าเพียงแต่เราจะใส่ใจ
ตัณหา = ความอยากได้มากๆ ยิ่งมากยิ่งดี
มานะ = ต้องการใช้อำนาจเหนือผู้อื่น
ทิฏฐิ = การเอาความเห็นของตัวเป็นใหญ่การใช้ความรู้ที่ขาดปัญญากำกับก็จะตกเป็นเหยื่อของกิเลส นำไปสู่อหังการและทิฏฐิราคะ นำไปสู่ความขัดแย้งทางลัทธิอุดมการณ์และความรุนแรง เศรษฐกิจก็นำไปสู่โลภจริต การเอาเปรียบ การทำร้ายผู้อื่น สงคราม การเมืองถ้าขาดปัญญากำกับก็นำไปสู่การใช้อำนาจเหนือผู้อื่น ซึ่งตรงกับมานะซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ร้าย ๓ ตัวดังกล่าวข้างต้น
การใช้ความรู้นำ ใช้เศรษฐกิจนำ ใช้การเมืองนำ จึงเป็นเรื่องของการใช้สัตว์ร้าย ๓ ตัว หรืออกุศลมูลนำ จึงนำไปสู่ความยุ่งยากในชีวิตและสังคมอย่างที่เกิดขึ้น
การใช้ใจนำง่ายกว่าเยอะและนำไปสู่สิ่งดีๆ
ถ้าเพียงแต่คิดว่าเราทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ เราก็มีความสุขแล้ว
« « Prev : หัวใจนักปราชญ์ ตีความแบบตามใจฉัน
Next : ดูใกล้แล้วเห็นชัดหรือ? » »
3 ความคิดเห็น
สำคัญที่ใจ
ขอบคุณที่ให้หลักไว้ใตร่ตรองนะครับ ตระหนักนะครับ