หลวงพี่ด๊อกเตอร์
อ่าน: 3497นายคนแรกของผม ซึ่งเป็นผู้ที่ให้โอกาสผมได้ลอง ได้เล่น ได้ศึกษาหาประสบการณ์จนมาเป็นตัวเป็นตนในปัจจุบัน บวชเมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมาครับ เป็นวันมาฆบูชาด้วย แปลกแท้ๆ ธรรมดาวัดมีงานยุ่ง กลับมีงานบวชได้ด้วย
แต่เวลาที่บวชนั้น ผมยังอยู่สวนป่าอยู่เลย เมื่อวานตอนบ่ายๆ ก็เลยหาซื้อข้าวของที่คิดว่าจำเป็นไปถวาย
ไม่เคยไปวัดนี้ เดินดุ่ยๆ ไปหากุฏิ ถามคนแถวนั้นว่ากุฏิ ๒ อยู่ตรงไหน พระและชาวบ้านถามเลยว่า มาหาด็อกเตอร์หรือ — ผมก็งงน่ะซิครับ!!! คงเป็นชื่อที่เรียกขานกันมานาน เพราะได้ทราบว่าหลวงพี่เคยมาวัดนี้หลายครั้งแล้วก่อนบวช ปรากฏว่าหลวงพี่อยู่คณะ ๒ มีพระพี่เลี้ยงเป็นพระสมัยใหม่ ได้คุยกันนิดหน่อย ท่านใช้ภาษาแบบที่มีความรู้ดี
กุฏิหลวงพี่มีแอร์ด้วย มีพัดลมสามตัว ตอนบ่ายเข้าไปหา ไม่ได้เปิดแอร์ แต่ก็เย็นสบาย
ได้ฟังว่าท่านคิดจะบวชมานานแล้ว แต่ไม่ commit ตัวเองสักที จนเมื่อวันที่ 29 เดือนที่แล้ว อยู่ดีๆ นึกอยากบวช ก็บอกพระเลย นัดวันบวชเป็นวันจันทร์ที่ 9 โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นวันมาฆบูชา รู้จากเพื่อนๆ ที่ไปร่วมงานบวชว่าทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ไม่มีติดขัด
นั่งคุยไปคุยมา ไหงกลายเป็นเรื่องของผมเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ อิอิ ผมบอกว่าผมสบายใจมาก ลาออกมาเพื่อจะมาทำสิ่งที่ต้องทำ (OpenCARE) ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้เบื่อจนถึงขนาดที่ทนอยู่ไม่ได้ แต่มันมีอะไรที่น่าสนุกและเป็นประโยชน์มากกว่างานที่ทำมาแล้ว 12 ปี — ผมไม่ได้หางานใหม่ แล้วไม่คิดจะไปอยู่กับคู่แข่งของบริษัท ความรู้ที่มีอยู่ประยุกต์ได้กว้างขวาง และมีเวลาที่จะเรียนรู้เพิ่มเติม
กุฏิหลวงพี่ไม่มีเน็ต มีโน๊ตบุ๊คเอาไว้เขียนบันทึกประสบการณ์ระหว่างบวช ไม่มีทีวี มีลูกน้องเก่าๆ แวะไปหา
หลวงพี่ว่าสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเลิกได้ ก็เลิกได้ เดิมที เพราะคิดว่าเลิกไม่ได้ จึงไม่ได้เลิก; มาจนถึงวันนี้ก็บวชมาสี่วันแล้ว หลวงพี่ว่าน่าจะอยู่ตัวแล้ว ฉันวันละสองมื้อสบายมาก ไม่หิว น้ำปานะช่วยได้ ผมได้แต่อนุโมทนาสาธุ
คุยอยู่สักสองชั่วโมง ก็ลากลับ ดีแล้วที่แวะไปกราบก่อน เดิมที คิดจะซื้อแอร์ปอดบวมไปถวายด้วยเพราะรู้ว่าขี้ร้อน (แอร์ปอดบวมคือพัดลมที่พัดผ่านน้ำ ช่วยลดอุณหภูมิได้ แต่เพิ่มความชื้น) การไม่ซื้อไปก่อน เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
« « Prev : OSX NetBook ~สองหมื่น
Next : Siftables ของเล่นใหม่จาก MIT » »
7 ความคิดเห็น
รู้สึกชื่นชมคนที่มีความชัดเจนและกล้าตัดสินใจ ลงมือทำในสิ่งที่ (คิดว่า) ต้องทำ
เคยรู้สึกถึง “ความแปลกแยก” (Alienation) ที่เกิดขึ้น ในเวลาที่อยู่ในองค์กรของตัวเองที่ยังคงเป็นไปตามวิถีของการแข่งขันกับเวลาและเป้าหมาย จนไม่มีเวลาให้ชีวิต และถามตัวเองว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ (วะ) แต่บางทีเวลาที่อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ไม่ได้ทำงานให้กับองค์กรธุรกิจ นั่งอยู่ในกลุ่ม NGO ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าพวก
ตอนนี้กำลังสนุก กับการเดินทางระหว่างโลกสองใบ ทำตัวเองให้เป็นส่วนผสมที่กลมกล่อม อิ อิ
บวชทางใจแบบที่ท่านพุทธทาสภิกขุพูดถึง มรว. คึกฤทธิ์ก็ได้ อิอิ
แวะมาอนุโมทนากับหลวงพี่
และได้ยิ้มๆ กับรูปน้องหมาที่แปะไว้บนลาน…แหม..ทำตาหวานเชียว..อิ อิ
ส่วนรูปทางซ้ายนี้ ผมว่าเค้ากำลังจ๋อยนะครับ หรือไม่ก็กำลังทำตาละห้อยเพื่อขอขนมกิน
ว่าจะเอาลูกอมมาให้หมาน้อยเพิ่มความอ้วน กลัวมันดุ เขาว่าชอบน้ำตาลไม่ดีนะน้อง และพี่ก็ว่าด้วย พี่บู๊ทก็ว่าด้วย….อิอิ
คุยไปคุยมาไหงกลายเป็นเรื่องของผม..ไม่น่าจะแปลกใจเล๊ย….ก็ตัวเองนะมีเรื่องให้เกี่ยวตั้งมากมาย….คนเขาห่วงใยตัวนะรู้มั๊ย…อุ๊ยว้ายแต๋วแตก…..5555