พื้นที่ประเทศลาวคือผ้าที่พับไว้..

2451 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 23 ธันวาคม 2011 เวลา 21:52 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 49867

สภาพพื้นที่ประเทศลาว เมื่อมองลงมาจากเครื่องบิน

ที่บินจากหลวงพระบางมาเวียงจัน

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 เวลา 14:05 น.

ภูมิอากาศด้านล่างนั้นหนาวเหน็บครับ

ช่วงหนึ่งผมบรรยายให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมงานพัฒนาชุมชน

เรื่องการทำงานกับชุมชน ระหว่างนั้นหัวหน้างานของ

เขาลุกขึ้นมาพูดว่า ต่อไปเราต้องรู้เรื่องราวอย่างละเอียดของชุมชน

ทุกครัวเรือน เราจะพัฒนาการเกษตรให้ก้าวหน้า “ประเทศลาว

เรามีพื้นที่กว้างขวาง เพียงเป็นพื้นที่ที่เหมือนผ้าพับไว้เท่านั้น

หากคลี่ออกมาจะกว้างใหญ่มาก” …

เมื่อดูภาพนี้แล้วทำให้นึกถึงคำพูดของหัวหน้าท่านนั้นครับ


วัดป่าฮวก ตอนที่ 3

227 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 พฤษภาคม 2011 เวลา 22:12 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3626

การบูรณะครั้งที่ผ่านมานั้น ได้ปูพื้นหน้าโบสถ์ ซ่อมฝ้าเพดานภายในโบสถ์ เสาหน้าเอนเอียง พื้นโบสถ์และหลังคาบางส่วน ยังต้องการซ่อมแซมอีกมาก โดยเฉพาะหลังคา ภาพภายในและบริเวณรอบๆวัด


มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ ท่านสมบุนเล่าว่า ช่วงที่มีการบูรณะทางขึ้นวัดภูสี คนงานสตรีหลายท่านถือโอกาสมานอนพักผ่อนในโบสถ์เอาแรง ก่อนที่จะไปทำงานต่อ แต่พอเคลิ้มๆหลับ ก็พบว่ามีคนตัวใหญ่สูงมาขับไล่ออกไป บอกว่าที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ที่สตรีจะมานอน….!!!??


วัดป่าฮวก สร้างเคียงคู่ภูสี ขนานถนนหน้าพระราชวัง หันหน้าไปทางทิศเหนือ ดังนั้นหากไปยืนหน้าโบสถ์มองไปทางทิศเหนือ ขวามือก็เป็นภูเขามีร่องรอยการสร้างกุฏิพระ เดิมเป็นป่าไผ่รวก หรือไม้ฮวก อันเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ ท่านสมบุน กล่าวว่าในอนาคตหากเป็นไปได้จะสร้างกุฏิพระขึ้นมาในสถานที่เดิม เพื่อจะได้มีพระมาจำพรรษา และจะได้ดูแลโบสถ์อันสำคัญแห่งนี้ด้วย


ผมมองหน้าท่านสมบุน แล้วก็ชื่นชมจิตใจท่านจริงๆ ท่านสมบุนกล่าวต่อไปว่า “…ผมสำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพฯที่พระราชทานทุนหลวงให้ไปเรียนที่เชียงใหม่ ทุกวันนี้หากผมจะใช้ความรู้ไปหากินวาดรูปขายที่ตลาดกลางคืนหลวงพระบาง ผมก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สำนึกผมนั้นต้องการสนองเจตนาของสมเด็จพระเทพฯมาวาดรูปที่โบสถ์นี้ขายเพื่อเอาเงินเข้ากองทุนบูรณะโบสถ์หลังนี้ต่อไป….”


โฮ น้ำตาผมจะไหลเอา เมื่อได้ยินท่านสมบุนกล่าวเช่นนั้น…. ใจผมนึกไปว่าหากมีโอกาสใดๆที่จะหาเงิน หาทองมาทำนุโบสถ์หลังนี้ ผมก็จะทำ…

วันนั้นค่ำเกินไปท่านสมบุนขอตัวกลับไปบ้านพัก ผมขอนัดท่านสมบุนใหม่ในวันถัดไปเพื่อขอสัมภาษณ์ต่อ ผมเดินกลับที่พักผ่านตลาดกลางคืนหลวงพระบางที่เต็มถนนหน้าพระราชวัง ผมเดินลัดเลาะชายภู ริมน้ำคาน ด้วยสมองที่อิ่มเอิบ คิดไปร้อยแปดเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ ท่านสมบุน และพระกรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระเทพฯ….

บ่ายห้าโมงวันรุ่งขึ้นผมไปพบท่านสมบุนตามนัดหมาย เราคุยกันไปเรื่อยๆโดยผมอัดเทปไว้ด้วย และขออนุญาตเอาไปเขียนที่ลานปัญญา ท่านสมบุนไม่ติดขัดอย่างใด จู่ๆท่านก็ดึงมือผมเดินออกมาหน้าโบสถ์ตรงประตูเข้าด้านซ้ายมือแล้วกล่าวว่า….


บานประตูองค์นี้ถูกขโมยไปขายเพิ่งได้คืนมาเมื่อสามเดือนที่แล้ว..??? ขโมยปีนเข้าทางหน้าต่างแล้วมาถอดบานประตูไปขายให้พ่อค้าคนไทย..!!!!!! เข้าใจว่าเป็นไปตามใบสั่ง… แต่บุญเหลือเกิน..เพราะสถานที่นี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เราทราบเรื่องทั้งหมดและได้คืนมาด้วยความสมบูรณ์ มีพ่อค้าคนไทยที่ค้าขายของเก่าสองรายสั่งเอาบานประตูองค์นี้ โชคดีที่พ่อค้าทั้งสองคนทะเลาะกัน คนหนึ่งไปกระซิบบอกตำรวจ เราเลยได้เรื่องทั้งหมดและตามไปจับเอามาได้ กำลังจะลำเลียงเอาออกจากลาว บุญเหลือเกิน…

ผมขนลุกซู่เมื่อทราบรายละเอียดเช่นนั้น ใจนึกว่า ช่างบาปเหลือเกินคนที่ทำ คนที่สั่งซื้อ…เมื่อเอากลับมาและติดตั้งที่เดิมท่านสมบุนจึงต้องลงมาดูแลใกล้ชิดกว่าแต่ก่อน

ใจผมนึกว่า อยากสนับสนุนท่านสมบุนที่จะทำนุบำรุงโบสถ์แห่งนี้ งานที่ผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้นนั้นราคาเป็นพันล้าน หมื่นล้าน หากเจ้าของโครงการแบ่งเจียดเศษกะตังมาทำ CSR โดยการอนุรักษ์สมบัติทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย….

คนตัวใหญ่แต่สถานภาพกระจอกอย่างผมก็คิดได้แค่นี้แหละในตอนนี้…..


หลวงพระบางอีกครั้ง

30 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 พฤษภาคม 2011 เวลา 10:08 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2270

จะไปไชยบุรี มีหลายทาง แต่ที่นิยมกันคือ บินจากเวียงจัน ไปลงหลวงพระบาง แล้วนั่งรถจากหลวงพระบางไปไชยบุรี เมื่อมีโครงการที่นั่น รถโครงการก็มารับ แล้วก็ปุเลง ขึ้นเขาลงห้วย ฝุ่นตลบ หัวแดงไป และอันตราย อย่างที่เคยเขียนถึงอุบัติเหตุมาแล้วนั่นแหละ เครื่องบินจากเวียงจันไปหลวงพระบางนั้น มีหลายเที่ยวต่อวัน ทุกวัน เป็นเครื่องขนาดกลาง เพราะหลวงพระบางเป็นเมืองมรดกโลกคนมาเที่ยวมากมายมหาศาล อีกเส้นทางหนึ่งที่ไปไชยบุรีคือ ขึ้นเครื่องตรงจากเวียงจันไปไชยบุรีเลย แต่มีสัปดาห์ละสองเที่ยวคือวันอังคารและวันศุกร์ เท่านั้น เป็นเครื่องบินเล็กมี 11 ที่นั่ง หรือบางวันอาว์เปลี่ยนบอกว่าเป็นเฮลิคอบเตอร์ เสียงดังจนหูอื้อ จริงๆมีรถโดยสารวิ่งตรงเหมือนกันแต่ใช้เวลาทั้งวันและใครที่เมารถละก็หลายคนไม่แนะนำ..


ครั้งที่แล้วผมนั่งเครื่องไปลงที่หลวงพระบางและคอยรถเสีย 2 วันเพราะรถเสียและติดงานจึงมีเวลาท่องหลวงพระบาง ได้รับคำแนะนำจากสนามบินหลวงพระบางให้ไปพักที่ เรือนพักจิดลัดดา ราคาคืนละ 400 บาทห้องเล็กๆพอซุกหัวนอนไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไร สภาพใหม่ เพราะหลวงพระบางมีแต่นักท่องเที่ยว จึงต้องการที่พักมากมาย ใครมีบ้านก็ทำเป็นเรือนพักหมด หาเงินเข้ากระเป๋าดีกว่า ที่พักแบบนี้เป็นพวก Back packer มาพักกัน เจ้าของเดิมมีอาชีพขายทอง พนักงานเป็นอดีตช่างตีทอง พูดภาษาต่างประเทศเป็นไฟทั้งอังกฤษ ญี่ปุ่น ถามว่าไปเรียนที่ไหนมา เขาบอกว่าเรียนจากการคุยแบบหน้าด้านๆเอง


ที่พักแห่งนี้ติดกับภูสี ซึ่งคือวัดภูสี เป็นภูเขาลูกเล็กกลางเมืองหลวงพระบาง อยู่ในโปรแกรมการท่องเที่ยวที่เชิญขึ้นไปชมเมืองหลวงพระบางทั้งเมืองและดูพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม นึกถึงดอยสุเทพ แต่ไม่สูงเท่า ภูสีอยู่ตรงหน้าพระราชวังเจ้ามหาชีวิตเลยทีเดียว


ผมชอบเส้นทางเดินขึ้น หากเทียบกับดอยสุเทพแล้วนั้น บันไดเดินขึ้นดอยสุเทพนั้นตรงดิ่ง เลย แต่ที่ภูสีนั้นวนไปมา แบบพยายามค่อยๆลาดชันขึ้นไป ตรงหักศอกก็มีที่พักเหนื่อยเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่จะได้พัก และตลอดเส้นทางเดินจะปกคลุมด้วยต้นจำปี จำปา อายุเป็นร้อยๆปี ช่วงออกดอกนึกซิว่ามันจะหอมแค่ไหนระหว่างเดิน ผมนึกไปถึงปราสาทวัดพูที่จำปาสัก ก็เช่นเดียวกันมีต้นจำปาตลอดเส้นทางเดินขึ้น นึกถึงเพลงนี้


ผมไม่มีรายละเอียดของภูสีแห่งนี้ แต่คิดว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางประเพณีและศาสนาของนครหลวงพระบางแน่นอนเพราะอยู่หน้ามหาราชวัง และดูจากคุณยายที่เอาดอกไม้ ธูปเทียน มาขายเพื่อสักการะ ชุดสักการะนี้ทำแบบฝีมือชาวบ้านที่ประณีต สวยงามบ่งบอกถึงความศรัทธา ที่เอามาขายได้ ผมก็อุดหนุนคุณยาย แปลกที่เขาขายเป็นคู่ไม่ขายเดี่ยว คุณยายก็บอกว่า คนเราต้องมีคู่การถวายความเคารพสักการะก็ควรทำเป็นคู่ ทำพร้อมกัน หรือหากมาคนเดียวก็ถวายเผื่อแก่กัน… ผมไม่คิดเชิงธุรกิจแต่เชื่อในความหมายของท้องถิ่น


อิอิ ใครยังไม่มีคู่ก็ไปหลวงพระบางแล้วไปทำบุญที่นี่เน้อ…อิอิ อาจจะได้คู่เป็นชาวต่างชาติ เพราะมากมายจริงๆ เดินไปทางไหนก็จะชนโดยเฉพาะพวกฝรั่งเศส อาจเพราะลาวและที่นี่เคยเป็นเมืองขึ้นรึเปล่า..เขาเลยตามมาดู…อดีตแผ่นดินในปกครองของเขา..

ฮือ..ไม่อยากคิดมาก เพราะผมไม่ชอบการเป็นเมืองขึ้นใคร….

เพราะนั่นคือผู้รุกราน…


การเดินทางที่ไม่จบสิ้น..

169 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 20 เมษายน 2011 เวลา 0:20 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 4953

ไม่รู้เป็นกรรมอะไรของผมซิครับ มีงานมาให้ทำแล้ว ผมต้องปฏิเสธ เพราะไปขัดกับความเห็นของเพื่อนๆจำนวนมาก รวมทั้ง คุณตุ๊ คนข้างกายบอกว่า อย่าไปทำงานนี้นะ…ก็งาน Public scoping กรณีเหมืองแร่โปแตสที่อุดร บางท่านอาจจะติดตามข่าวการต่อต้านของกลุ่มชาวบ้านและนักวิชาการจำนวนหนึ่งแล้วนะครับ เพื่อนพ้องน้องพี่เหล่สายตามองผมเป็นพวกนายทุนไปแล้ว ส่วนทางหน่วยงานที่ผมสังกัดก็คิ้วขมวดมองผมเป็นพวกต่อต้าน กล้าปฏิเสธงานที่ให้ทำ เพราะผมนั้นเคยยืนตรงจุดที่ฝ่ายต่อต้านยืนอยู่ และ เข้าใจว่าพี่น้องทำอะไรอยู่

วันนี้ก็มีการประชุมเรื่องการสร้างเขื่อนไชยบุรีที่เวียงจัน มีกลุ่มต่อต้านทั้งไทย ลาว และฝรั่งต่างชาติมาต่อต้าน ผมก็ถูกมอบหมายงานให้ไปทำงานที่ไชยบุรีเรื่องการ Resettlement นี่แหละ ต้องรีบทำเพราะสิ้นเดือนนี้จะระเบิดหินกลางแม่น้ำโขงแล้ว รีบไปเดี๋ยวนี้ ไป supervise กลุ่มบริษัทที่ทำหน้าที่โยกย้ายประชาชน เหมือนที่อาว์เปลี่ยนทำที่เมืองหงสา แต่คนละกรณี


วันนี้ผมก็มาโด่เด่ที่หลวงพระบางเตรียมตัวเข้าไชยบุรีพรุ่งนี้ และยาวไปจนสิ้นเดือนเลย ความจริงเขามอบหมายให้ผมมาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ผมผัดผ่อนมาเพราะแม่ผมไปนอนอยู่ห้อง ICU ต้องลงมากรุงเทพฯดูแลท่านสองสามครั้ง ตอนนี้ก็ตัดใจให้น้องๆดูแลแทนผม ทั้งที่ใจผมอยู่ข้างเตียงแม่


ผมมีเวลาที่หลวงพระบางเพราะรถที่จะมารับกำลังซ่อม และอีกคันก็ติดภารกิจ จึงมีเวลาเตร็ดเตร่ ผมจึงเดินขึ้นภูสี เป็นภูเขากลางเมืองหลวงพระบางที่ใครๆมาหลวงพระบางต้องเดินขึ้นไปดูพระอาทิตย์ลับภูเขา ดูเมืองหลวงพระบาง มรดกโลกที่มีฝรั่งแน่นไปทั้งเมือง ผมซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปกราบพระบนเจดีย์ยอดภูสี ตรงข้ามพระราชวังเจ้ามหาชีวิต เสร็จแล้วลองเสี่ยงทายเซียมซี

ผมภาวนาอนาคตของผม ผมได้เลข 10 ไปหยิบกระดาษเสี่ยงทายปรากฏว่าไม่มีใบเสี่ยงทายเลขนี้ มันหมดไป เอาใหม่ ผมเสี่ยงทายคุณแม่ ขอให้ท่านดีวันดีคืน หากจะสูญสิ้นไปก็อย่าเจ็บปวดทรมานท่านเลยผมได้เลข 25 ไปหยิบใบเสี่ยงทายพบว่า ไม่มีอีก หมด


อากาศร้อนมากเดินลงทางมหาราชวังอีกเพราะผมทราบดีว่าตกเย็น หรือกลางคืนจะมีตลาดไนท์บาซาร์ ผมเคยมาแล้วหลายปีก่อน มาวันนี้โฮ ตลาดขยายเต็มถนนยาวเหยียด ก่อนลงไปตลาดบาซ่าร์ มีโบสถ์เก่าหลังหนึ่ง อยู่ตรงข้ามถนนกับมหาราชวังเจ้ามหาชีวิต อยู่ทางขวามือขาขึ้นภูสี ผมเดินไปเห็นมีคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างบน คงเป็นคนเฝ้า


มีป้ายภาษาอังกฤษอธิบายว่าเชิญชมโบสถ์เก่าที่ด้านในผนังมีภาพเขียนพุทธประวัติ มีเพียงโบสถ์หลังเดียวเท่านั้นในหลวงพระบางที่มีภาพเขียน และเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองมรดกโลก เขาอธิบายเช่นนั้น ผมถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปกราบพระพุทธรูปประธาน แต่แล้วผมก็ตะลึงเพราะมีป้ายเล็กๆเขียนไว้ว่า สร้างโดยรัชการที่ 5 ของไทย…???

ผมมีเรื่องยาวเหยียดเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ กับชายคนเฝ้า เก็บเอาไว้ก่อน…

แต่จะมากราบขออภัยพ่อครู และทุกท่านว่า ผมถูกส่งตัวไปไชยบุรีเสียแล้ว ไม่สามารถมาโคราชกราบย่าโมได้ ด้วยความเสียใจ ผมถูกรับผิดชอบงานสำคัญของการสร้างเขื่อนไชยบุรี ที่เร่งด่วนจะระเบิดหินปลายเดือนนี้ จะต้องย้ายชาวบ้านภายในเดือนนี้เท่านั้น…..??!!

โอ้ พระเจ้า แม่อยู่ ICU, งานโคราช, งานส่วนตัวที่เชียงใหม่, งานด่วนไชยบุรี ฯลฯ



Main: 0.038404941558838 sec
Sidebar: 0.30137491226196 sec