เฮ 8 คนจริงที่ชื่อโสทร(5)

532 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 12:44 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 6781

เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ผมขออนุญาตโสทรเอาประวัติมาลงที่นี่อีกครั้ง ซึ่งผมเอามาจาก G2K

เขียนบล็อกที่ http://www.bansuanporpeang.com

วันเกิด

  • 1 ​ธ​.​ค​. 2517

การศึกษา

  • ประถมศึกษา​ : ​โรงเรียนบ้านนาละหาน​ ​อ​.​นา​โยง​ ​จ​.​ตรัง
  • มัธยมศึกษา​ : ​โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข​ ​อ​.​นา​โยง​ ​จ​.​ตรัง​ ​จบปีการศึกษา​ 2535
  • ปริญญาตรี : ​มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์​ ​วิทยา​เขตปัตตานี​ ​คณะศึกษาศาสตร์​ ​วิชา​เอกเทคโนโลยีการศึกษา​ ​วิชา​โทภาษาอังกฤษ​ ​เกียรตินิยมอันดับ​ 2  ​รหัสนักศึกษา​ 3615621 ​จบปีการศึกษา​ 2539 ​ปี​ ​พ​.​ศ​. 2540

การทำ​งาน

  • 1 ​เมษายน​ 2540 -  30 ​มิถุนายน​ 2541
    หมวดคอมพิวเตอร์​ช่วย​สอน​ ​คณะ​แพทยศาสตร์​ ​มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • 1 ​กรกฎาคม​ 2541 - 31 ​มีนาคม​ 2543
    ศูนย์สารสนเทศทางการแพทย์​เพื่อประชาชน​ ​คณะ​แพทยศาสตร์​ ​จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • 1 ​เมษายน​ 2543 - 26 ​มกราคม​ 2550
    โครงการวิจัย​ Hospial OS

เกียรติประวัติทางคอมพิวเตอร์

  • 26 กันยายน 2546
    สอบได้ RHCE
  • 12 กุมภาพันธ์ 2549
    รางวัลที่ 3 การแข่งขันระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ ระดับประชาชนทั่วไป ประเภทคอมพิวเตอร์ควบคุมและบริการเครือข่าย

ปัจจุบัน

  • เกษตรกรเต็มขั้น
  • ผ่านการอบรมหลักสูตร “การพัฒนากสิกรรมธรรมชาติ สู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง” รุ่นที่ 17 ระหว่างวันที่ 14-18 พฤษภาคม2550 ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งสง มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ

http://gotoknow.org/blog/bansuanporpeang/recent-posts


เฮ 8 คนจริงที่ชื่อโสทร(4)

54 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 12:29 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 17585

โสทรอยู่ในครอบครัวชาวสวน ที่เรียบง่ายคุณพ่อ คุณแม่ และพี่สาวน่ารักมาก ต้อนรับพวกเราด้วยน้ำใจเปี่ยมล้น หมอตามาเยี่ยมหลายครั้งแล้วยืนยันสิ่งมีคุณค่าทางสังคมสิ่งนี้ ผมเองสนับสนุนเต็มที่ต่อความเห็นของหมอตาที่กล่าวกับผมว่า

พี่บู๊ด..การที่พวกเรามาเยี่ยมเยือนบ่อยๆ มาพบคุณพ่อคุณแม่ มาเรียนรู้ มาศึกษาสิ่งที่น้องโสทรทำนั้น เป็นการสนับสนุนแนวคิดโสทรและเป็นหลักฐานสร้างความเชื่อมั่นให้คุณพ่อคุณแม่ของน้องโสทรว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้องแล้ว มีคนมาศึกษา ดูงาน เรียนรู้…

นับวันคุณพ่อคุณแม่ก็เข้าใจและรับได้ที่ลูกชายหันหน้ากลับบ้านมาทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และก็ไม่ได้ทิ้งวิชาชีพที่เรียนมาด้วย….


ผมเห็นด้วย เห็นด้วยอย่างยิ่งที่หมอตากล่าวเช่นนั้น ด้วยเหตุผลนี้ ตอนแรกที่หมอตากล่าวว่าอยากมาจัดเฮฮา 8 ที่นี่ อย่างน้อยสักคืนหนึ่งก่อนที่จะย้ายไปกระบี่ แต่ด้วยสภาพฝนที่เอาแน่นอนไม่ได้ และการเดินทางที่อาจเสียเวลามากไป และอื่นๆ จึงตัดรายการนี้ไป

ดูซิวันที่ 4 เมษายน ยังอุตสาห์พาน้องหนิงและคุณแม่น้องหนิงขับรถมาจากกระบี่เพื่อพาผมไปเยี่ยมน้องโสทร.. ผมซึ้งน้ำใจหมอตายิ่งนัก..

สังคมเฮฮาฯแห่งนี้เติมใจให้แก่กัน งดงามเหลือเกิน….


ผมแอบสังเกตในหลายๆประการต่อโสทร คุณพ่อ คุณแม่และพี่สาวที่มาช่วยทำอาหารเลี้ยงพวกเรา อบอุ่นมากครับ เป็นครอบครัวที่มีความสุขแบบชาวสวน เมื่อผมออกไปข้างนอกบ้าน การสังเกตของผมก็ไปสะดุดที่กระต๊อบหลังเล็กๆหน้าบ้าน

ที่นั่นมีสาวน้อยเธอนั่งพับเพียบเรียบร้อย ทำงานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กระต็อบมีสภาพง่ายแสนง่าย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆเลย มีกองหนังสือกองใหญ่

ผมเดินไปดูใกล้ๆแบบเงียบๆเกรงจะไปรบกวนเธอผู้นั้น..


ล้วนเป็นหนังสือเกี่ยวกับโปรแกรมลีนุกซ์ อันเป็นฐานความรู้ของโสทร แสดงว่าโสทรไม่ได้ทิ้งความรู้นี้ ตรงข้าม เขาได้ใช้เวลาส่วนหนึ่งศึกษาเพิ่มเติมความรู้ด้านนี้ไปเรื่อยๆ ตำราเหล่านี้จำนวนมากเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีปัญหาต่อโสทรเพราะเขาเรียนภาษานี้เป็นวิชารองในมหาวิทยาลัย

ย้อนกลับไปที่กระต๊อบหลังนี้ครับ

ห้องเล็กๆด้านขวามือนั่นตอนแรกเราคิดว่าเป็นที่เก็บสิ่งของ แต่ไม่ใช่ครับ นั่นคือห้องศักดิ์สิทธิ์ ห้องเทวดา(ที่อยู่ของผีบ้านผีเรือน) (หากผมเข้าใจผิดขออภัยด้วย เพราะได้ยินโสทรกล่าวกับน้องหมอตา) และที่นี่คือที่ทำงาน ห้องทำงาน สำนักงานของ “Web สวนพอเพียง” และที่นี่คือที่นอนของโสทร มีที่นอน มีมุ้ง มีกองหนังสือมีคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะชุดหนึ่ง และแบบโน้ตบุ๊กตัวหนึ่ง มีระบบสายโทรศัพท์ใช้สื่อสาร…


มันเรียบง่าย จนเราคิดไม่ถึง..

แรกๆยังคิดว่าเป็นที่นั่งเล่น.. แต่ไม่ใช่ กระต๊อบหลังคาสังกะสี ไม่มีฝา ปล่อยโล่งๆ แสนจะเรียบง่ายนี้ที่ไม่มีแม้พัดลมสักตัว แต่ที่นี่คือสถานที่ผลิตขุมทรัพย์ปัญญาที่มาจากการทำจริงๆ และได้บอกกล่าวแก่สังคม….


น้องสาวน่ารัก หวาน เรียบร้อย คนนี้เป็นใคร ทำไมมานั่งตรงนี้ ผมไม่บอก ปล่อยให้ทุกท่านหาคำตอบเอง อิอิ


ผมอยากเขียนถึงหนุ่มคนนี้เยอะๆ

เพราะนับถือจิตใจเขาจริงๆ

ความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจสร้างชีวิตอย่างพอเพียง และสร้างงานที่เป็นประโยชน์ ช่างหายากตามถนนหลวงและซอกตึกในเมือง แต่มีที่สวนแห่งนี้

ที่นั่งเคียงข้างน้องสาวท่านนี้ ผมหลับตาเห็นโสทรนั่งพับเพียบทำงาน แล้วก็ลุกไปดูต้นไม้ที่ปลูก แล้วสลับกลับมานั่งทำงานตรงนี้ ท่ามกลางบรรยากาศสวน

ก่อนผมจะจบบันทึกนี้อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน

ท่านลองมองลึกเข้าไปในภาพนี้ นี่คือที่ทำงานของโสทร นี่คือที่นอนของโสทร

และที่หัวนอนนั้นมีรูปในหลวงแขวนอยู่ครับ…


เฮ 8 คนจริงที่ชื่อโสทร(3)

227 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 9 เมษายน 2009 เวลา 11:23 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 4688

โสทร เป็นคนเอาจริงเอาจัง ประเภทเกาะติดหากไม่ทะลุไม่หยุด ผมมองเห็นอย่างนั้นครับ

เพราะกิจกรรมที่เขาทำนั้น เป็นเรื่องของการลงแรง ใช้เวลา คนหนุ่มปัจจุบันทนไม่ได้หรอกที่จะมาคอยเก็บผลผลิตที่ต้องใช้เวลา ส่วนมากก็ชอบสิ่งที่มีลักษณะคล้ายๆประเภท Fast Food หรือประเภทชอบความสำเร็จรูปต่างๆ ที่ระบบสังคมเมืองหล่อหลอมคนรุ่นใหม่ให้เป็นเช่นนั้นกันทั่วบ้านทั่วเมือง

แต่หนุ่มคนนี้ไม่ใช่…เขาคิด หาข้อมูล ลงมือทำแล้วบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่เชื่อลงไปดูที่ “สวนพอเพียง” Web ส่วนตัวของเขาสิครับ…

ผมต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นเตาเผาถ่านประสิทธิภาพสูง… มิใช่ว่าผมไม่เคยเห็นเตาเผาถ่านแบบนี้ ผมเห็นและทำ และส่งเสริมชาวบ้านที่ดงหลวงทำด้วยเหมือนกัน แต่ของโสทรแตกต่างจากทั่วไป และมีประสิทธิภาพมากกว่าน่ะซี….

ผมเห็นแล้วก็ชื่นชมการดัดแปลงเตา ที่ใช้ช่องเปิดเตาด้านบน มิใช่ด้านข้างที่ผมใช้และที่ทั่วๆไปเขาใช้กัน มันเป็นความชาญฉลาดครับ เมื่อผมเห็นและฟังคำอธิบาย ที่ก่อให้เกิดความสะดวก ประสิทธิภาพมากกว่า ผมก็ร้อง อ๋อ……

โสทรกำลังทดลองเผากะลามะพร้าวที่หาได้ง่ายในสวน และเผาโคนต้นไผ่ตงที่ประสิทธิภาพการเผาทำให้เกิดถ่านประสิทธิภาพสูง และอื่นๆอีก ถ่านที่ได้สีดำก็ไม่ค่อยเปื้อนมือ

สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเผานั้นนอกจากถ่านประสิทธิภาพสูงแล้ว โสทรยังทำน้ำส้มควันไม้อีก ซึ่งเอาไปใช้ในแปลงผักเพื่อป้องกันแมลงต่างๆด้วย

ที่ผมชอบมากคือ โสทรกล่าวว่า ถ่านที่ได้นี้เมื่อเอาไปใช้งานโดยเฉพาะเอาไปปิ้ง ย่าง ก็จะลดการเกิดสาร “โพลีไซคลิค อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน : PHAs” ชนิดหนึ่งที่มาจากควันแล้วไปเกาะอยู่ที่อาหารที่มาปิ้ง ย่าง ซึ่งสารชนิดนั้นจะมีส่วนทำให้เกิดมะเร็ง

น้องหมอตาตั้งคำถามว่ามันลดลงได้อย่างไร โสทรอธิบายถึงกระบวนการเผาถ่านเสียยาวเหยียดตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ถ่านที่ลดสาร PHAs
แม้ว่าถ่านที่ผลิตได้ยังไม่ถึงกับออกจำหน่ายให้แม่ค้าย่างอาหารก็ตาม แต่ประโยชน์ที่จะได้รับนั้นเห็นแล้ว และเกิดขึ้นมาแล้ว อาจใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง แม่ค้าย่างอาหารทั้งหลายคงหันมาใช้ถ่านของโสทรกัน และหากร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประชาสัมพันธ์สิ่งนี้ สังคมก็จะได้ประโยชน์ มนุษย์ทั้งหลายก็ได้ประโยชน์…

โสทรยืนยันว่า ผักที่ปลูกนั้นมีทั้งทดลอง ศึกษาและทำเพื่อบริโภคจริง อย่างเขาปลูกผักสลัดก็เพื่อบริโภค แต่คุณพ่อก็เอาไปขายบ้าง โสทรชี้ให้เห็นการปลูกข้าวในกระป๋องใหญ่ที่ดัดแปลงมาจากถังใส่สิ่งของ เขาเฝ้าดูมันเติบโต สังเกต และบันทึกมันไว้ ผมได้เห็นต้นมะฮอกกานี ไผ่ทนแล้ง ข้าวโพด พริก ถั่วพูและถั่วอื่นๆ มะระขี้นก…หากจะนับชนิดพืชที่ปลูกน่าจะหลายสิบชนิด

โสทรยอมรับว่าพืชผักบางชนิดที่ปลูกก็ล้มเหลว ด้วยปัจจัยต่างๆหลายประการ การเพาะปลูกในเงื่อนไขต่างๆนั้นมิใช่ว่าจะสำเร็จไปทุกครั้ง ไม่ใช่.. เมื่อเงื่อนไขหมดไปก็ปลูกใหม่ ทำใหม่ได้… นี่คือความเป็นจริง และยอมรับความเป็นจริง

หากโสทรเป็นเกษตรกร ก็เป็นเกษตรกรยุคใหม่ รุ่นใหม่

หากเขาเป็นหนุ่ม ก็เป็นหนุ่มที่ทำชีวิตให้มีสาระ

หากเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาก็ได้ทำบทบาทของการศึกษา ทดลอง สรุป ทำใหม่ ต่อยอด ยกระดับ..

หากเขาเป็นนักคอมพิวเตอร์ เขาก็ไม่ได้ทิ้งความรู้ที่ร่ำเรียนมา และยังได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรเผยแพร่ความรู้ทั้งงานการเกษตรที่ทำและความรู้พื้นฐานของเขาคือ โปแกรมลีนุกซ์…

หนุ่มคนนี้สังคมไม่พูดถึงไม่ได้ครับ….


เฮ8 คนจริงที่ชื่อโสทร(2)

390 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 7 เมษายน 2009 เวลา 22:50 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 7187

ชีวิตก็เร่ร่อนไปทำงานในวิชาชีพนี้อย่างมีความสุข…สมใจตัวเอง สมใจพ่อแม่ พี่น้อง..

อนาคตน่าจะสดใส สำหรับโสทร…..


แต่แล้วโสทรผิดหวังกับวงจรชีวิตในระบบสังคมปัจจุบัน แม้ว่าสถานที่ทำงานจะเป็นสถานที่ที่มีเกียรติ แต่บุคลากรหลายระดับประพฤติตนในทางที่ขัดกับจิตตารมณ์ของโสทร

ไม่ได้ซักไซ้ แต่พอเข้าใจว่าคืออะไร…

แล้วโสทรก็ทนไม่ไหวต่อบุคลากรบางคน ลาออกไปหางานทำใหม่ และก็ไม่ยากอะไรเลยที่จะได้งานใหม่ที่คิดว่ามีเงื่อนไขที่ดี เพราะใกล้บ้านเข้ามาอีก ช่วงเวลาที่ทุ่มเทงานใหม่นั้น สิ่งที่โสทรรังเกียจก็เข้ามาอีก.. มันบาดใจ โสทรทบทวนชีวิตอย่างหนักก่อนตัดสินใจว่า หากจะย้ายงานไปอีกก็คงพบสิ่งเหล่านี้อีก เสียเวลาเปล่า กลับบ้านดีกว่า มีพ่อ มีแม่ มีพี่มีน้อง มีสวนยาง มีที่ดินที่สามารถจะปลูกฝังอะไรก็ได้…


วันที่โสทรหอบกระเป๋าบ่ายหน้ากลับบ้านสวนนั้น เป็นความกล้าหาญยิ่งนัก…

แม้ว่าจะต้องตอบคำถามมากมายของพ่อแม่พี่น้อง

แม้ว่าจะต้องเริ่มต้นชีวิตในแบบใหม่ที่ท้าทายอีกแบบหนึ่ง

แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันสายตาเพื่อนบ้านมากมาย


ผมถามโสทรว่า พ่อแม่ว่าไงบ้าง????

พี่… โสทรนิ่งไปพักหนึ่งแล้วกล่าวว่า

พ่อ แม่ผมก็เหมือน พ่อแม่ทั่วไป ที่อยากเห็นลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย ทำงานที่มั่นคงมีเงินเดือน มีความก้าวหน้า….

อุตส่าห์ร่ำเรียนมา แล้วทำไมกลับมาทำสวนเช่นนี้….

ไม่อายเพื่อนบ้านหรือไร…ฯลฯ…..


ผมไม่ทราบว่าโสทรตอบว่าอย่างไร อธิบายพ่อแม่ว่าอย่างไร

แต่ที่ผมสัมผัสได้ คือโสทรปลูก…..ปลูก…. ปลูกพืชที่กินได้สารพัดชนิด

ทำปุ๋ยชีวภาพเอง ทำสารไล่แมลงเอง เผาถ่านแล้วเอาน้ำส้มควันไม้

ทดลองการปลูกพืชสารพัดแบบ ศึกษา ค้นคว้า เรียนรู้ เผยแพร่….

ช่วงที่เราทานอาหารกลางวันนั้น โสทรกล่าวว่าทุกอย่างที่ทำอาหารวันนี้

คือผักที่ผมปลูกมากับมือทั้งสิ้น..




Main: 0.048058986663818 sec
Sidebar: 0.15084719657898 sec