อุบัติเหตุ..

7 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 เมษายน 2011 เวลา 12:52 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 715

ผมและครอบครัวรีบเดินทางไปเชียงใหม่และรีบกลับนอกจากงานของคนข้างกายล้นท่วมหัวแล้ว ผมก็ต้องการหลีกความหนาแน่นของจราจรบนถนนในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากมาย

เราอาจจะระมัดระวัง แต่ยามที่ใครต่อใครรีบเร่งและจราจรหนาแน่นนั้น คนใจร้อนก็จะทำอะไรต่อมิอะไรให้สุ่มเสี่ยงมากมาย ถนนสายพิษณุโลกอุตรดิตถ์จนถึงเด่นชัยนั้นมีบางส่วนที่กำลังปรับปรุงทำให้ผิวจราจรแคบและขรุขระ หลายจุดอันตราย

มีสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเสมอเรื่องอันตรายเกี่ยวกับรถและถนน อย่างเรื่องนี้

หลายปีก่อนคุณเกรียงศักดิ์ ญาติสนิทคุณตุ๊ ขับรถ Jeep Cherokee พาภรรยาและครอบครัวเที่ยว มีการเตรียมตัวพอสมควรจะไปเที่ยวหลายวันก็มีกระเป๋าและกล่องใส่เครื่องมือรถพิเศษพกไปด้วยเผื่อจำเป็นต้องใช้ก็จะหยิบใช้ได้สะดวก

รถทรงนี้เหมือนกับรถ Fortuner ที่ผมใช้คือ เป็นรถ Multi-purpose คือใช้ในเมืองได้ลุยป่าเขาได้ นั่งสบายเพราะขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจจะกินน้ำมันสักหน่อยก็ต้องเรียนรู้วิธีประหยัดเอา รถประเภทนี้ห้องโดยสารจะดูกว้างเพราะไม่ได้แบ่งห้องเก็บของแยกออกจากห้องโดยสาร เปิดกว้างถึงกัน ข้อเสียคือ หากเอาสิ่งของที่มีกลิ่นเข้ามาเก็บ เช่นอาหาร กลิ่นก็จะฟุ้งไปทั้งห้องโดยสาร ต้องจัดเก็บดีดี ข้อดีคือ หากต้องการอะไรก็เอื้อมไปหยิบจับได้ไม่ต้องจอดรถลงไปเปิดประตูท้ายให้เสียเวลา

วันนั้นคุณเกรียงศักดิ์พาภรรยาเที่ยวอีสานจะขึ้นเหนือ ตามเส้นทางที่ผมใช้ปกติ เมื่อมาถึงเขาค้อเกิดมีรถใหญ่เบียดแซงมาเขาต้องหักหลบลงข้างทางอย่างกะทันหัน เพื่อมิให้เกิดการเสี่ยงต่อการเฉี่ยวชน การตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้นทำให้รถต้องเผชิญต่อไหล่ทางที่ไม่เรียบมีหลุมมีลอนคลื่น ทำให้รถกระดอนขึ้นลงหลายครั้ง

และแล้วก็มีวัตถุสิ่งหนึ่งกระเด็นจากหลังรถข้ามศีรษะคนนั่งกลางมาตกที่หัวคุณเกรียงศักดิ์ในที่นั่งคนขับรถพอดี มันเป็นช่วงที่คุณเกรียงศักดิ์เบรกรถให้หยุดด้วย รถเบาลงและหยุดโดยรถไม่มีอะไรเสียหายแม่แต่น้อย แต่คนขับรถ แน่นิ่งไปทันที เพราะสิ่งของที่กระเด็นมาจากข้างหลังนั้นเองที่มาโดนหัวพอดี

เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ คุณเกรียงศักดิ์เสียชีวิตในเวลาต่อมาไม่นาน เพราะน้ำหนักของสิ่งนั้นกระเด็นกระดอนมาอย่างแรง พบว่าสิ่งนั้นก็คือ “กล่องเครื่องมือรถ” นั่นเอง เป็นกล่องเครื่องมือพิเศษที่ซื้อมาเพิ่มเติม มันไม่น่าที่จะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น

ชีวิตเขากำลังก้าวหน้า ครอบครัวกำลังมีความสุข ภรรยาและลูกเสียใจมาก

การเตรียมกล่องเครื่องมือเป็นความรอบคอบ แต่การวางเฉยๆโดยไม่ได้มัดให้ติดแน่น นั้น กลายเป็นความเสียหายถึงชีวิตทีเดียว

เมื่อต้นเหตุเป็นเช่นนี้จึงเตือนเราว่า ไม่ว่ากล่องเครื่องมือก็ตามหรือสิ่งอื่นๆก็ตามที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้นั้น พึงเก็บ มัดให้แน่นหนา รถหรูราคาแพงนั้นอาจช่วยในเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับการเฉี่ยวชนได้ในบางกรณี

แต่อาจมาเสียชีวิตกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ได้

ชีวิตที่แข่งกับความเร็วและยุ่งเหยิงนั้น ต้องการสติมากขึ้นหลายเท่าตัวนัก…


ทัวร์เวียงพิงค์สั้นๆ

462 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 เมษายน 2011 เวลา 9:26 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 9993


วัดดอยสุเทพฯวันนี้ พัฒนาไปไกลมากเมื่อเทียบกับสมัยที่ผมยังใช้ชีวิตสมัยเรียนหนังสือหรือทำงานที่นี่ ไปเชียงใหม่คราวนี้ ไม่ได้บอกพี่น้องทางเหนือหรอกเพราะไปส่วนตัวทำภารกิจครอบครัวแล้วรีบกลับ เพราะคนข้างกายงานล้นไม้ล้นมือ

ผมพาลูกสาวและหลานสาวไปด้วย เมื่อธุระเบาบางลงก็หาเวลาแวบพาเขาขึ้นไปกราบพระธาตุดอยสุเทพ ผมชื่นชมทางวัดที่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบและสะอาดมากๆๆ แม้จะมีธุรกิจรับจ้างถ่ายรูป แต่เขาก็ได้มีส่วนช่วยให้ผู้มาจาดทางไกลเข้าใจว่าควรจะต้องทำอะไรบ้างตามที่ถูกที่เหมาะสมที่ประเพณีปฏิบัติต่อกันมา เช่น ซื้อดอกไม้ ธูปเทียนแล้วก็ไปเดินพนมมือวนขวารอบด้านในขององค์พระธาตุก่อนจึงออกมา จุดธูปเทียน บูชา.. ฝรั่งมังค่า ก็ทำตาม ฝรั่งที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยทางวัดก็มีผ้าคลุมให้ ผมไม่รู้ว่าต้องเช่าหรือเปล่าเอารายได้เข้าวัดเหมือนสตรีที่จะเข้าไปกราบพระธาตุอิงฮังสะหวันนะเขต ลาวโน่น ที่สาวๆนุ่งสั้น หรือนุ่งกางเกง ห้ามเด็ดขาด ต้องเช่าผ้าถุงสรวมแล้วจึงอนุญาตให้เข้าไปได้ กฎระเบียบเหล้านี้ดีครับ คนต้องเคารพสถานที่ว่าอะไรควรไม่ควร ในชุมชนลาวหลายแห่งห้ามเด็กวัยรุ่นสาวๆนุ่งกางเกงขาสั้นในหมู่บ้านเลย เขากำหนดเป็น “ระเบียบบ้าน” ใครละเมิดโดยเรียกไปตักเตือน จนถึงปรับไหม….


ที่ด้านนอกขององค์พระธาตุดอยสุเทพฯที่เป็นสถานที่จุดธูปเทียนบูชานั้น ผมเห็นเด็กหนุ่มเอาแผ่นเหล็กที่ทำไว้เฉพาะวัตถุประสงค์ มาขูดเอาน้ำตาเทียนที่หยดลงพื้นออกไป ผมชื่นชมจริงๆ เข้าใจได้ว่านี่คือการจัดการที่ดี ผมเห็นเด็กหนุ่มคอยกวาดพื้นตลอดเวลา แม้ว่าทุกคนที่ขึ้นไปข้างบนนั้นจะต้องถอดรองเท้าไว้ข้างล่าง แต่ก็ย่อมมีเศษผงเศษธุลีต่างๆตกหล่นลงไป

ผมยิ่งเข้าใจเมื่อพบภาพนี้ว่าทำไมต้องมีการกวาดพื้นตลอดเวลา นี่คือการแสดงการคารวะสูงสุด เพื่อพระผู้อุทิศตนเพื่อศาสนา เพื่อการปฏิบัติธรรมก้มกราบแทบพื้นต่อองค์พระธาตุ อันเป็นตัวแทนพระผู้มีพระภาคเจ้า เราทุกคนนั่งลงและยกมือแสดงคารวะ แม้ฝรั่งมังค่า เขาก็เข้าใจได้ นั่งลงยกมือเช่นกัน….


ระหว่างทางขึ้นและลงดอยสุเทพฯ ผมได้เล่าให้ลูกสาว หลานสาวฟังว่า สมัยที่มาเป็นนักศึกษาใหม่ของ มช.นั้นเรามีประเพณีพาน้องใหม่เดินขึ้นดอยไปกราบองค์พระธาตุแห่งนี้ น้องใหม่ทุกคนต้องเดินขึ้น เป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่และสมควรสืบต่อยิ่งนัก มาอยู่เชียงใหม่ก็ต้องมากราบไหว้สิ่งสูงสุดที่คนเมืองเหนือเคารพบูชา ลูกสาวและหลายสาวถามว่าเดินมาตั้งแต่ข้างล่างเลยหรือ…ใช่สิ ผมตอบ แถมสาธยายบรรยากาศและเรื่องราวอีกยาว…..มีการแข่งกันเดินขึ้นด้วยใครถึงก่อนก็มีรางวัลให้… เป็นประเพณีที่ทำให้เราแนบสนิทกับท้องถิ่น และรักกัน

สภาพองค์พระธาตุสุกอร่ามด้วยแผ่นทองคำสวยงามเหลือเกิน บริเวณสะอาด มากๆๆๆๆ ขอเน้นหน่อย


ผมพาครอบครัวเลยขึ้นไปบนตำหนักภูพิงค์เพื่อให้เธอรู้จักพร้อมเล่าประวัติศาสตร์ว่าทุกปีในหลวง สมเด็จและพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้จบหลักสูตรปริญญาที่ มช.ในช่วงฤดูหนาว และขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงปฏิบัติหน้าที่ต่างๆแก่ชาวเขา ชาวเรามากมายล้วนเป็นกลุ่มคนยากจน สมัยก่อนนั้นทุกครั้งที่เสด็จมาก็ทรงพระราชทานเลี้ยงคณะนายกสโมสรนักศึกษาทุกคณะที่ตำหนักข้างบนนี้…. ทรงใกล้ชิดกับนักศึกษามาก….ฯลฯ


 

ค่ำแล้วผมก็พาครอบครัวตระเวนภายใน มช. เล่าให้ฟังสารพัดเรื่อง กลายเป็นทัวร์เรื่องเก่า ความหลังไปด้วยในตัว มีการแซวกันเป็นที่ครึกครื้น วัตถุประสงค์ผมนั้นอยากจะให้ลูกหลานได้มารับรู้ว่า ท้องถิ่นแห่งนี้เราได้มาอิงอาศัย เล่าเรียนหาความรู้และมาทำกิจกรรมต่างๆอันเป็นรากฐานชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน สถาบันการศึกษาเป็นที่บ่มเพาะเรามา เป็นสถานที่เปิดโอกาสให้กับการสร้างเสริมความรู้และประสบการณ์ชีวิต รายละเอียดมากมายเล่าไม่จบ ไม่หมดไม่สิ้น จนหิวข้าว เลยพาไปกินข้าวในสถานที่สวยที่สุดที่ไม่มีร้านค้าไหนๆจะสวยเท่านี้ เพราะที่นั่นคือ ร้าน “กาแล” บนแห่งนี้อดีตคือสำนักงานเกษตรภาคเหนือที่ทำงานผมสมัยอยู่สะเมิงต้องเข้ามาที่สำนักงานนี้ทุกเดือนเพื่อมาประชุม

ผมก็ทราบประวัติความเป็นมาดีว่าสถานแห่งนี้ ดร.ครุย บุญญสิงห์ สามีของท่านอาจารย์เต็มศิริ บุญญสิงห์ เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักท่านแล้ว ดร.ครุยเป็น Staff ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยคอลเนลที่ได้รับรางวัลโนเบลไพรซ์ ผมจำไม่ได้ว่าสาขาไหน เรื่องอะไร ท่านมาเป็นผู้ก่อตั้ง สำนักงานแห่งนี้ ต่อมามีการปรับโครงสร้างกระทรวงเกษตร สำนักงานเกษตรภาคถูกยุบลงไป แปลงเป็น สำนักงานโครงการหลวง สำนักงานเกษตรสหกรณ์จังหวัด และอื่นๆตามความเหมาะสม..และร้านค้ากาแลก็มีมาตั้งแต่แรกๆสมัยก่อนไม่สวยอย่างนี้ สมัยนี้มีดอกไม้มากประดับเต็มพื้นที่ที่เป็น slop สวยงามมาก มีอ่างเก็บน้ำ มองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่..

ที่มีดอกไม้ประดับตลอดทั้งปีสวยงามเพราะอะไรหรือ ก็เพราะว่า เจ้าของร้านกาแลนั้นเป็นคนอ่างทอง บ้านเดียวกับผม มีลูกหลานทำงานสำนักงานอัยการ และมีกิจการเพาะดอกไม้ต่างๆส่งเทศบาลนครเวียงพิงค์อยู่ที่โป่งแยง แถมยังส่งลงมาถึงกรุงเทพฯ เป็นกิจการใหญ่โตมากลงทุนมากมีคนงานมากมาย ทำตลอดปี จึงเอาดอกไม้ที่ตกเกรดมาประดับที่ร้านอาหารกาแลแห่งนี้ได้ตลอดปี…

ผมสนุกที่พาครอบครัวมาทำภารกิจแม้จะรีบเร่ง รีบมารีบกลับ ก็มีโอกาสเล่าถึงประวัติศาสตร์ เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับสถานที่ ผู้คน ฯลฯ ให้เขาฟัง ดีกว่าดูเฉยๆ เห็นเฉยๆ การให้เขาได้สัมผัสรากเหง้าของที่มาที่ไปของสถานที่ ผู้คนนั้น จะเข้าใจและลึกซึ้ง และเกิดทักษะ มุมมองในเรื่องท้องถิ่นมากขึ้น

อิอิ เป็นความสุขของคนเล่าด้วย…


ดำหัวอุ้ย..

326 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 เมษายน 2011 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4797

เรามีภารกิจจะต้องขึ้นเชียงใหม่ ที่บ้านโป่งแยง ต.โป่งแยง อ.แม่ริม เราไปพบอุ้ยตุ่น ทองเรือน ท่านอายุ 78 ปี เรารู้จักท่านมาตั้งแต่สมัยทำงานสะเมิงปี 2518 เพราะเราขับมอเตอร์ไซด์ผ่านบ้านของท่านประจำเนื่องจากเป็นทางผ่านจากเชียงใหม่เข้าสะเมิง

ผมเข้ามาทำงานวิจัยให้สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปลี่ยนแปลงการถือครองที่ดินในพื้นที่ ต.โป่งแยงนี้ จึงต้องเข้ามาศึกษาข้อมูลเชิงลึกของพื้นที่ อุ้ยตุ่นเป็นผู้สูงอายุท่านหนึ่งของชุมชน จึงขอสัมภาษณ์ท่านถึงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจึงทราบเรื่องราวในอดีตมากมายของพื้นที่นี้รวมไปถึงเรื่องราวของเมืองเชียงใหม่ด้วย เช่น สนามบินเชียงใหม่นั้นเดิมเป็น “นาปง” ผู้ชายทั่วเมืองเชียงใหม่ต้องถูกเกณฑ์มาใช้แรงงาน สร้างสนามบิน เครื่องบินแรกๆที่มาลงก็เป็นปีกไม้..??

โป่งแยงสมัยก่อนเป็นชุมชนชาว “ลั๊วะ” ที่เคร่งเรื่องความเชื่อผีมากๆ เมื่อคนเมืองเริ่มเข้ามามากขึ้น มีการผิดผีมากขึ้น ชาวลั๊วะ ก็ย้ายหมู่บ้านหนีขึ้นภูสูงขึ้นไป คนเมืองก็เข้ามาแทนที่ชุมชนแถบนี้ มีทั้งชาวบ้านทั่วไปและคนที่หนีการเกณฑ์แรงงาน และการเสียภาษีที่เรียก “ฐา 4 บาท” หรือ “เงินรัชชูปการ”* ถ้าไม่มีเงินก็ต้องไปใช้แรงงาน หากไม่มีเงินและไม่อยากถูกใช้แรงงานก็ หนีเข้าป่าลึกอย่าเดียว โป่งแยงจึงเป็นที่หลบการใช้แรงงาน และส่วนหนึ่งก็หนีลึกเข้าไปอีก ก็คือถิ่นสะเมิง ที่ผมเข้าไปทำงานในสมัยปี 2518 นั้น

อุ้ยตุ่น ปัจจุบันได้รับเงินผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท และอบต.เพิ่มให้อีก 500 บาท อุ้ยมีตำแหน่งในชุมชนเป็น นางเทียม หรือคนทรง หรือคนทำพิธีเจ้าพ่อ… อันเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโป่งแยงกราบไหว้

วันที่ผมและครอบครัวไปหาอุ้ยตุ่นนั้น โป่งแยงจัดงานวันผู้สูงอายุพอดี มีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เมื่อเสร็จพิธีผมก็ไปรับอุ้ยตุ่นมาที่บ้านท่าน เมื่อเราพูดคุยกันพอสมควร ผมจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้น้องขวัญ ลูกสาวผมไปกราบดำหัวอุ้ยตุ่น และขอพรจากอุ้ย

อุ้ยตุ่นให้ศีลให้พรยังกะพระสวดแน่ะ..พวกเราทุกคนประมาณ 7 คนยกมือพนมรับพรจากท่านด้วย

  • ผมต้องการให้ลูกสาวผมซึ่งเธอเป็นคนยุคสมัยใหม่ได้สัมผัสประเพณีเดิมของล้านนาและของสังคมไทยโยลงมือทำเองคุกเข่าลงและเข้าไปหาผู้ใหญ่อย่างคารวะ นอบน้อม แม้จะดูเธอแก้งก้าง แต่ก็ฝึกไว้ ลงมือทำไว้
  • ผมต้องการพาครอบครัวมาแสดงความเคารพอุ้ย ที่ท่านมีเมตตาต่อผมและครอบครัวหลายประการในอดีตที่ผ่านมาและแม้จะเป็นปัจจุบัน
  • ผมต้องการเดินตามครรลองวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่นเมื่อถึงวาระใดๆก็ควรทำสิ่งนั้นๆอันเป็น “ฮีตคอง” เมื่อเรามีโอกาสต้องทำ

เมื่อทำแล้ว อิ่มใจ พึงพอใจ สบายใจ เป็นสุขอย่างหนึ่ง

*= http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3



Main: 0.054533004760742 sec
Sidebar: 0.067972898483276 sec