โชคดี…มีอาชีพเป็นอาวุธ

โดย krupu เมื่อ 2 กันยายน 2010 เวลา 21:00 ในหมวดหมู่ ข้อคิดชีวิต, มุมมองของชีวิต, สังคม, สำนึกสาธารณะ, อารมณ์ขัน #
อ่าน: 3671

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)

เมื่อนักศึกษากลับบ้านกันหมดแล้วในช่วงเย็น ภาพความวุ่นวายในห้องพักครูจะเปลี่ยนเป็นภาพอาจารย์ที่ปรึกษาโทรศัพท์ติดตามนักศึกษาที่ขาดเรียน ติดปัญหาพฤติกรรมที่งานพัฒนาวินัยเพิ่งส่งบันทึกมาถึงมือหรือติดค้างงานในรายวิชาต่าง ๆ เพราะอาจารย์มีสอนระหว่างวันจึงไม่รู้ว่าใครขาดเรียน ใครมาสาย มีอะไรก็ต้องอาศัย update เอาช่วงนี้

บ้างก็กำลังต่อล้อต่อเถียงกับนักศึกษา จริงไม่จริง อำไม่อำ

“ถ้าเธอมาจริงแล้วทำไมบันทึกการสอนอาจารย์เค้าเช็คขาดล่ะ

ไปรวมตัวกินข้าวกันหน้าปากซอยอีกแล้วสิ

มันเป็นอะไร ถ้าไม่ไปทำผมเสริมสวยก่อนเนี่ยะ เข้าโรงเรียนไม่ถูกหรือไง

วิชาไหนเค้าบอกว่าจะให้คะแนนผมเรียบแปล้เหรอ

ถามจริงนะ ไม่สงสารพ่อแม่เหรอ สระไดร์ทีนึง 40-50 บาท

แม่เราน่ะอุตส่าห์กัดฟันกู้ร้อยละ 20 มาจ่ายค่าเทอม แม่มาร้องไห้กี่เที่ยวแล้วรู้สึกรู้สาอะไรบ้างไหม ฮึ!

พรุ่งนี้มาพบ’จารย์แต่เช้าเลยนะห้ามขึ้นเรียน ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง”

บ้างก็ “คุณแม่คะคุณแม่ขาช่วงนี้น้องไม่น่ารักเลยค่ะ #%#$@!&^%(**^&*% ” (ฟ้องๆๆๆ)

บ้างก็บ่นกะงอดกะแงดโทรไม่ติดไม่ยอมรับสาย บ้างก็อาฆาตแค้น “หนอย เห็นเป็นเบอร์ฉันทีไร(มัน)ไม่เคยรับสายซักที พรุ่งนี้เห็นดีกันแน่ ฮึ่ม!”

เรียกว่าถ้าได้เห็นหลากหลายอากัปกริยาของความห่วงใยแบบโหด ๆ ฮา ๆ ของบรรดาครู ๆ ก็ขำ ๆ ดีเหมือนกันค่ะ

เด็กน้อยเอ๋ย เมื่อไหร่หนอเธอจะข้ามผ่านคืนวันของความไม่รู้ไม่เข้าใจอะไร ๆ ในชีวิตไปโดยเร็วเสียที ถึงจะอิ่มเอมกับวิชาชีพที่เลือกแล้ว แต่นับวันความไม่รู้รุ่นแล้วรุ่นเล่าของพวกเจ้าก็ได้ฉุดลากสังขารของครูให้ร่วงชราไปได้โดยไว

คิดถึง “กว่าจะรู้เดียงสา” ขึ้นมาเฉยเลย

เฮ้อ…บ่น ๆๆ เสียหน่อย เดี๋ยวจะไม่สมกับที่เป็นครู อิ..อิ..อิ

อยู่ดี ๆ เอะใจกับการคุยของอาจารย์ท่านหนึ่งค่ะ

อาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ใหญ่มากแล้ว อายุมากกว่าครูปูรอบนึง เรียบร้อย ใจดี เด็ก ๆ เรียกอาจารย์แม่ เห็นลุกขึ้นยืนคุยโทรศัพท์ไปทำหน้าเลิ่กลั่กไป นึกเป็นห่วงว่ามีเรื่องที่บ้านหรือเปล่าเพราะทราบว่ามีแม่อายุมากขี้หลงขี้ลืมอยู่ที่บ้านด้วย เดินหายไปจากบ้านหลายครั้งทำกับข้าวแล้วไฟไหม้ครัวก็เคย

พยายามส่งสายตาเหมือนเป็นสัญญาณว่าเราพร้อมจะช่วยเหลือ เห็นแกสะกิดน้องที่นั่งข้าง ๆ ให้จดข้อมูลให้หน่อย ได้ยินแว่ว ๆ ว่าเรื่องเงิน  เอ อย่างแกไม่มีหนี้สินนี่นา ไม่เกรงใจดีกว่ากลัวแกจะ โดนหลอกทางโทรศัพท์ พอเห็นสายตาครูปูคงรู้ว่าโดนถามแน่ แกเลยเร่ง volume การคุยให้ดังขึ้นพอที่จะให้เราได้ยินไปด้วย วางหูปุ๊บครูปูถามปั๊บ

ปรากฏว่ามีคนอ้างว่าโทรมาจากศูนย์บัตรเครดิตธนาคารหนึ่งแจ้งว่าอาจารย์ท่านนี้มียอดค้างชำระการใ้ช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าอยู่ 38,500 บาท ครูปูร้องถามเสียงหลงทันที

“แล้วช่วงที่ผ่านมาอาจารย์ได้ไปรูดซื้ออะไรมั้ยล่ะคะ”

“ไม่มีค่ะ”

“แล้วมีบัญชีของธนาคารนี้มั้ย”

“มีค่ะ”

“มีเงินในบัญชีมั้ย”

“มีค่ะ”

“เยอะมั้ย”

“นิดเดียวเองค่ะ”

“แล้วอาจารย์มีบัตรเครดิตของธนาคารนี้มั้ย”

“ไม่มีค่ะ”

“เง้อ! แล้วมันขอหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของอาจารย์หรือเปล่า”

“ใช่ค่ะ”

“ง่ะ! แล้วให้มันไปหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“เจี๊ยก!”

“ก็พอบอกไปว่าไม่ได้ใช้เค้าก็บอกว่าจะตรวจสอบให้แต่ต้องให้ข้อมูลส่วนตัวเค้าน่ะค่ะ”

“อาจารย์คะ ถ้าอาจารย์ไม่ได้ใช้บัตรมันไม่มีบัตรมัน อาจารย์จะไปกลัวมันทำแมวอะไรล่ะคะ หากมียอดการใช้จริงธนาคารเขาจะส่งเอกสารใบแจ้งหนี้มาตามที่อยู่ที่อาจารย์ให้ไว้ ยอดเท่าไหร่ ใช้บัตรที่ไหน ค่าอะไร ชำระขั้นต่ำเท่าไหร่ มีกำหนดระยะเวลาว่าต้องชำระไม่เกินวันที่เท่าไหร่ ด้วยวิธีไหนบ้าง อาจารย์เคยเห็นใบแจ้งหนี้อย่างที่ว่าไหมคะ”

“เออ จริงด้วยค่ะ เคยค่ะ เคย”

“แล้วถ้าอาจารย์เผลอไปสมัครบัตรไว้จริง ศูนย์เขาก็ต้องมีข้อมูลส่วนตัวอาจารย์อยู่เรียบร้อยแล้วสิคะ มันจะมาถามเลข 13 หลักไปทำบ้าอะไร ถ้าจะยืนยันบุคคลเขาถามแค่วันเดือนปีเกิด ที่อยู่ที่ส่งเอกสาร หมายเลขโทรศัพท์ วงเงินที่ได้รับการอนุมัติก็พอแล้ว ไอ้เลข 13 หลักเนี่ยะ บอกใครไปง่าย ๆ มันเอาไปทำธุรกรรมแทนเราได้เลยนะอาจารย์”

“โอย ตาย ทำยังไงดีล่ะคะ อาจารย์ปู (หน้าซีดในบัดดล)  บอกมันไปหมดแล้วอ่ะ ก็มันขู่เอา ขู่เอา ถ้าไม่ชำระหนี้ มันบอกจะดำเนินการทางกฎหมาย เราต้องแสดงตัว”

“อาจารย์ไปตรวจสอบเงินในบัญชีก่อนแล้วกันค่ะ โทรตรวจสอบกับธนาคารดูสิคะถ้าไม่จริงให้เขายกเลิกการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีเราก่อนนะคะ โดยเฉพาะทาง internet”

วิ่งหน้าเจื่อนออกไปโทรหาธนาคารสักพักกลับมาบอก “ธนาคารแจ้งว่าไม่มีการโทรทวงหนี้ทางโทรศัพท์ค่ะ แล้วก็ไม่มียอดค้างเขาด้วย”

“แหม ไอ้พวกนี้น้า อาจารย์อย่าไปเสียขวัญเลยนะคะช่างมัน ดีแล้วเราจะได้รู้ไว้ อาจารย์ปูก็เคยโดนค่ะ ตอนนั้นกำลังว่างอยู่พอดีเลยมีอารมณ์สนุกกับมันฟังมันไปเรื่อย พอมันขอเลข 13 หลักเท่านั้นแหล่ะ เลยด่าไปเลย

แหม น้องนี่ช่างโง่…จริงนะ ตอนเค้าสมัครบัตรเครดิตกันนี่เขาต้องใช้สำเนาบัตรประชาชนด้วยจ๊ะ แล้วในนั้นแหละที่มันมีเลข 13 หลักอยู่ ถ้าเป็นพนักงานจริงใช้คอมพิวเตอร์ทำงานหรือนั่งชะโงกหน้าดูหม้อหุงข้าวอยู่ล่ะ ถึงไม่เห็นข้อมูลพี่เก่งเหมือนกันนะที่หาเบอร์โทรมาได้แต่ทะลึ่งถามไม่ฉลาดแบบนี้ไม่เนียนนะน้อง แล้วไอ้ยอดหนี้ที่เธอว่าหน่ะพี่ไม่เคยใช้หรอกจ๊ะ เธอไม่รู้เหรอว่าพี่มันโรคจิตตัวจริงสมัครบัตรเครดิตไว้เอาของแถมอย่างเดียว พอได้แล้วก็ยกเลิกอ่ะ เคยเจออะป่าว

ไอ้เรื่องค้างเคิ้งอะไรนั่นเธอไม่ต้องมาพูดกับพี่หรอกนะ พี่แค่ว่างอยู่แป๊บนึงเลยจะลองฟังเทคนิคเธอดูน่ะไม่มีอะไรหรอก เธอล่ะ? ยังอยากจะหลอกถามอะไรพี่อยู่อีกหรือเปล่า หือ?”

มันวางหูใส่ดัง “โครม”

หัวเราะกันครืนคลายเครียดกันไป เลยฝากให้หัวหน้างานในห้องกระจายกันแจ้งครูที่เหลือให้ระวังมิจฉาชีพพวกนี้ไว้ด้วย กำลังจะแยกย้ายกันไปทำงาน อาจารย์ท่านนี้หน้าตาเลิ่กลั่กอีก “อาจารย์ปูขา เบอร์แปลก ๆ โทรมาอีกแล้วค่ะ” (เสียขวัญแล้ว)

“เอ๊า อาจารย์ก็รับสิคะ อาจเป็นผู้ปกครองก็ได้”

คุยได้สองคำ ปากคอสั่น “อาจารย์ปูคะ เค้าบอกว่า เค้าเป็นตำรวจโทรมาจาก DSI ค่ะ เรื่องค้างชำระค่าบัตรเครดิตเมื่อซักครู่”

“อ๋อ เหรอคะ  ม่ะ อาจารย์ส่งม่ะ”

ทีนี้บรรยากาศในห้องเงียบสงัด แทบไม่มีใครหายใจหายคอ

“สวัสดีค่าาาา…….”  (ตั้งใจทำเสียงสวยใส อ่อนกว่าวัย แต่เกินเหตุมั่ก ๆ :P  )

“สวัสดีครับ เมื่อซักครู่ผมเพิ่งรับเรื่องจากธนาคาร……. โทรมาแจ้งทางเราว่าคุณค้างชำระค่าใช้บัตรเครดิตเป็นจำนวน 38,500 บาทนะครับ เขาบอกว่าแจ้งคุณแล้วแต่คุณปฏิเสธการชำระหนี้ ใช่ไหมครับ”

“เอ่อ…เอ่อ…แล้ว…ดิฉันจะต้องทำยังไงบ้างคะนี่ สับสนไปหมดแล้วค่ะ”

(อายตัวเองจังเพราะต้องทำเสียงปัญญาอ๊อนปัญญาอ่อนไปด้วย ว่าแต่ปีนี้พ่อครูบาอย่าลืมส่งหนูเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองดารานางอิจฉาฝ่ายหญิงด้วยนะ พ่อนะ ก๊ากกกกก…)

“จะยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเค้าทวงแล้วคุณก็ต้องชำระ” (เสียงแข็งเชียว)

“เหรอคะ”  (ฉันก็ทำเป๊น…)

“ใช่ครับ จะได้ไม่ต้องเป็นปัญหาถึงโรงถึงศาล”

“ไม่ทราบดิฉันเรียนสายกับคุณอะไรอยู่คะนี่”

“ผม ร้อยตำรวจโทอภิลักษณ์ ใจกล้า จาก DSI ครับ”

(พอกันทีไม่มีเวลาเล่นแล้วจะรีบเคลียร์งานเฟ๊ย)

“นี่คุณ วันหลังจะหาชื่อมาใช้นี่ช่วยเอาที่มันเก๋ ๆ เอาแบบตั้งใจ ๆ  ไกล ๆ ชื่อในแบบเรียนสมัยประถมหน่อยนะคุณ แล้วไอ้ DSI นี่ มันตั้งขึ้นมารับจ้างทวงหนี้ให้ธนาคารตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ห๋า ว่างนักหรือไง คดีการมงการเมืองเต็มหน้าหนังสือพิมพ์ไปหมด เคลียร์เสร็จแล้วยัง จะโดนเล่นงานแหล่ไม่แหล่ เอาตัวรอดแล้วเหรอ นึกว่าเท่มากใช่ไหม เอาชื่อเขามาใช้เนี่ยะ ใจกล้าน่ะ กล้ามากมั้ย ?”

“เอ่อ คุณ”

“ไม่ต้องมาฉัน คุณนั่นแหละรู้ตัวหรือเปล่าคุณกำลังเล่นงานครูแก่ ๆ คนนึงอยู่นะ(จะหยุดพักกลางทางเพื่อขอโทษอาจารย์ท่านนี้ก่อนก็ไม่ทันแล้วอ่ะ) แกเป็นครูมาตั้งนมตั้งนาม สอนลูกศิษย์มาก็ตั้งหลายพันหลายหมื่นคน เผลอ ๆ ลูกหลานโคตรเง่าเหล่าตระกูลคุณอาจจะเคยเรียนกับแกก็ได้ คุณทำร้ายครูบาอาจารย์ได้ลง ใจคอทำด้วยอะไรกันคู๊ณ…ถามหน่อย”

“เดี๋ยวครับ”

“ไม่ต้องมาเดี๋ยว คุณนั่นแหละเลิกได้เลิกเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้อาชีพหลอกลวงชาวบ้านเขานี่ คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมว่าทำงานแบบนี้ เงินที่ได้มาตอนใช้รู้สึกอะไรบ้างไหม มีความสุขจริงเหรอเงินบาปเนี่ยะนะ กล้าใช้เหรอ ถามจริง รายได้ดีมากเลยเหรอ ชั่งใจแล้วยัง คุ้มไหมกับบาปกรรมที่จะต้องชดใช้

ถ้ารับจ้างเค้ามาอีกทีก็ไม่เป็นไรนะคุณ หางานสุจริตทำเถอะ อย่าไปเสี่ยงเลย ไม่คุ้มหรอก ฟังเสียงดูอายุก็น่าจะยังไม่มาก ชีวิตยังอีกตั้งไกลทำที่เหลือให้มันสง่างามสมกับที่ได้เกิดมาหน่อยไม่ดีเหรอ”

“เอ่อ”

“เวรกรรมน่ะมีจริงนะคุณ เชื่ออาจารย์สิ อาจารย์เป็นครูบาอาจารย์ พูดจริงไม่หลอกคุณหรอก แล้วที่พูดนี่เพราะเป็นห่วงคุณหรอกนะไม่ใช่อะไร (ไปรู้จักจนถึงขั้นไปห่วงไปไยเค้าได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะฉัน :( )

มันไม่ลงที่คุณก็ต้องไปลงที่ลูกคุณ ไม่ลงที่ลูกคุณพ่อแม่พี่น้องคุณก็ต้องเจอ ไม่เจอชาตินี้ชาติหน้าก็ต้องเจอ คุณได้เจอแน่ นี่ถ้าเป็นคนในครอบครัวคุณโดนบ้าง เสียขวัญเสียทรัพย์ที่เค้าอุตส่าห์หามาด้วยความยากลำบาก คุณจะรู้สึกยังไง แล้วยิ่งมาทำกับครูบาอาจารย์ด้วยแล้ว เคยเรียนหนังสือมั้ย นึกสิ นึกถึงหน้าครูสมัยประถม นึกถึงหน้าครูสมัยมัธยม ครูที่คุณกำลังเล่นงานเขาอยู่นี่ก็หน้าตาแบบนั้นแหละ ยังทำเค้าได้ลงคออีกเหรอ (มั่วสุด ๆ เลยตรู)

ครูบาอาจารย์ก็เหมือนพ่อแม่แหละ เค้ามีเอาไว้บูชาไว้ทดแทนบุญคุณ ไม่มีโจรบ้าที่ไหนเค้าทำร้ายพ่อแม่ครูอาจารย์กันหรอกนะคุณนะ คุณเชื่ออาจารย์เถอะ อาจารย์เห็นมานักต่อนักแล้วไม่เจริญหรอก เลิกเหอะ หยุดทำบาปแต่เพียงเท่านี้ กรรมของคุณจะได้ไม่หนักไปกว่าที่เป็นอยู่”

“โครม!”

เงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์นึกว่าพวกน้อง ๆ จะหัวเราะใส่ที่ไหนได้เงียบกริบเลยแฮะ หน้าเจื่อนกลืนน้ำลายกันเอื๊อก ๆ แล้วก็แยกย้ายไปกระจายข่าวตามนั้น

ไม่รู้ไปกระจายกันอีท่าไหน

วันนี้เดินสวนใครมีแต่คน อิอิ ใส่ อ่ะ

เฮ้อ…

:(

Post to Facebook

« « Prev : ครูโบตัน!

Next : มามะ… มากอดกัน ^_^ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "โชคดี…มีอาชีพเป็นอาวุธ"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.18210697174072 sec
Sidebar: 0.1035270690918 sec