คนละมุมเดียวกัน

อ่าน: 30115

ขณะเดินตรวจอาคารอยู่มีเด็กวิ่งมาตามบอกว่ามีแขกมาขอพบ โดยปกติธุรการหรือฝ่ายงานต่าง ๆ จะรับให้แล้วต้องแจ้งรายละเอียดมาก่อน สงสัยว่าจะเป็นเรื่องด่วนจึงวิ่งลงไปพบทันที ก็พบคุณพ่อของเด็กที่ไปชกหน้าเพื่อน 1 หมัดเมื่อวันก่อนนั่นเอง คุณพ่อนายตำรวจท่านนี้วัยน่าจะใกล้ ๆ ครูปู หน้าตาเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด หลังจากแนะนำตัวแล้วก็สอบถามความเข้าใจเบื้องต้นก่อน คุณพ่อแจ้งว่าไม่รู้อะไรเลย ลูกบอกให้มาเซ็นชื่อเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ก็เลยมา

ทำไมเหรออาจารย์ มันมีเรื่องอะไรกันนักหนา ถึงขั้นสั่งห้ามลูกผมขึ้นเรียน ผมต้องลางานเสียงานเสียการนะนี่ (เสียงขุ่นเชียว?)

อ่านต่อ »


จาก VBAC สู่สุนทราภรณ์

อ่าน: 3892

เช้าวันที่ 1 ม.ค. 2554 ขณะงัวเงีย ๆ ตื่นมาสั่งน้ำมูกซื้ดซ้าดฉลองปีใหม่อยู่นั้น มีเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โทรเข้ามาอำ

อาจารย์ปูจำได้มั้ย ใครเอ่ย ทายซิ ๆ ฮ่าๆๆ

นี่ถ้าลำพังถามอย่างเดียวแล้วไม่หัวเราะครูปูคงจำไม่ได้หรอกค่ะ แต่พอได้ยินเสียงแผดหัวเราะแบบบ้าพลังเต็มลำคอขนาดนี้ ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เจ้าต๊ะ” ศิษย์เก่าก้นกุฎิคนแรกของครูปูเองค่ะ

ต๊ะเป็นลูกศิษย์รุ่น 1 ของ VBAC เข้าเรียน ปวช.1 เมื่อปี 2542  ซึ่งมักจะถูกยกเป็นกรณีตัวอย่างของการติดตามดูแลลูกศิษย์ให้กับครูรุ่นใหม่ ๆ ฟัง (แก่แล้วก็ต้องเอาเรื่องเก่า ๆ มาเล่าอย่างนี้ล่ะค่ะ) แถมยังเป็นกรณีแรกที่ทำให้อาจารย์หลายคนรู้สึกแหยง ๆ ที่ได้เห็นฤทธิเดชและความบ้าระห่ำของครูปู ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครกล้าแหยม(ต่อหน้า) กะยายครูคนนี้อีกเลย :(

เนื่องจากต๊ะเป็นเด็กสุขภาพจิตดี ร่าเริงแจ่มใส มีมารยาท สุภาพเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ เรียนดี แต่ไม่ค่อยมีสตังค์มาโรงเรียนซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ผิวพรรณและหน้าตาดีเหมือนลูกคนมีสตังค์ ทำให้อาจารย์หลาย ๆ คนมักมองข้ามไม่ค่อยให้ความสนใจเท่าที่ควร

VBAC

(2 คนแม่ลูก เมื่อปี 2542)

อ่านต่อ »


เฮฮาศาสตร์???

9 ความคิดเห็น โดย krupu เมื่อ 4 มกราคม 2011 เวลา 21:00 ในหมวดหมู่ aar, การจัดการความรู้, มุมมองของชีวิต, สังคม, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2469

พักนี้รู้สึกว่าฮอตเหลือเกินมีแต่คนถามถึง หนังสือเจ้าเป็นไผ และ คนนี้ไง’จารย์ปูครูพันธุ์ก๊าก! เมื่อบ่ายมีข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการท่านหนึ่งโทรมาขอบคุณเรื่องหนังสือที่ฝากไปให้อ่าน บอกว่าชอบมาก อยากให้ครูได้อ่านกันเยอะ ๆ

(เกือบจะหลุดปากยุให้ทำโครงการสั่งซื้อแจกครูเสียนี่ แต่สติยังคุมกิเลสได้ทัน ข้าราชการท่านนั้นเลยรอดไป :P)

พออธิบายว่าเป็นผลงานของกลุ่มเฮฮาศาสตร์ ทีนี้ก็เลยถูกถามหนักเข้าไปอีก

“เฮฮาศาสตร์คืออะไร?”

“มีใครอยู่ในสังกัดบ้าง?” (ถามยังกะเป็นค่ายมวยแน่ะเพ่)

“แล้วเขาทำอะไรกันบ้าง?”

คำถามเหล่านี้พอตอบได้ค่ะ แต่พอโดนถามว่า

“เออ ชื่อแปลกดีนะ ทำไมใช้ชื่อเฮฮาศาสตร์ล่ะตั้งใจจะสื่ออะไรเหรอ?”

อ่านต่อ »


เมื่อครูอังกฤษคิดจะแต่งกลอน ^^

อ่าน: 4547

  • กราบสวัสดีปีใหม่พ่อครูบา

อีกพี่ป้าน้าอา(ม่า)เฮฮาหลาย

ขอปีนี้แสนดีสะดวกสบาย

สุขภาพจิตสุขภาพกายสมบูรณ์พลัน

อ่านต่อ »


พ่อค้าอาวุธ

อ่าน: 29743

การลาออกหรือลาพักกลางคันของนักศึกษา มาจากหลากสาเหตุ ทั้งที่แก้ไม่ได้ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ หาทุนให้ก็แล้ว หางานให้ทำก็แล้ว แต่ทางบ้านตกงานกันหมดจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานเด็กหรือการที่เด็กต้องย้ายตามผู้ปกครอง ปัญหาผลการเรียนไม่สมบูรณ์ ลากก็แล้ว ดึงก็แล้วก็ยังตก ๆ หล่น ๆ ไม่ถึงเกณฑ์เลื่อนชั้นเสียทีหรือที่พัฒนาไม่ได้ด้วยทุกกระบวนวิธีที่โรงเรียนมีแล้ว ก็ต้องส่งมอบการดูแลคืนแก่ผู้ปกครองไป

ส่วนที่ยังเหนี่ยวรั้งไว้ได้บ้าง เช่น อยากจะไปเรียนที่ที่เขาอนุญาตให้แต่งเครื่องแบบนักศึกษาตามแฟชั่นได้ อยากย้ายไปเรียนที่เดียวกับแฟน  ฯลฯ เหล่านี้ก็ต้องค่อย ๆ เปรียบเทียบให้ชั่งน้ำหนักเอาระหว่างความต้องการชั่วครู่กับความสำคัญของการเรียน

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

อ่านต่อ »


อายเพราะมีแม่แก่

อ่าน: 7074

แม่

มีนักศึกษาชายคนหนึ่งเรียนไม่จบระดับ ปวช. ปีนี้จำเป็นต้องกลับมาตามเก็บหน่วยกิตให้ครบ แต่สังเกตว่ากี่ปี ๆ คุณแม่ก็ยังต้องเดินตามงก ๆ หิ้วกระเป๋าตามหลังให้ ล้อมหน้าล้อมหลัง ลูกจะเอาอะไรก็คอยจะตั้งใจฟัง คอยไต่ถาม ไอ้เจ้าลูกชายก็สะบัดสะบิ้ง เดินหนีให้พ่อให้แม่วิ่งตาม

ครูปูเคยเรียกมาอัดหลายหนเพราะไอ้ท่าทางที่ปฏิบัติต่อพ่อแม่แบบนี้ ปีก่อน ๆ เคยโดนควบคุมพฤติกรรมเพื่อดัดนิสัย เคยเฝ้าระวังขนาดโทรกลับไปเช็คพฤติกรรมกับคุณแม่ทุกวัน คุณแม่ก็ตอบกลวง ๆ กลับมาว่า “เขาดีขึ้นแล้วค่ะอาจารย์”  พอเจอที่โรงเรียนก็ไม่เห็นเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ เข้าใจว่าคุณแม่คงปกป้องลูกชายไม่ให้โดนครูดุเสียมากกว่า

ช่วงกีฬาสีเด็กต้องทำกิจกรรมกับคณะสี คุณแม่ก็ว่าจ้างมอเตอร์ไซค์มาดักรอลูกทุกวัน นั่งรอจนกว่าลูกจะเสร็จกิจกรรมนู่นแหละ บอกให้กลับไปก่อนก็ไม่ยอม เดี๋ยวลูกไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ

อ่านต่อ »


จะเรียนหนังสือหรือจะติดคุก

อ่าน: 2255

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

คุณแม่ท่านหนึ่งนำลูกชายที่ติดเกมส์มาลาออก พร้อมแจ้งว่าตนเองไม่อยากให้ลูกทิ้งการเรียนเลยแต่บังคับลูกไม่ได้ พ่อเลี้ยงซึ่งเป็นคนหาเลี้ยงทั้งครอบครัว ก็กำลังรอจะเล่นงานแม่อยู่เพราะต้องเสียค่าเทอมให้ลูกเลี้ยงไปฟรี ๆ โดยไม่ยอมเรียน

ครูปูจึงรับหน้าที่เป็นด่านสุดท้ายในการทั้งปลอบทั้งอัด  โดยมีคุณแม่นั่งร้องไห้กระซิก ๆ เพราะอินไปกับคำพูดครูแทนที่จะเป็นลูก  ไล่ไปจน จนมุมเรื่องหนึ่ง เด็กก็จะแถไปอีกเรื่องหนึ่ง พอไล่ไปอีก ก็แถไปอีกเรื่องจนได้ แต่ไม่ว่าพูดเรื่องอะไรครูปูจะไล่เบี้ยไปให้สุดทุกเรื่อง มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ใครเป็นพยาน อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ประจำวิชา เรียกมายันกันให้หมด

เหนื่อยก็เหนื่อย ลุ้นก็ลุ้น แต่ต้องวัดกันว่าใครจะอึดกว่ากัน เพราะก่อนใบลาออกจะถึงมือผู้อำนวยการ เด็กและผู้ปกครองต้องผ่านครูปูไปให้ได้ และไม่กี่รายหรอกค่ะที่ครูปูจะยอมเซ็นให้ยกเว้นที่จำเป็นจริง ๆ เช่น ย้ายที่อยู่หรือเหตุผลจำเป็นทางเศรษฐกิจที่สุด ๆ จริง ๆ

อ่านต่อ »


พรุ่งนี้ พี่จะลุย!

อ่าน: 3063

ครูปูมีร้านข้าวเช้าเจ้าประจำอยู่ร้านนึง เจ้าของร้านเป็นคนเหนืออัธยาศัยดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายพูดเล่นชวนลูกค้าหัวเราะหัวฮาได้ทุกคน แถมให้ลูกค้าตักเองได้ตามใจชอบด้วยนะ ราคาก็แสนถูก มากันกี่คนก็ตาม ต่อให้สั่้งกับข้าวเต็มโต๊ะ เฉลี่ยแล้วก็ไม่เคยเกินคนละ 20 บาทเสียที ยิ่งครูปูเลือกกินแต่กับที่เป็นผักข้าวก็ไม่ค่อยกิน “ป้าบัว” ก็ยิ่งคิดราคาถูกเข้าไปใหญ่ ข้าวครึ่งก้อน+ผัดผักอย่างละนิด 2 อย่าง คิดครูปู 5 บาท

แป่ว!

นึกถึงสมัยเรียนประถมที่ ตจว.ขึ้นมาเลยอ่ะค่ะ ให้มากกว่านี้ก็ไม่เอา บอกกินนิดเดียวเอง แกคิดตังค์ไม่ลง ครูปูจึงมักหาน้ำพริกรสเด็ดหรืออาหารเหนือไปฝากเพื่อเป็นการขอบคุณอยู่บ่อย ๆ

ตอนเช้า ๆ ร้านป้าบัวเลยเป็นแหล่งรวมเด็กนักเรียนในตอนเช้า ภาพเด็กกำลังงัวเงียขณะถูกพ่อแม่บังคับให้กินข้าวมีให้เห็นทุกวัน

มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง แม่ลูกสี่คน คนโตอยู่ ม.3 ตัวโตเป็นสาวแล้ว คนกลางน่าจะอยู่ ม.2 หรือไม่ก็ ม.1 เพราะตัวโตไล่ ๆ กัน เจ้าน้องชายคนสุดท้องตัวกะเปี๊ยกเดียว น่าจะอยู่อนุบาลหรือไม่ก็ ป.1-2  ทุกครั้งที่เจอจะเห็นยายแม่อ้วนดำคนนี้สูบบุหรี่ปุ๋ย ๆ ไม่ได้หยุดปาก เสียงดังโวยวายตลอดเวลา ทุกคำพูดล้วนด่าทอลูกชายลูกสาวหยาบ ๆ คาย ๆ ทำนองประชดพ่อของลูกที่แอบไปมีเมียน้อย?

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

ที่ประหลาดก็คือ พ่อเด็กเองก็นั่งฟังอยู่ตลอดเวลาขณะนั่งจิบกาแฟอยู่ร้านตรงข้ามเพื่อรอส่งลูก ๆ ไปโรงเรียน?

อ่านต่อ »


เมื่อครูบ้าเลือดถูกตำรวจระราน

อ่าน: 26332

ตอนอยู่สงขลาครูปูเช่าบ้านทาวน์เฮาส์แฝดติดกันสองหลังอยู่กับรุ่นพี่และเพื่อนสนิท เวลากินข้าวสมาชิกทั้งสองบ้านจะมานั่งกินรวมกัน ผลัดกันเป็นเจ้ามือ ผลัดกันเป็นแม่ครัว  คนที่เพิ่งกลับจากบ้านมาก็จะหอบหิ้วผักปลามาแบ่งปันเพื่อน ๆ พ่อแม่ใครส่งพัสดุกับข้าวมาจากไหนก็มาแบ่งกันกิน  หลังบ้านก็เป็นเพียงรั้วปูนเตี้ย ๆ คั่น สองบ้านสามารถช่วยกันเก็บผ้าให้กันและกัน และส่งของไปมาได้อย่างสนุกสนาน เรียกว่าเข้านอกออกในกันเป็นว่าเล่นเลยล่ะค่ะระหว่างบ้านสองหลังนี่

เจ้าของบ้านเช่าก็เอ็นดูเราเหมือนลูกเหมือนหลาน เดี๋ยว ๆ ก็ทำกับข้าวทำขนมมาให้ กล้วยหรือผลไม้ในสวนแกออกก็หิ้วมาให้ วันงานเทศกาลต่าง ๆ ก็หอบหิ้วขนมจากวัดมาฝาก

ต่อมาต่างคนต่างค่อย ๆ แยกย้ายกันไปเนื่องจากได้งานทำบ้าง กลับไปอยู่บ้านกันบ้าง แต่ก็ยังมีรุ่นน้องเข้ามาแซมอยู่เรื่อย ๆ  บ้านหลังติดกันเหลือเพื่อนรุ่นเดียวกันอยู่ 2 คน นอกนั้นก็เป็นรุ่นน้อง บ้านครูปูเองก็มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน 1 คนนอกนั้นก็เป็นรุ่นน้องทั้งหมด

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

อ่านต่อ »


นักสืบประจำโรงเรียน

อ่าน: 2963

เบอร์โทรศัพท์เป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ติดต่อกับนักศึกษาและผู้ปกครอง ด้วยวิถีชีวิตของครอบครัวชาวกรุงปัจจุบันที่ต้องตระเวณทำมาหากินอยู่นอกบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ หลายครอบครัวจึงมีที่พักที่ไม่ถาวรนัก อพาร์ตเมนท์หรือบ้านเช่าที่ย้ายกันได้ง่าย เปลี่ยนแปลงตามสถานที่ที่ได้งานทำ ครอบครัวเหล่านี้จึงไม่มีเบอร์โทรศัพท์บ้าน ครูจึงต้องประสานผู้ปกครองและนักศึกษาผ่านทางโทรศัพท์มือถือเกือบทั้งสิ้น ยกเว้นในรายที่ครอบครัวมีกิจการค้าขายเก่าแก่จริง ๆ ถึงจะมีเบอร์โทรศัพท์บ้านที่ติดต่อได้เป็นหลักแหล่ง

อาจารย์ที่ปรึกษาจะโทรแนะนำตัวกับผู้ปกครองตั้งแต่ครั้งรับตำแหน่งเพื่อทำความรู้จักและแลกเบอร์โทรซึ่งกันและกัน ก่อนโรงเรียนจะส่งจดหมายแจ้งตามไปอีกครั้ง ด้วยข้อตกลงว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลใด ๆ  เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่ทำงาน สถานภาพสมรสหรือเบอร์โทร ต้องแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบด้วย

ปัญหาเกิดตรงที่ไม่แจ้งนี่ล่ะค่ะ

อ่านต่อ »



Main: 0.085891008377075 sec
Sidebar: 0.084188938140869 sec