ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ // ใจมีค่าที่สุด อย่านำไปแลกกับสิ่งใด
อ่าน: 6594พระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระอริยสงฆ์ก็ตาม พระอริยบุคคลก็ตาม ท่านเป็นที่ใจ ใจที่เป็นจริง มิใช่คิดเองว่าเป็นพระพุทธธรรมสูงส่งบริสุทธิ์ ต้องเป็นจริงที่จิตใจกิเลสก็ต้องหมดจริงที่จิตใจ หมดระดับไหนก็จะเป็นอริยสงฆ์ หรือพระอริยบุคคล ในระดับนั้น
“ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ” และใจนั้นหลอกใครอาจหลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้
นอกเสียจากเป็นการหลงเข้าใจผิดจริงๆ และนั่นก็เป็นการเข้าใจผิดจริง ใจเป็นเครื่องรับรองพระพุทธภาษิตที่ว่า
“ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ” เช่นนั้น ใจหลงผิด ก็ผิดตามอำนาจใจไปหมด จึงควรเห็นค่าของใจตนให้มากที่สุด ถนอมรักษาให้ดีที่สุด ให้เป็นใจที่มีความงดงามที่สุด
ใจที่งดงามที่สุดคือ ใจที่ไกลกิเลสที่สุด ไกลทั้งความโลภ ไกลทั้งความโกรธ ไกลทั้งความหลง ไกลอย่างสิ้นเชิงเด็ดขาดจริง ไม่มีการย้อมกลับเข้าสู่จิตใจได้อีกทั้งโลภะโทสะโมหะ คือทั้งความโลภความโกรธความหลง
เช่นนี้ที่ในพระพุทธศาสนาคือคุณธรรมความเป็นพระอรพันต์นั่นก็คือพระอรหันต์ ท่านก็เป็นได้ด้วยใจที่งดงามที่สุดด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มีความเศร้าหมองแม้เล็กน้อยเพียงใดด้วยความสกปรกของความโลภ ความโกรธ ความหลง คือ กิเลส กิเลสที่มีความหมายชัดเจนว่าเครื่องทำใจให้เศร้าหมอง
ผู้นับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมากชื่นชมยินดีในความเป็นพระอริยสงฆ์ของท่าน องค์นั้นองค์นี้ เห็นได้จากความตื่นตันภาคภูมิยินดีเป็นล้นพ้นเมื่อได้พบได้รู้จักท่านผู้ใด ที่เป็นที่เชื่อถือว่าเป็นพระอริยะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ว่าท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ใช่เป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาเช่นเดียวกับพวกเราจำนวนมาก แต่เพราะตนเองยังไม่รู้จักคุณลักษณะอันเลิศของจิตท่านผู้เป็นพระอรหันต์เลย แม้แต่น้อย
รู้จักแต่เพียงจากได้ฟังที่พูดถึงกันเท่านั้น ก็ทำให้ไม่อาจรู้จักได้ถูกแท้ ว่าพระอริยสงฆ์ ทั้งพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ความจริงเป็นอย่างไร คือ มีจิตใจเป็นอย่างไร เพียงแต่คาดดาตามเสียงผู้อื่นที่อาจไม่รู้จริง เหมือนกับเรานั่นเอง
จึงพึงพยายามทำใจให้ยอมคิดยอมเชื่อ ว่าใจของเราต่างหากที่เป็นพระอรหันต์เมื่อใด เมื่อนั้นเราจึงจะรู้ถูกรู้จริง ไม่ใช่ไปรู้ใจผู้อื่น ที่อาจไม่ถูก อาจผิดจากความจริงไกลลิบก็เป็นไปได้ และแทบทั้งนั้นที่ผิด การรู้ใจอื่นเป็นเรื่องยากที่สุด
แสงส่องใจ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ญาติโยมผู้หนึ่งเทิดทูนพระพุทธภาษิตที่ว่า “ใจของเรามีค่าสูงสุด เหนือค่าของสิ่งอื่นใดทั้งปวง ไม่พึงนำไปแลกกับสิ่งอื่นใดทั้งนั้น”
ได้อัญเชิญไปปฏิบัติสม่ำเสมอ ตั้งแต่ล้มลุกคลุกคลาน คือได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง จนมาถึงวันที่รู้สึกว่าได้รับผลเต็มที่แล้ว เพราะเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายกาจรุนแรง แทบจะทำให้เบื่อโลกเบื่อมนุษย์ แต่สามารถรับเหตุร้ายมากมายทั้งนั้นได้อย่างดียิ่ง ไม่เศร้าหมองไม่หวั่นไหว ไม่เร่าร้อน ไม่โกรธแค้น
ได้กล่าวอยู่เสมออย่างปีติโสมนัสในบุญบารมียิ่งใหญ่นักหนาของตนว่า พระพุทธเจ้าทรงเลี้ยงมาดีที่สุดแล้ว ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์เลวร้ายรุนแรงมากมายที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับชีวิตที่มุ่ง มั่นทำ แต่คุณงามความดี คงทำให้เศร้าโศกเสียใจถึงเป็นบ้าเป็นบอไปก็ได้
แต่เหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลายที่ประดังเข้าสู่ชีวิต อย่างหาเหตุผลไม่ได้ กลับรับได้อย่างสบาย เหมือนไม่มีอะไรที่เหลือเชื่อเหล่านั้นเกิดขึ้นกับชีวิต “เพราะพระพุทธเจ้าทรงเลี้ยงเรามาแล้วอย่างดีที่สุด” นี่คือความมั่นใจ ที่เต็มไปด้วยความปีติโสมนัส พ้นจะกล่าวของญาติโยมผู้นั้น
การที่คนพยายามทำแต่บุญกุศล ทำแต่ความดี มาทั้งชีวิต ดังที่ญาติโยมผู้นั้นเล่าถึงตัวเอง ว่าบรรดาผู้ทำร้ายเธอด้วยเจตนาทำลายเพราะ ความโลภบ้าง เกลียดบ้าง บ้างเชื่อคำของผู้มุ่งร้ายคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง
มีข้อสงสัยว่า เช่นนี้จะไม่เป็นบาปหนักอยู่หรือ เพราะการทำร้ายผู้มิได้ชั่วร้าย น่าจะเป็นบาปไม่น้อย บาปกว่าทำร้ายผู้ที่มีความผิดความเลวร้าย ที่ก่อทุกข์โทษภัยอยู่
พิจารณาปัญหาที่ถูกนำมาปรารภนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับ ว่าควรเป็นจริงเช่นนั้น ทำคนดีมีศีลมีธรรม ต้องเป็นบาปกรรมยิ่งกว่าทำ คนมีความผิดความไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ดีที่สุดคือพยายามรักษากายวาจาใจของตนให้มีสติควบคุม และไม่ทำใครทั้งนั้น ใครจะดีใครจะชั่วอย่าใช้อำนาจเข้าจัดการ แต่ควรใช้เมตตาธรรมเข้าช่วยเหลือจะถูกต้องกว่า
พูดกันดีๆ เตือนกันดีๆ สอนกันดีๆ แต่ถ้าไม่แน่ใจ คือไม่รู้จริงในความไม่ดีของผู้ใดผู้หนึ่งก็ตาม ก็ควรรอบคอบในการตัดสิน ไม่ควรคิดว่าเขาผิดร้าย และลงโทษเขาเช่นด้วยการกล่าวโทษให้รู้ทั่วกันไป โดยมุ่งให้เป็นการช่วยคนนั้นบ้าง คนนี้บ้างให้ไม่ต้องได้รับทุกข์โทษภัยจากผู้ที่คิดว่าเขาไม่ดี
ตั้งใจช่วยให้เป็นบุญ จะได้ผลตรงกันข้าม แม้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเลว มิได้เป็นเช่นนั้นจริง ทั้งยังเป็นคนดี บาปเกิดตรงนี้ ตรงกรรมที่ทำไปแล้วเพราะหลงผิด คิดผิด เข้าใจผิด
แสงส่องใจ เมษายน ๒๕๕๐
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
1 ความคิดเห็น
ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ
นี่ละยึดถือมาตลอดค่ะ