หัวหน้าบ้า ๆ บอ ๆ

อ่าน: 80411

ด้วยงานแบบบู๊ ๆ ลุย ๆ อาจารย์งานพัฒนาวินัย ฯ มักเหนื่อยล้ากว่าส่วนอื่น ๆ ครูปูจึงจัดกิจกรรมทัศนศึกษาพาน้อง ๆ เที่ยวเชิงหลั่นล้ากันทุกปี  เมื่อสองปีที่แล้วหลังน้ำลด เราเห็นตรงกันว่าควรไปอยุธยา จะได้แวะไปช่วยกันจัดบ้านและข้าวของให้กับเพื่อนคนหนึ่งในอำเภอบางบาลที่ถูกน้ำท่วมเสียหายด้วย พักคืนหนึ่งรุ่งขึ้นก็ไปช่วยอีกหลังที่อ่างทอง วางแผนแบ่งงานกันอย่างลงตัว กำหนดการก็ถูกวางไว้อย่างครื้นเครง แวะไหว้พระไปด้วย หาอะไรอร่อย ๆ กินกันไปด้วยตลอดทาง

อยุธยา

เมื่อเดินทางไปถึงบ้านเป้าหมายก็ลงมือทันที ได้เนื้องานด้วยความสนุกสนานครื้นเครงตลอดวัน ชาวบ้านเห็นทีมหนุ่ม ๆ 2-3 คันรถ แห่กันมาช่วยปรับพื้นที่ โกยดิน ขนขยะไปทิ้งให้ ก็คงชอบ ยกขนม กล้วย ข้าวต้ม กับข้าวมาวางไว้ให้ ทำไปทำมาบ้านที่จะบูรณะก็กลายสภาพเป็นบ้านงานไป เพราะแค่พักเดียวก็มีใครไม่รู้ มาปีนเสาติดไฟสี ๆ ให้ มีโต๊ะกลมมาวาง ผ้าแดงปู โต๊ะจีน อย่างไรอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ ^^

ทีมเราที่ไปกัน 10 กว่าชีวิต ก็เป็นคอเฮไหนเฮนั่นกันอยู่แล้ว แถมเป็นมือสันทนาการหาตัวจับยากกันทั้งนั้น พักเดียวก็เนียนไปกับชาวบ้านได้ ยิ่งรู้จักก็ยิ่งอาสา ทำไปพูดคุยแลกเปลี่ยนสรวลเสเฮฮากันไป ตกค่ำก็ต่อคาราโอเกะ ร้องรำลั่นทุ่งกันไป โดยไม่มีบุหรี่หรือแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ประการใด ^^

บ้านทรงไทย

สังเกตว่ามีแต่ผู้ใหญ่เฝ้าบ้านทุกหลังไป พอจะมีสาว ๆ กลางคนบ้างก็คงเพราะมีลูกเล็ก ๆ จึงต้องอยู่ดูแล นอกนั้นเป็นผู้สูงอายุทั้งหมด บ้านของอาจารย์ที่เราไปเยี่ยมนี่คงหนักสุด มีคุณพ่ออายุ 80 อยู่บ้านคนเดียว ยังคงเดินหลังโก่งไปทำนา และทำกิจวัตรทุกอย่างตามลำพังเป็นประจำ  เห็นภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุในบ้านเรา ที่ลูกหลานหนุ่มสาวเลือกไปใช้วิถีชีวิตในเมืองกันได้อย่างชัดเจน

ครูปูก็นั่งโม้กับลุง ๆ ป้า ๆ บ้างก็เอน บ้างก็นอน ปรับทุกข์เล่าเรื่องลูกเรื่องหลานให้ฟัง ยังกับเราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็มิปาน ^^

อยุธยา


เช้าวันกลับสังเกตว่าทุกคนยิ้มแย้มหยอกล้อกันอย่างมีความสุขตลอดเวลา มองไปแล้วเหมือนแต่ละคนเป็นลูกหลานบ้านนั้นจริง ๆ ไม่มีความเขินอาย หรือละล้าละลังจะหยิบจับช่วยเหลืองานใด ๆ เลย  แทนที่จะแสดงความอิดโรย จากการถูกหลอกว่าจะพามาเที่ยวแล้วต้องมาลุยงานหนักกว่าอยู่วิทยาลัยเสียอีก ทุกคนกลับดูอิ่มเอมจากการให้กันโดยถ้วนหน้า

ททมาโน ปิโย โหติ  ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก จริง ๆ เนาะคะ ^^

ช่วยน้ำท่วม

ขากลับยังได้รับขนมของฝากจากบ้านนู้นหน่อยจากบ้านนี้นิด พวกเราก็ไม่ลืมอุดหนุนสินค้าของแต่ละบ้าน ทั้งข้าวโพดหวานที่เด็ดมาจากไร่ใหม่ ๆ และขนมหวานของดีจากศูนย์กลางของชุมชนบางบาล ก่อนจะออกจากหมู่บ้านเจ้าถิ่นกำชับนักกำชับหนาว่าจะต้องแวะไปสักการะหลวงพ่อใหญ่ ที่วัดไทรน้อยให้ได้ ทีมเราจึงดิ่งไปยังจุดหมายดังกล่าวทันที

รำแก้บน

จอดรถป๊าด… แม่หัวขบวนตาไวก็เริ่มตั้งข้อสังเกตก่อนเพื่อน
“เอ งานบวชใครหว่า ดูดิ่ คุณยายแก่จนจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว รำเฉิบ ๆ อยู่คนเดียว ทำไมขบวนเขาดูเหงา ๆ เซ็ง ๆ กันจังหว่า”

จำไม่ได้ว่าใครตอบกลับมา

“อาจารย์ปูครับ ผมว่าคนเขาก็รำให้มันเสร็จ ๆ ไปพอเป็นพิธีมังครับ”

“อ้าว เหรอ งั้นระหว่างรอเนี่ยะ เราก็ไปช่วยเขารำดีไหม ได้บุญนาเฟ๊ย พี่เคยได้ยิน ว่าแล้วก็ลุยเลยดีกว่านะ อิอิอิ”

แม่คุณไม่รอช้า ตั้งวงรำเฉิบ ๆ ไปโค้งคุณยายขอเข้าขบวนทันที ลูกพี่ออกลูกบ้าอย่างนี้แล้ว ลูกน้องจะรอดไหมล่ะค่ะ ฮ่า…

ชาวบ้านในขบวนมองด้วยความมึนงงกันพักเดียว ก็ยิ้มรับ คนที่เดินเฉย ๆ ไม่รำก็มารำเป็นเพื่อนกับพวกเรา หนุ่ม ๆ ขบวนเราก็ไปอาสารับกลองยาวมาแบกแล้วก็ช่วยตีกันดังลั่นทุ่งกว่ามืออาชีพเขาเสียอีก ใครมีท่าทีเงียบ ๆ เหงา ๆ พวกเราก็ไปรำล้อมหน้าล้อมหลังให้ได้เขินอาย จนต้องตั้งวงรำตอบกับเราไปด้วย

รำแก้บน

เมื่อเห็นว่าคุณป้าคนโห่ต้นเสียง เสียงเบาและแหบไปแล้ว จึงรีบอาสาทันที

“คุณป้าขา เดี๋ยวหนูช่วยโห่ ดีไหมคะ”
“เออดี ๆ อีหนูเอาเลย โอยมีน้ำใจจริง จริ๊งช่ะ ลูกใครวะเอ็งอะ”

คิดว่าถ้ามัวแนะนำชื่อบุพการีกัน คงเป็นการเสียเวลา เพราะยังไงแล้วคุณป้าแกก็คงไม่รู้จักบุพการีของเราอยู่ดี อย่ากระนั้นเลย

“โห่………………………ฮี้……………..โห่………ฮี้…..โห่….ฮี้….โห่….ฮี้…..โห่….ฮี้… โห่…..ฮี้….โห่ย………….”

ลูกน้องขานรับ

“ฮิ๊ว………………………………………………………………………….”

โห่ด้วยความเมามัน และสำเนียงที่แล้วแต่ขณะนั้นจะนึกครีเอทออกมาได้ไปหลายสิบรอบ ขำก็ขำ ไม่เคยทำอะไรมันขนาดนี้มาก่อน หันไปมองพวกน้อง ๆ  ทุกคนล้วนขำำกันน้ำตาเล็ดน้ำตาไหล เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน แต่ก็สนุก  จนน้องผู้หญิงคนนึง ขำจนรำต่อไม่ไหว นั่งยอง ๆ เช็ดน้ำตาอยู่ข้างทาง

พอโห่และรำรอบโบสถ์จนครบ 3 รอบแล้ว จึงนั่งพัก มีคนเอาน้ำมาเสิร์ฟบริการผ้าเช็ดหน้าเช็ดตา ก็เพิ่งจะมาตั้งข้อสังเกตกัน

“เอ แต่เราเดินรำกันไม่ทันเห็นนาคสักรอบนึงเลยเนอะ คงอยู่ในโบสถ์แล้วแหละ เข้าไปกราบพระแล้วชมนาคกันสักนิดก่อนกลับดีกว่าเนอะเรา”

เสียงไอ้เจ้าน้องคนหนึ่งกระซิบข้างหูเบา ๆ

“อาจารย์ปูครับ ผมก็สงสัยเลยเดินไปถามป้าหัวหน้าขบวนมาแล้ว แกบอกว่า แกเป็นคณะรำแก้บนไม่ใช่งานบวชหรอกครับ แต่ผมเห็นอาจารย์ปูเริ่มไปแล้ว ก็เลย เอ่อ… เลยตามเลยอะครับ”

“เง้อ!……………………..”

เพิ่งเข้าใจคำว่า “หน้าแตก” ก็วันนี้แหละค่ะ ความรู้สึกตอนนั้นคือมันเหวอ ๆ โหวง ๆ แสบ ๆ อาย ๆ ระคนกันไปอะค่ะ แต่ก็ไม่วายตะโกนบอกพรรคพวกที่เหลือให้ได้ระเบิดหัวเราะกันเป็นหมู่คณะ รวมทั้งยังหน้าไม่อายไปบอกชาวบ้านแถวนั้นด้วยว่า พวกหนูเข้าใจผิดนะเนี่ยะ นึกว่าขบวนแห่นาค ทีนี้เลยได้ฮากันทั้งตำบลบางบาลไปอะนะ ^^

เที่ยวอยุธยา

วันนี้คุยกับน้อง ๆ เรื่องความรับผิดชอบในการทำงาน บอกน้อง ๆ ไปว่าอะไรที่ครูปูมอบหมายไปแล้วขอให้ปฏิบัติตามนั้นได้เลย ได้ผลเป็นอย่างไร ติดตรงไหน ขอให้บอก หากปรากฎว่าเกิดความเสียหายจากคำสั่งนั้น ๆ ความผิดจะอยู่ที่ครูปูแต่เพียงผู้เดียว ขอให้สบายใจได้เลย

พูดไปก็ย้อนเรื่องนี้เอามาขำกัน แล้วบอกน้อง ๆ ว่าการเป็นหัวหน้าเขานี่ ไม่ได้ดูเท่เพราะได้เป็นเจ้าของการตัดสินใจเท่านั้นหรอกนะคะ ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบด้วย เพราะวินิจฉัยหรือคำสั่งที่หัวหน้าปล่อยออกไปต้องมั่นใจว่าไตร่ตรองมาอย่างดี มีข้อมูลประกอบเพียงพอ เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลด้านลบต่อผู้ที่เกี่ยวข้องน้อยที่สุด หากเกิดผลด้านลบดังกล่าวขึ้นจริง ก็ต้องเป็นคนแรกที่แสดงความรับผิดชอบอีกด้วย

เรื่องเล่าขำ ๆ แบบด้านบนนี่ วันหนึ่งคงขำไม่ออก ถ้าครูปูโดนผู้ใต้บังคับบัญชาต่อว่าโทษฐานที่พาเขาไปเหนื่อย ไปอาย ไปร้อน ไปบ้า โดยไม่ใช่หน้าที่ (ดีนะที่เราบ้านำไปก่อน เลยไม่มีใครบ่นว่าอะไร)

เอ หรือว่ามีหว่า ใครผ่านมาทาง VBAC ก็ลองสอบถามทีมนี้ดูก็แล้วกันนะคะ ^^

อาจารย์ VBAC


โมเดลบุรีรัมย์ ทำเรื่อง!

อ่าน: 192546

หนังสือโมเดลบุรีรัมย์เล่มนี้ พ่อครูบาฯ ได้บอกกับกอง บ.ก.ชัด ๆ เน้น ๆ ถึงความปรารถนาที่อยากจะให้เป็นประจักษ์พยานถึงผลงานที่พ่อครูบาฯ กับแม่หวี ได้ฝ่าฟันบุกสร้างสวนป่าจากพื้นดินแห้งแล้งจนกลายมาเป็นสวนป่าที่ดินน้ำอุดมสมบูรณ์ในวันนี้ นอกจากพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนแล้ว ด้วยความมีน้ำใจและวิสัยทัศน์ของพ่อครูบาจึงเปิดบ้านเป็นแหล่งเรียนรู้ ชื่อว่า มหาชีวาลัยอีสาน อุทิศตนเพื่อการศึกษาค้นคว้าหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติให้ได้ แล้วนำไปเผยแพร่ต่อ ๆ กันไป

ฟังอย่างนี้แล้ว ต่อให้ต้องเลื่อนกำหนดส่งต้นฉบับเข้ามาอีกกี่ระลอก พวกเราทุกคนก็ยิ่งกว่ายินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีส่วนร่วมกับผลงานชิ้นประวัติศาสตร์ของพ่อครูบาสุทธินันท์ บุคลผู้ที่ถือได้ว่ามีคุณูปการกับผืนแผ่นดินไทยคนหนึ่งทีเดียวเชียวล่ะค่ะ ^^

ถอดบทเรียน การทำหนังสือโมเดลบุรีรัมย์ โดยป๋า Conductor Logos มีอยู่ตรงนี้แล้วค่ะ

ทีนี้เรื่องของเรื่องก็คือ หนังสือที่คณะบรรณาธิการชาวเฮเคยทำออกมาแล้ว ทั้ง 3 เล่ม ได้แก่

อ่านต่อ »


เรื่องของใจยังไงก็ห้ามชุ่ย

อ่าน: 178745

กระติกน้ำดื่มที่วางไว้หน้าห้องทำงานตั้งแต่เมื่อคืนหายไปไหนไม่ทราบ ว่าไปก็สมควรแล้วล่ะค่ะ ไม่เก็บเองนี่ แม่บ้านก็พยายามช่วยหา

“เมื่อเช้าหนูยังเห็นอยู่เลยค่ะ”

ก็เลยสั่งว่าถ้าเจอก็เก็บไว้ให้ด้วยแล้วกัน ถ้าไม่เจอก็ไม่เป็นไร ช่างมัน ที่บ้านยังมีอีกเยอะ (แนะ)

อาจารย์ในห้องทักกันว่า

“อาจารย์ปูนี่ ง่ายดีเนอะ เห็นของหายประจำ (ว่าเค้าเหรอตะเอง) แต่ไม่เห็นทุกข์ร้อนอะไรเหมือนชาวบ้านเขาเลย ถ้าเป็นคนอื่นไม่ได้นะ ถ้วยชาม ปากกา ข้าวของเครื่องใช้ต้องเขียนชื่อแปะกันไว้ทุกคน ผู้ใหญ่ท่านอื่นของหายชิ้นเดียว วิทยาลัย ฯ แทบแตก”

อ่านต่อ »


ก่อนน้ำมา

อ่าน: 35407

ป้องกันน้ำท่วม

บ้านครูปูอยู่ในเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นหนึ่งในบริเวณที่มีความเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมได้ ก็ลุ้นกันตลอดเวลาเลยค่ะ  เขตลำลูกกากับสายไหมข้าง ๆ กัน ก็เอ่อไปแล้ว วันนี้ก็มีการเตรียมการเรื่องอาจจะอพยพประชาชนในเขตมีนบุรี และลาดกระบังที่อยู่ถัดไปอีก เพื่อนฝูง คนรู้จักก็พากันโทรสอบถามกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง  จึงขอแบ่งเวลาที่กำลังนั่งลุ้นอยู่นี่ มาร่วมตอบโจทย์พ่อครูบาจากบันทึกนี้ ดังนี้ค่ะ

อ่านต่อ »


เตรียม ตัว ตาย

อ่าน: 4027

ไหน ๆ ก็เป็นป้ายสุดท้ายที่ทุกชีวิตต้องจอดกันโดยถ้วนหน้าเนาะคะ จะช้า จะเร็ว หรือในสภาพไหนเท่านั้นเอง

ขั้นตอนหนึ่งของการเตรียมตัวตายของครูปู คือ การบริจาคดวงตา บริจาคอวัยวะและบริจาคร่างกายที่เหลือให้กับสภากาชาดไทย เพื่อสมัครรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของนักศึกษาแพทย์ต่อไปค่ะ

ข้อมูลการบริจาคดวงตา อวัยวะและร่างกายให้กับสภากาชาดไทย

บอกน้อง ๆ ในที่ทำงานว่า

“พี่มันคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง ตอนอยู่ก็เป็นแค่รองอาจารย์ใหญ่ตอนตายก็อยากก้าวหน้ากว่านี้หน่อยเลยอยากเป็นอาจารย์ใหญ่อ่ะ ฮ่า ๆ”

(หนนี้ไม่ค่อยมีใครยอมขำด้วยเลยแฮะ?)

อ่านต่อ »


นั่งนับอิฐก้อนต่อไป

อ่าน: 2773

ช่วงเช้ามีธุระหายไปครึ่งวัน พอกลับมามีเจ้าลูกศิษย์เอกรีบแจ้นเข้ามารายงาน

“อาจารย์ปูครับ เมื่อเช้าตอนอาจารย์ไม่อยู่ มีวัยรุ่นสองคนมาด้อม ๆ มอง ๆ แล้วถามพวกผมว่าอาจารย์ปูอยู่ไหมอ่ะครับ”

“เหรอ เด็กโรงเรียนเราหรือเปล่าล่ะลูก”

“ไม่ใช่หรอกครับอาจารย์ หนวดเครางี้เฟิ้มเลยครับ”

“เอ ใครหว่า หนวดเคราเฟิ้มซะด้วย คงเป็นศิษย์เก่าล่ะมั้ง”

“ศิษย์เก่าแล้วทำไมต้องด้อม ๆ มอง ๆ ล่ะครับอาจารย์ ถ้าเป็นพวกผมนะ ก็เดินเข้ามาถามหาอาจารย์คนอื่นที่รู้จักก็ได้นี่ครับ”

“เออ เนอะ”

“พวกผมก็งงกันใหญ่เลยครับ ไอ้แบงค์มันบอกว่ากลัวเป็นคนมาแอบทำร้ายอาจารย์ปูอ่ะครับ”

อ่านต่อ »


ศิษย์คิดหลอกครู

อ่าน: 3232

ตอนตั้งโรงเรียนใหม่ ๆ มีนักศึกษาอยู่แค่ 200 กว่าคน ครูจึงจำเด็กได้อย่างแม่นยำ ซี้ย่ำปึ้กกันทุกคน ชื่อนามสกุล ชื่อเล่น  หน้าตา ฉายา วีรกรรม ชื่อแฟน ที่อยู่้ เบอร์โทรศัพท์ กลุ่มเพื่อน ชื่อ อาชีพพ่อแม่  พี่ น้อง ปู่ ย่า อา ลุง ฯลฯ พฤติกรรม อุปนิสัย ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร จริตเอียงไปทางไหน รู้ปายโม้ด…

ครูก็มีแค่ไม่ถึง 10 คน แล้วก็ต้องผลัดกันสอนคนละหลายวิชา ทำทุกกิจกรรมกับเด็ก ๆ เป็นที่ปรึกษา เยี่ยมบ้าน ไปเข้าค่าย ไปงานชุมชน ก็กลุ่มนี้แหละ ฯลฯ

คือมันมีกันอยู่แค่นั้น เจอกันทั้งวัน เดี๋ยวก็เจอ เดี๋ยวก็คุย คุยกับเจ้าคนนี้ก็ได้ข้อมูลเจ้าคนนู้น พอคุยกับเจ้าคนนู้นก็จะได้ข้อมูลของเจ้าคนนั้น cross check กันได้แทบทุกเรื่อง ก็เจ้าตัวนั่นล่ะเป็นคนเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังเอง  เด็กวัยรุ่นนี่เขาไม่มีความลับกับเพื่อนกันหรอกนะคะ  (แต่กับเราไม่แน่)

อ่านต่อ »


ค่าใช้จ่ายของมิตรภาพ

อ่าน: 2470

เพื่อนครูปูคนนี้รู้จักกันมาหลายปีแล้วค่ะ แต่ก่อนจะคุยกันถูกคอเป็นพิเศษเรื่องการเมือง พักนี้ไม่ค่อยได้เจอหรือพูดคุยกันมีแต่เจอกันใน MSN บ้าง มีเรื่องโทรมาถาม ช่วยกันไปเอื้อกันมาทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัวนู่นนี่นั่นประสาเพื่อนเสมอ ๆ

แต่หลัง ๆ มานี่ การพูดคุยกับเพื่อนคนนี้ทำครูปูสะอึกได้เกือบทุกครั้ง ด้วยเพราะกลุ่มคำและวิธีการแสดงความคิดเห็นที่รุนแรง เกินความจำเป็น

อ่านต่อ »


ทำเท่าที่ได้ ให้เท่าที่มี

อ่าน: 106677

หลายเดือนก่อนได้รับคำแนะนำจากป๋า Logos เรื่องการระมัดระวังภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในภาคใต้ การคุยกันเรื่องการวางแผนและเตรียมการป้องกันบ่อยครั้งทำให้น้องสาวที่ทำงานอยู่ในโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ตเกิดเปลี่ยนใจอยากกลับมาอยู่บ้าน กลัวภัยธรรมชาติก็กลัว คิดถึงลูกก็คิดถึง ที่บ้านก็มีแต่คนแก่กับเด็กขาดกำลังหลักเสียด้วย  น้องสาวตัดสินใจลาออกกลับมาอยู่บ้านที่สุราษฎร์ธานีพร้อมทั้งดัดแปลงหน้าบ้านเป็นร้านมินิมาร์ทค้าขายเล็กน้อยไปด้วย ทำให้เจ๊ปูกับเจ้าน้องชายคลายความกังวลไปได้มาก รู้สึกดีใจและขอบใจน้องสำหรับการตัดสินใจในครั้งนี้ จึงยกรถยนต์ให้ใช้เผื่อจะพาหลาน พาคุณยายคุณแม่หรือเตี่ยไปหาหมอ ไปทำธุระอะไรที่ไหนจะได้สะดวกขึ้น แม้คุณแม่ยังมีอคติกับรถยนต์เรื่องความสิ้นเปลืองอยู่ก็เหอะ นี่ขนาดติดแก๊สให้แล้วด้วยนะ

อ่านต่อ »


ยิ่งให้ ยิ่งได้

อ่าน: 16617

โรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนจำเป็นต้องมีแผนการรับนักเรียนเข้าเรียนในแต่ละปีการศึกษา เพราะจำนวนผู้เรียนนั้นแปรผันตรงกับงบบริหารจัดการทั้งปี  ก็โรงเรียนยังไม่ดังขนาดมีคนแย่งกันเข้า แบบที่เขาเรียกแป๊ะเจี๊ยะกันแพง ๆ นี่คะ ขาก็ไม่ได้ใหญ่เหมือนสถานศึกษาของรัฐที่ได้ทั้งงบและการสนับสนุนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยเสียด้วย

หาเด็กเอง แก้ปัญหาเอง คิดเอง พัฒนาเองแต่กลับต้องเดินตามนโยบายของใครก็ไม่รู้มาเป็นแนวทาง???

แถมอีตอนประเมินก็ถูกเรียกร้องให้ทำอย่างนี้เท่านั้น ทำอย่างนั้นเท่านี้อีกนะ???

เกณฑ์อะไรช่างมีมาตรฐานครอบจักรยานและจักรวาลได้ปานนั้น

เรียกว่าเครื่องมือเดียว เฟี้ยวได้ทั่วโลก ว่างั้นนะคะ

หุหุหุ

ศิษย์เก่า

อ่านต่อ »



Main: 0.07700514793396 sec
Sidebar: 0.08229398727417 sec