ไข่(ไม่ยอม)ยัดไส้

7892 ความคิดเห็น โดย krupu เมื่อ 15 มิถุนายน 2014 เวลา 19:25 ในหมวดหมู่ aar, สุขภาวะ, อารมณ์ขัน, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 67562

หลังจากพักเต็มที่เป็นเสาร์อาทิตย์แรกของเดือน
วันนี้เกิดนึกสนุกเปิดทีวี เจอรายการอาหารที่เชิญดารามาทำไข่ยัดไส้
อืม ก็น่ากินดีเนอะ ว่าแล้วก็เอาบ้างดีกว่า
ผักเราก็มี ข้าวโพดย่างเมื่อเช้าก็ยังเหลืออยู่
Mix & Match เก็บเล็กผสมน้อยเอามาทำเมนูนี่้ได้สบาย
เมนูง่าย ๆ แบบนี้ ทำปุ๊บเดียวก็เสร็จ
รีบ Line ไปบอกน้องชาย ซึ่งยังสถิตย์อยู่ในห้องนอนชั้นบน
ว่าอย่าเพิ่งลุกไปไหน ให้เตรียมตัวกินฝีมือเจ๊ได้เลย

ผัก

ส่วนประกอบ หมูสับ 2 ขีด (หลอกล่อน้องชายให้มาติดกับกินผัก(บ้าง)) แครอท 1 หัว เห็ดหอม 7-8 ดอก พริกหวาน 3 สี ข้าวโพดอ่อน 1 แพคเล็ก ข้าวโพดปิ้ง 1 ฝัก กระเทียม 1 กำมือ น้ำมันมะพร้าวทำกับข้าว ซีอิ๊วขาว เกลือ น้ำตาลทราย น้ำมันหอย

ขั้นแรก แช่ผักทุกอย่างในน้ำด่าง 15 นาที แล้วนำขึ้นมาสรงให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่น ๆๆๆๆ

ผัก

ใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับทำอาหาร 1 ช้อนโต๊ะผัดกระเทียมให้หอม แล้วใส่หมูสับลงไปรวน เร่งไฟขึ้นหน่อย ใส่ผักสุกยากตามลำดับ เช่น แครอท ข้าวโพดอ่อนลงไปรวนกับหมูก่อน

ผัด

พอหมูสุก ผักเริ่มน่วม ก็ทยอยใส่ผักที่เหลือตามลงไป เร่งไฟให้แรง

ผัด

ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ เกลือนิดหน่อย เติมซอสมะเขือเทศให้มีรสเปรี้ยวแทรกเข้ามา เมื่อกินกับไข่จะได้รสชาติหลากหลาย ไม่น่าเบื่อ

ผัดไส้

ผัดจนส่วนผสมสุก เริ่มส่งกลิ่นหอม จึงค่อยเติมน้ำมันหอยเป็นส่วนผสมสุดท้าย

เนื่องจากเป็นสูตรที่มีอะไรเหลือในตู้เย็นก็ใส่ ๆ ลงไปให้หมด จึงได้ไส้ที่จะนำไปห่อไข่มา 1 กะละมังเต็ม ๆ  คาดว่าถ้าจะห่อให้หมดนี่ คงต้องขับรถไปขนไข่ไก่ที่สวนป่ามาทั้งเล้าอะนะคะ 55555

ไข่ยัดไส้

อย่ากระนั้นเลย ทดลองห่อแผ่นเล็ก ๆ ชิมเองก่อนดีกว่า

ไข่ยัดไส้

เห็นแล้วละค่ะ ว่าในทีวีเขาใช้กระทะเทฟลอน แต่เอาน่า ขี้เกียจเปลี่ยนกระทะ ระดับเราแล้ว สบายมาก ใช้น้ำมัน 1 ช้อน ทาทั่วกระทะแล้วเทไข่ 1 ฟองที่ตีไว้ลงไป ของแบบนี้มันอยู่ที่ฝีมือ หุหุหุ

ไข่ยัดไส้

ยกกระทะขึ้น แค่ลน ๆ ไฟ เพื่อไม่ให้ไข่เจียวเกรียม เอ ชักไม่เข้าท่าแฮะ ไหงมันติดกระทะล่ะ วางไส้ลงไปปลอบใจตัวเองก่อนแล้วกัน

ไข่ยัดไส้

อ้าว เฮ๊ย ไข่ติดกระทะไม่ยอมพับจริง ๆ ด้วยแฮะ  เงิบสิทีนี้ จากความตั้งใจเดิม จะลองเขียนลง DIY กับเขาบ้าง ปรากฎว่าไอ้เจ้าไข่ยัดไส้ของเรา กลายเป็น ไข่โชว์ไส้ หรือไส้ราดไข่ หรือไข่ไส้แตกดี ก็แล้วแต่จะแก้เกี้ยวกันไป แล้วงี้จะกล้าเอาไปลง DIY ได้ไงเนี่ยะ

ไข่ยัดไส้

เอาเป็นว่า ไหน ๆ ก็ได้พักกายแล้ว ก็พักใจไปด้วยเลยแล้วกัน
จะเอาให้ ล่ายหลั่งใจ มาเป็นเดือน ๆ
ยอมรับความไม่สมหวัง
ขำ ๆ กับไอ้ที่คิดเอาไว้ว่าแน่ แล้วมันก็บ่แน่ดูบ้าง ก็ดีเหมือนกัน

คิดได้ดังนั้น จึงมิสามารถเก็บความอับอายไว้แต่เพียงผู้เดียวได้
จึงโพสต์มาเพื่อโปรดพิจารณาฮาเฮโดยทั่วถึงกัน ^^

ถึงจะผิดคอนเซ็ปไปหน่อย
แต่หน้าตาก็เหลือร้าย
ยิ่งรสชาติยิ่งไม่ต้องพูดถึง
อันนี้พูด โกง โกง ม่ายล่ายโม้ นาฮ้า :P


หัวหน้าบ้า ๆ บอ ๆ

อ่าน: 79920

ด้วยงานแบบบู๊ ๆ ลุย ๆ อาจารย์งานพัฒนาวินัย ฯ มักเหนื่อยล้ากว่าส่วนอื่น ๆ ครูปูจึงจัดกิจกรรมทัศนศึกษาพาน้อง ๆ เที่ยวเชิงหลั่นล้ากันทุกปี  เมื่อสองปีที่แล้วหลังน้ำลด เราเห็นตรงกันว่าควรไปอยุธยา จะได้แวะไปช่วยกันจัดบ้านและข้าวของให้กับเพื่อนคนหนึ่งในอำเภอบางบาลที่ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย พักคืนหนึ่งรุ่งขึ้นก็ไปช่วยอีกหลังที่อ่างทอง วางแผนแบ่งงานกันอย่างลงตัว กำหนดการก็ถูกวางไว้อย่างครื้นเครง แวะไหว้พระไปด้วย หาอะไรอร่อย ๆ กินกันไปด้วยตลอดทาง

อยุธยา

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเป้าหมายก็ลงมือทันที ได้เนื้องานด้วยความสนุกสนานครื้นเครงตลอดวัน ชาวบ้านเห็นทีมหนุ่ม ๆ 2-3 คันรถ แห่กันมาช่วยปรับพื้นที่ โกยดิน ขนขยะไปทิ้งให้ ก็คงชอบ ยกขนม กล้วย ข้าวต้ม กับข้าวมาวางไว้ให้ ทำไปทำมาบ้านที่จะบูรณะก็กลายสภาพเป็นบ้านงานไป เพราะแค่พักเดียวก็มีใครไม่รู้ มาปีนเสาติดไฟสี ๆ ให้ มีโต๊ะกลมมาวาง ผ้าแดงปู โต๊ะจีน อย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ ^^

ทีมเราที่ไปกัน 10 กว่าชีวิต ก็เป็นคอเฮไหนเฮนั่นกันอยู่แล้ว แถมเป็นมือสันทนาการหาตัวจับยากกันทั้งนั้น พักเดียวก็เนียนไปกับชาวบ้านได้ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งอาสา ทำไปพูดคุยแลกเปลี่ยนสรวลเสเฮฮากันไป ตกค่ำก็ต่อคาราโอเกะ ร้องรำลั่นทุ่งกันไป โดยไม่มีบุหรี่หรือแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด ^^

บ้านทรงไทย

สังเกตว่ามีแต่ผู้ใหญ่เฝ้าบ้านทุกหลังไป พอจะมีสาว ๆ กลางคนบ้างก็คงเพราะมีลูกเล็ก ๆ จึงต้องอยู่ดูแล นอกนั้นเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด บ้านของอาจารย์ที่เราไปเยี่ยมนี่คงหนักสุด มีคุณพ่ออายุ 80 อยู่บ้านคนเดียว ยังคงเดินหลังโก่งไปทำนา และทำกิจวัตรทุกอย่างตามลำพังเป็นประจำ  เห็นภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุในบ้านเรา ที่ลูกหลานหนุ่มสาวเลือกไปใช้วิถีชีวิตในเมืองกันได้อย่างชัดเจน

ครูปูก็นั่งโม้กับลุง ๆ ป้า ๆ บ้างก็เอน บ้างก็นอน ปรับทุกข์เล่าเรื่องลูกเรื่องหลานให้ฟัง ยังกับเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็มิปาน ^^

อยุธยา


เช้าวันกลับสังเกตว่าทุกคนยิ้มแย้มหยอกล้อกันอย่างมีความสุขตลอดเวลา มองไปแล้วเหมือนแต่ละคนเป็นลูกหลานบ้านนั้นจริง ๆ ไม่มีความเขินอาย หรือละล้าละลังจะหยิบจับช่วยเหลืองานใด ๆ เลย  แทนที่จะแสดงความอิดโรย จากการถูกหลอกว่าจะพามาเที่ยวแล้วต้องมาลุยงานหนักกว่าอยู่วิทยาลัยเสียอีก ทุกคนกลับดูอิ่มเอมจากการให้กันโดยถ้วนหน้า

ททมาโน ปิโย โหติ  ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก จริง ๆ เนาะคะ ^^

ช่วยน้ำท่วม

ขากลับยังได้รับขนมของฝากจากบ้านนู้นหน่อยจากบ้านนี้นิด พวกเราก็ไม่ลืมอุดหนุนสินค้าของแต่ละบ้าน ทั้งข้าวโพดหวานที่เด็ดมาจากไร่ใหม่ ๆ และขนมหวานของดีจากศูนย์กลางของชุมชนบางบาล ก่อนจะออกจากหมู่บ้านเจ้าถิ่นกำชับนักกำชับหนาว่าจะต้องแวะไปสักการะหลวงพ่อใหญ่ ที่วัดไทรน้อยให้ได้ ทีมเราจึงดิ่งไปยังจุดหมายดังกล่าวทันที

รำแก้บน

จอดรถป๊าด… แม่หัวขบวนตาไวก็เริ่มตั้งข้อสังเกตก่อนเพื่อน
“เอ งานบวชใครหว่า ดูดิ่ คุณยายแก่จนจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว รำเฉิบ ๆ อยู่คนเดียว ทำไมขบวนเขาดูเหงา ๆ เซ็ง ๆ กันจังหว่า”

จำไม่ได้ว่าใครตอบกลับมา

“อาจารย์ปูครับ ผมว่าคนเขาก็รำให้มันเสร็จ ๆ ไปพอเป็นพิธีมังครับ”

“อ้าว เหรอ งั้นระหว่างรอเนี่ยะ เราก็ไปช่วยเขารำดีไหม ได้บุญนาเฟ๊ย พี่เคยได้ยิน ว่าแล้วก็ลุยเลยดีกว่านะ อิอิอิ”

แม่คุณไม่รอช้า ตั้งวงรำเฉิบ ๆ ไปโค้งคุณยายขอเข้าขบวนทันที ลูกพี่ออกลูกบ้าอย่างนี้แล้ว ลูกน้องจะรอดไหมล่ะค่ะ ฮ่า…

ชาวบ้านในขบวนมองด้วยความมึนงงกันพักเดียว ก็ยิ้มรับ คนที่เดินเฉย ๆ ไม่รำก็มารำเป็นเพื่อนกับพวกเรา หนุ่ม ๆ ขบวนเราก็ไปอาสารับกลองยาวมาแบกแล้วก็ช่วยตีกันดังลั่นทุ่งกว่ามืออาชีพเขาเสียอีก ใครมีท่าทีเงียบ ๆ เหงา ๆ พวกเราก็ไปรำล้อมหน้าล้อมหลังให้ได้เขินอาย จนต้องตั้งวงรำตอบกับเราไปด้วย

รำแก้บน

เมื่อเห็นว่าคุณป้าคนโห่ต้นเสียง เสียงเบาและแหบไปแล้ว จึงรีบอาสาทันที

“คุณป้าขา เดี๋ยวหนูช่วยโห่ ดีไหมคะ”
“เออดี ๆ อีหนูเอาเลย โอยมีน้ำใจจริง จริ๊งช่ะ ลูกใครวะเอ็งอะ”

คิดว่าถ้ามัวแนะนำชื่อบุพการีกัน คงเป็นการเสียเวลา เพราะยังไงแล้วคุณป้าแกก็คงไม่รู้จักบุพการีของเราอยู่ดี อย่ากระนั้นเลย

“โห่………………………ฮี้……………..โห่………ฮี้…..โห่….ฮี้….โห่….ฮี้…..โห่….ฮี้… โห่…..ฮี้….โห่ย………….”

ลูกน้องขานรับ

“ฮิ๊ว………………………………………………………………………….”

โห่ด้วยความเมามัน และสำเนียงที่แล้วแต่ขณะนั้นจะนึกครีเอทออกมาได้ไปหลายสิบรอบ ขำก็ขำ ไม่เคยทำอะไรมันขนาดนี้มาก่อน หันไปมองพวกน้อง ๆ  ทุกคนล้วนขำำกันน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน แต่ก็สนุก  จนน้องผู้หญิงคนนึง ขำจนรำต่อไม่ไหว นั่งยอง ๆ เช็ดน้ำตาอยู่ข้างทาง

พอโห่และรำรอบโบสถ์จนครบ 3 รอบแล้ว จึงนั่งพัก มีคนเอาน้ำมาเสิร์ฟบริการผ้าเช็ดหน้าเช็ดตา ก็เพิ่งจะมาตั้งข้อสังเกตกัน

“เอ แต่เราเดินรำกันไม่ทันเห็นนาคสักรอบนึงเลยเนอะ คงอยู่ในโบสถ์แล้วแหละ เข้าไปกราบพระแล้วชมนาคกันสักนิดก่อนกลับดีกว่าเนอะเรา”

เสียงไอ้เจ้าน้องคนหนึ่งกระซิบข้างหูเบา ๆ

“อาจารย์ปูครับ ผมก็สงสัยเลยเดินไปถามป้าหัวหน้าขบวนมาแล้ว แกบอกว่า แกเป็นคณะรำแก้บนไม่ใช่งานบวชหรอกครับ แต่ผมเห็นอาจารย์ปูเริ่มไปแล้ว ก็เลย เอ่อ… เลยตามเลยอะครับ”

“เง้อ!……………………..”

เพิ่งเข้าใจคำว่า “หน้าแตก” ก็วันนี้แหละค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือมันเหวอ ๆ โหวง ๆ แสบ ๆ อาย ๆ ระคนกันไปอะค่ะ แต่ก็ไม่วายตะโกนบอกพรรคพวกที่เหลือให้ได้ระเบิดหัวเราะกันเป็นหมู่คณะ รวมทั้งยังหน้าไม่อายไปบอกชาวบ้านแถวนั้นด้วยว่า พวกหนูเข้าใจผิดนะเนี่ยะ นึกว่าขบวนแห่นาค ทีนี้เลยได้ฮากันทั้งตำบลบางบาลไปอะนะ ^^

เที่ยวอยุธยา

วันนี้คุยกับน้อง ๆ เรื่องความรับผิดชอบในการทำงาน บอกน้อง ๆ ไปว่าอะไรที่ครูปูมอบหมายไปแล้วขอให้ปฏิบัติตามนั้นได้เลย ได้ผลเป็นอย่างไร ติดตรงไหน ขอให้บอก หากปรากฎว่าเกิดความเสียหายจากคำสั่งนั้น ๆ ความผิดจะอยู่ที่ครูปูแต่เพียงผู้เดียว ขอให้สบายใจได้เลย

พูดไปก็ย้อนเรื่องนี้เอามาขำกัน แล้วบอกน้อง ๆ ว่าการเป็นหัวหน้าเขานี่ ไม่ได้ดูเท่เพราะได้เป็นเจ้าของการตัดสินใจเท่านั้นหรอกนะคะ ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบด้วย เพราะวินิจฉัยหรือคำสั่งที่หัวหน้าปล่อยออกไปต้องมั่นใจว่าไตร่ตรองมาอย่างดี มีข้อมูลประกอบเพียงพอ เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลด้านลบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด หากเกิดผลด้านลบดังกล่าวขึ้นจริง ก็ต้องเป็นคนแรกที่แสดงความรับผิดชอบอีกด้วย

เรื่องเล่าขำ ๆ แบบด้านบนนี่ วันหนึ่งคงขำไม่ออก ถ้าครูปูโดนผู้ใต้บังคับบัญชาต่อว่าโทษฐานที่พาเขาไปเหนื่อย ไปอาย ไปร้อน ไปบ้า โดยไม่ใช่หน้าที่ (ดีนะที่เราบ้านำไปก่อน เลยไม่มีใครบ่นว่าอะไร)

เอ หรือว่ามีหว่า ใครผ่านมาทาง VBAC ก็ลองสอบถามทีมนี้ดูก็แล้วกันนะคะ ^^

อาจารย์ VBAC


คบกันทนจน 40 ปี

อ่าน: 113006

ตอนเด็ก ๆ แถวบ้านที่สุราษฎร์เขามีแต่ลูกชายกันทั้งนั้น พอมีครูปูไปอยู่ก็เลยเหมือนเป็นของแปลก?  ที่บ้านคงคิดจะหาเพื่อนเล่นให้นะคะ โชคดีที่บ้านถัดไปอีกสองหลัง เกิดมีลูกหลงคนสุดท้องเป็นลูกสาวอายุเท่าครูปูเด๊ะ เลยถูกจับคู่ให้เป็นเกลอกันตั้งแต่อายุได้ขวบเดียว

คำว่า “เป็นเกลอกัน”  ก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าเขาต้องทำอย่างไร แต่ไอ้คู่นี้ทำอะไรก็ต้องทำด้วยกันหมด เราสองคนเข้านอกออกในบ้านของกันและกันตลอด ลืมตามาก็เดินมาหากันแล้ว กับข้าวบ้านไหนน่ากินกว่ากันเราก็เลือกจ่อมลงบ้านนั้น ถูกที่บ้านใช้ถูบ้าน เราก็ไม่ลืมที่จะไปลากเพื่อนมาร่วมรับชะตากรรมด้วย ถูกใช้ไปซื้อของ ก็ต้องเดินไปลากอีกคนไปเป็นเพื่อนด้วย

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

อ่านต่อ »


ผีเข้า!

อ่าน: 3102

วันนี้คุยกันถึงเรื่องการเจ็บป่วยของนักเรียนตั้งแต่ป่วยจริงด้วยโรคประจำตัวต่าง ๆ ปวดท้องประจำเดือน ป่วยการเมือง จนไปถึงแสดงอาการป่วยเพียงเพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากครูหรือเพื่อน ๆ

ครูปูจึงเล่าให้น้อง ๆ ฟังว่า ตอนโรงเรียนเพิ่งเปิดสอนในปี 2542 มีครูอยู่ 10 คน นักเรียนสองร้อยกว่า  มีนักเรียนหญิงฝาแฝดคู่หนึ่ง คนพี่ตัวเล็กกว่าร่าเริงแจ่มใส พูดเก่ง กล้าพูด กล้าถาม หัวไว เรียนเก่ง ส่วนคนน้องเงียบ ตัวโตกว่าพี่จึงดูเป็นสาวกว่า ท่าทางเรียบร้อย ใครพูดอะไรได้แต่ยิ้ม ๆ แต่ผลการเรียนอ่อนมากต้องลงซ่อมแทบทุกภาคเรียน

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

อ่านต่อ »


มามะ… มากอดกัน ^_^

317 ความคิดเห็น โดย krupu เมื่อ 3 กันยายน 2010 เวลา 20:00 ในหมวดหมู่ อารมณ์ขัน, เจ้าเป็นไผ, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 5883

ขอส่งภาพกอดของพี่ ๆ น้อง ๆ มาให้ป้าหวานด้วยคนนะคะ  ทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นชาวเฮกับเขาหรือยัง

แต่ถ้าเกณฑ์พิจารณา คือ เป็นคนเฮ ๆ ฮา ๆ (ห้ามต่อ) ล่ะก็

เป็นมาตั้งแต่เกิดแว๊ววววววว…..ล่ะนายยยยย…

หน้าเหมือนกันยังก๊ะโขกออกมาแน่ะค่ะ  :)

http://gotoknow.org/file/pitsini502/rapee05.JPG

กอดนี้แหล่ะค่ะ ที่ป่าแทบแตก

ฮิ๊ว…….. :P

http://gotoknow.org/file/krukim/pootin.jpg

อ่านต่อ »


โชคดี…มีอาชีพเป็นอาวุธ

อ่าน: 3860

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

เมื่อนักศึกษากลับบ้านกันหมดแล้วในช่วงเย็น ภาพความวุ่นวายในห้องพักครูจะเปลี่ยนเป็นภาพอาจารย์ที่ปรึกษาโทรศัพท์ติดตามนักศึกษาที่ขาดเรียน ติดปัญหาพฤติกรรมที่งานพัฒนาวินัยเพิ่งส่งบันทึกมาถึงมือหรือติดค้างงานในรายวิชาต่าง ๆ เพราะอาจารย์มีสอนระหว่างวันจึงไม่รู้ว่าใครขาดเรียน ใครมาสาย มีอะไรก็ต้องอาศัย update เอาช่วงนี้

บ้างก็กำลังต่อล้อต่อเถียงกับนักศึกษา จริงไม่จริง อำไม่อำ

“ถ้าเธอมาจริงแล้วทำไมบันทึกการสอนอาจารย์เค้าเช็คขาดล่ะ

ไปรวมตัวกินข้าวกันหน้าปากซอยอีกแล้วสิ

มันเป็นอะไร ถ้าไม่ไปทำผมเสริมสวยก่อนเนี่ยะ เข้าโรงเรียนไม่ถูกหรือไง

วิชาไหนเค้าบอกว่าจะให้คะแนนผมเรียบแปล้เหรอ

อ่านต่อ »


ครูโบตัน!

อ่าน: 2815

พฤติกรรมที่ถือว่าหนักหนาของนักศึกษาคือการขาดเรียนหรือมาเรียนสายโดยไม่มีเหตุอันควร ครูปูถือว่าเป็นสัญญาณแรกของอีกหลาย ๆ ปัญหา ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอน ระบบการบริหารจัดการโดยรวม ระบบการดูแลช่วยเหลือ ศักยภาพของครู สภาพความพร้อมของนักศึกษาหรือระดับความเอาใจใส่ของผู้ปกครอง

ถ้าการเรียนการสอนสนุกสนานมีประสิทธิภาพ เด็ก ๆ ได้รับทั้งความรู้และความประทับใจ กิจกรรมต่าง ๆ ที่สถานศึกษาจัดขึ้นสอดรับกับความสนใจของนักศึกษาจริง อาจารย์ให้การดูแลใกล้ชิด สถานศึกษามีบรรยากาศน่าอยู่น่าเรียน ผู้ปกครองร่วมมือดูแลกวดขัน ประสานความร่วมมือกับอาจารย์ติดตามพัฒนาการด้านต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะที่พึงประสงค์ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ก็มีความเป็นไปได้สูงว่านักศึกษาจะเกิดพัฒนาการตามศักยภาพจริงของตนได้และสำเร็จการศึกษาได้ภายในเวลาที่หลักสูตรกำหนด

อ่านต่อ »


เสียงครวญจากหลวงพี่…

ไม่มีความคิดเห็น โดย krupu เมื่อ 14 สิงหาคม 2010 เวลา 5:00 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต, ธรรมะ, ศาสนา, สังคม, อารมณ์ขัน #
อ่าน: 9759

เพื่อนส่งเมล์มาให้เรื่องหลวงพี่ท่านหนึ่งแนะนำข้อปฏิบัติในการใส่บาตร ขำดีค่ะ

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

1. นิมนต์พระ
หลังจากที่เราเตรียมสำรับกับข้าวเรียบร้อยแล้ว

เราก็ยืนรอพระที่จะเดินบิณฑบาตผ่านมา
การยืนรอพระในขั้นตอนนี้ ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่า เส้นทางนี้มีพระเดินผ่านหรือไม่
ไม่ใช่ว่าไปรอบนทางสายเปลี่ยวที่ไม่มีพระเดินผ่าน คงไม่ได้ใส่กันพอดี
รอซักพัก พอมีพระเดินมาก็นิมนต์ท่าน
การนิมนต์ ก็ควรใช้คำว่า “นิมนต์ครับ/ค่ะท่าน” แค่นี้พระท่านก็ทราบแล้ว
ตอนเป็นพระเคยเดินบิณฑบาตที่ตลาดเขมร โยมนิมนต์ด้วยถ้อยคำอันรื่นหูว่า

“ท่านเจ้าประคุณเจ้าคะ  นิมนต์เจ้าค่ะ” (ใช้คำไฮโซมาก)
มีอีกทีนึงโยมใช้คำว่า “นิมนต์เจ้าค่ะ พระอาจารย์” (เอ่อ โยม อาตมาเพิ่งบวชอาทิตย์เดียว)
การนิมนต์พระควรนิมนต์ด้วยความสำรวมและใช้เสียงดังพอประมาณ
โยมบางคนเรียกพระด้วยเสียงอันดัง “นิ โมนน!!” (แง้ ทำไมต้องตะคอกด้วย - -”)

อ่านต่อ »


เปลือยครูปู

ไม่มีความคิดเห็น โดย krupu เมื่อ 9 สิงหาคม 2010 เวลา 22:30 ในหมวดหมู่ aar, การศึกษา, สังคม, สุขภาพ, สุขภาวะ, อารมณ์ขัน #
อ่าน: 15728

เนื่องจากได้แรงบันดาลใจจากปฏิทินนู๊ด เอ๊ยไม่ใช่ เนื่องจากเห็นพ่อครูมักใช้สำนวนเปลือยครูบาที่นู่นที่นี่อยู่เป็นประจำ พอได้ทีเลยเอาบ้างเดี๋ยวจะเสียชื่อลูกสาวครูบาไปซะฉิบ  :P

เพิ่งไปผ่าตัดก้อนไขมัน (Lipoma) มาหมาด ๆ เลยเป็นเหตุให้หายซ่าไประยะนึงค่ะ พอกลับมามีแต่คนถามว่าเป็นอะไร ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เอารูปถ่ายมาให้ดูกันเสียเลย

ก่อนหน้านี้ถ้าใส่เสื้อตัวเล็ก ๆ ครูปูจะเหมือนคนตัวเบี้ยวเหมือนซี่โครงด้านขวามันบานออกมา คลำก้อนในภาพนี้เจอเมื่อซัก 3 ปีก่อนตอนกลับบ้านแล้วถอดเสื้อให้แม่ดู

แม่ร้องจ๊าก “เนื้องอกนี่”

ทำเอาใจแป้วไปถึงตาตุ่มเชียว

อ่านต่อ »


แจ๋วขี้เซา ณ สวนป่า 4 พ.ค.2553

อ่าน: 42878

เช้านี้นกยูงคงทนเห็นภาพครูปูนอนอล่างฉ่างคนเดียวบนเสื่อหน้าทีวีในห้องโถงไม่ไหว เลยเคาะประตูกระจก โป้่ก ๆๆ นึกถึงเสียงยายตะโกนปลุกที่บ้านเลย

ปูเอ๊ยยยย ตื่นได้แล้ว…

แม่หวีหายไปไหน แล้วหว่า (จะสงสัยทำไมไม่ทราบ ก็มันสายโด่ง 7 โมงกว่าแล้วนี่)

อ่านต่อ »



Main: 0.08367395401001 sec
Sidebar: 0.081393957138062 sec