เรื่องเก่าเล่าใหม่: โอลด์ แลง ซายน์
อ่าน: 3901เพลงโอลด์ แลง ซายน์ มาจากโคลงเก่าภาษาสก็อต ที่โรเบิร์ต เบิร์นส์ ผู้เป็นกวี เรียบเรียงไว้จากเพลงพื้นบ้านของสก็อตแลนด์
เนื่องจากมีทั้งรุ่นเพลงพื้นบ้าน รุ่นโคลง รุ่นที่เอาไปทำเป็นเพลง รุ่นแปลเป็นภาษาอังกฤษ และยังที่แปลเป็นภาษาอื่นอีก (เช่นเพลงสามัคคีชุมนุม) การสืบหาต้นฉบับที่แท้จริงถึงจะไม่ยุ่งยาก แต่หาเพลงซึ่งร้องตามเนื้อนั้นไม่ได้เลยครับ
โอลด์ แลง ซายน์ Auld Lang Syne แปลเป็นอังกฤษแบบคำต่อคำว่า Old Long Ago คือเปรียบเสมือนเรื่องราวที่ผ่านพ้นไปนมนานแล้ว บางส่วนยังประทับใจ บางส่วนน่าหวนคำนึงหา เหมือนเพื่อนเก่า ใช้เป็นเพลงปิดงานชุมนุมลูกเสือ (Jamboree) และในหลายๆ ประเทศ เอาไว้ร้องหลังเที่ยงคืนวันขึ้นปีใหม่ (หลังจากเคาน์ดาวน์) ในความหมายที่ว่าควรจะย้อนรำลึก เพื่อกลั่นเอาส่วนที่ดีเก็บไว้…อะไรทำนองนั้น
คลิปข้างล่างนี้ สมาชิกสภาสก็อตแลนด์ร้องร่วมกันเป็นภาษาสก็อตปนอังกฤษ เริ่มด้วยท่อนแรกและไปต่อยังท่อนสุดท้าย
Burns’ original Scots verse | English translation | ไทย แปลโดย TWSSG TEAM |
Should auld acquaintance be forgot,
And surely ye’ll be your pint-stowp !
We twa hae run about the braes,
We twa hae paidl’d i’ the burn,
And there’s a hand, my trusty fiere !
|
Should old acquaintance be forgot,
And surely you’ll buy your pint cup !
We two have run about the slopes,
We two have paddled in the stream,
And there’s a hand my trusty friend !
|
ลืมความคุ้นเคยเก่าก่อน เพื่อคืนวันที่ได้ผันผ่านไป เพื่อนรัก เราสองเคยวิ่งเล่นบนเนินลาด เราสองเคยย่ำไปบนน้ำค้าง (?!?!) และก็มีมือของเพื่อนที่ฉันเชื่อมัน |
ความเป็นเพื่อน ความเป็นกลุ่มก้อน เริ่มต้นขึ้นมาจากคุณค่าร่วมกัน เป้าหมายร่วมกัน และมีความเชื่อใจร่วมกันนะครับ การรวมกันเป็นชาติเป็นสังคม รวมกันอยู่ไม่ได้เลยหากไม่มีเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะพร่ำสอนขนาดไหน เพราะว่ามันเป็นความรู้สึกจากภายใน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาจับยัดลงในสมองด้วยการโฆษณา ป่วยการจะมาเรียกร้องให้สมานฉันท์ โดยไม่มีอะไรร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไว้วางใจกัน
อิสระในสังคมไม่ได้อยู่เหนือสิ่งที่สังคมมีร่วมกัน ไม่ใช่อิสระแบบอัตตาฉันทะที่นึกจะทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องแคร์ส่วนรวม; ความถูกต้องในสังคม ก็ไม่ใช่กรณีพวกมากลากไป เพราะว่าถ้าผิดหมู่โดยไม่มีใครทักท้วงหรือฉุกคิดได้เลย มันน่าสมเพชครับ
หากอิสระแบบที่ต้องรับผิดชอบต่อส่วนรวมยังไม่อิสระพอ สามารถไปอยู่ป่าคนเดียวก็ได้นะครับ อันนั้นแหละ อยากทำอะไร (ที่ไม่เดือดร้อนคนอื่นเช่นเผาป่า) ก็ทำไปเลย
« « Prev : สารคดี
Next : อินเทอร์เน็ตกับพฤษภาทมิฬ » »
2 ความคิดเห็น
ปัญหาของคนไทยในวันนี้คือประวัติศาสตร์เราสบายกว่าฝรั่งมาก คือ เรารบกันน้อยเกินไป ลูกหลานวันนี้เลยต้องเสียเวลามาเรียนรู้
ของฝรั่งมันรบกันสงครามร้อยปี ครูเสดก็สองร้อยปี สงคราม 30 ปีเรื่องธรรมดา ของเรารบพม่า เขมร สามเดือนก็เลิกแล้ว ..มันตายน้อยเกินไป
อินเดียก็หนักมาก วงศ์เการพ รบกับวงอะไรจำไม่ไดแล้ว มหาภรตะยุทธ
จีนก็โดนพวกข่านฆ่าไปหลายล้าน ข้าราชการถูกถ่วงน้ำตายไปหลายแสน
ไทยเราตายน้อยที่สุด เพราะพระมหากษัตริย์ช่วยไว้ แต่วันนี้มันไม่สำนึก จะมาล้มสถาบันกษัตรยิ์กันเหยงๆ
ถ้าเราโดนหนักๆ แบบต่างชาติ ป่านนี้เราอาจรักกันมากกว่านี้ นึกถึงวันเก่าๆมากกว่านี้ก็เป็นได้
มหาภรตะ: วงศ์เการพกับวงศ์ปาณฑบหรือเปล่าครับ