สองผู้ยิ่งใหญ่
อ่าน: 3639บันทึกนี้ เขียนไปเรื่อยๆ ทั้งวัน ตามแต่จะมีอะไรน่าเล่าหรือไม่
รศ.ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว นำลูกศิษย์ประมาณ 20 ท่านมาสวนป่า บอกอยากมาเรียนชีวีต ชาวเฮซึ่งได้มีโอกาสอ่านหนังสือที่ระลึกงานเกษียณอายุท่านอาจารย์ ต่างก็อยากแลกเปลี่ยน+ขอคำแนะนำถึงพุทธวิถีของอาจารย์
งานนี้ การเชื่อมกรุงเทพ-บุรีรัมย์เกิดขึ้นได้เพราะพี่อึ่ง (ผอ.ดวงพร รร.มงคลวิทยา ลำพูน) ซึ่งอยู่ในทั้งสองกลุ่ม ขอบคุณครับ
ช่วงเช้า ครูบาพาเข้าป่าตามธรรมเนียม มาสวนป่า ก็ต้องไปดูชีวิตของป่า ดูความเหมือน ความแตกต่าง ดูการพึ่งพากันของสรรพชีวิต
คุยกันในบล็อกอื่น พี่สร้อยอยากกินจานบิน ป้าจุ๋มจึงยกโรงงานมาผลิตให้กินกัน ใครๆ ก็กินกันไปหมดแล้ว จึงมีโทรศัพท์ไปตามตัวมากินซะ อร่อยดี ขอบคุณครับ จากนั้นก็ไปตลาด หาซื้อวัตถุดิบที่ไม่มีในสวนมาทำกับข้าว
พอดีเขากำลังราดยางมะตอย ถนนข้างละสามเลน หลบมาซ้ายสุดแล้ว ก็ยังไม่พ้น โดนยางมะตอยกระเด็นใส่ไปครึ่งคัน รถไม่สวยเลย
กลับมาถึงสวนป่า ดูดน้ามันมอเตอร์ไซค์ออกมาสักค่อนลิตร ป้าจุ๋มกับน้าอึ่งอ๊อบช่วยกันละเลงด้วยความคล่องแคล่ว ผมเริ่มเช็ดก่อนด้วยสำลี(ซึ่งเอาไว้ตอนต้นไม้) ก็ออกเกลี้ยงเกลาดี แต่สู้ผ้า+กระดาษทิชชูของป้าจุ๋มกับน้าอึ่งไม่ได้ เจ้าของรถเลยยืนดู ไม่ทำตัวเกะกะ (ก้มมาก ถ้าโลกหมุน จะไปกันใหญ่) ขอบคุณนะครับ
พอยางมะตอยออกหมด ก็เอารถไปล้าง ซึ่งอันนี้ล้างคนเดียวได้ กว่าจะเสร็จ ก็ไม่ทัน session พี่บู๊ดเรื่องชนบทแล้ว เลยไปอาบน้ำตอนเที่ยง
หลังจากพี่บู๊ด NGO ตัวจริงซึ่งทำงานพัฒนาต่อเนื่องมาทั้งชีวิต ตั้งแต่ 14 ตุลา ลุงเปลี่ยนก็เล่าประสบการณ์การพัฒนาจากแดนลาว เรียนทฤษฎีในห้องก็เรื่องหนึ่ง ชีวิตจริงนั้นคนละเรื่องเลย
ตามที่มีการสุมหัวเมื่อคืนนี้ ครูบาอยากขอให้ทุกคนเขียนอะไรทิ้งไว้บ้าง เลยให้ อ.ไพลินมาแนะการหาแรงบันดาลใจในการเขียน
กินข้าวกลางวันล่าช้าไป โปรแกรมปั้นดินเหนียวจึงสลับกับโปรแกรมศิลปะของอาจารย์ออต
จากนั้นเป็นรายการพิเศษ ที่มีเก้าอี้มากกว่าคนนั่ง มีหมามาสังเกตการณ์ตัวหนึ่ง
Posted by Wordmobi
« « Prev : ผลลัพท์หลังงานเสร็จ
Next : วันชำแหละ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "สองผู้ยิ่งใหญ่"