วัดป่าฮวก ตอนที่ 3
อ่าน: 3619การบูรณะครั้งที่ผ่านมานั้น ได้ปูพื้นหน้าโบสถ์ ซ่อมฝ้าเพดานภายในโบสถ์ เสาหน้าเอนเอียง พื้นโบสถ์และหลังคาบางส่วน ยังต้องการซ่อมแซมอีกมาก โดยเฉพาะหลังคา ภาพภายในและบริเวณรอบๆวัด
มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ ท่านสมบุนเล่าว่า ช่วงที่มีการบูรณะทางขึ้นวัดภูสี คนงานสตรีหลายท่านถือโอกาสมานอนพักผ่อนในโบสถ์เอาแรง ก่อนที่จะไปทำงานต่อ แต่พอเคลิ้มๆหลับ ก็พบว่ามีคนตัวใหญ่สูงมาขับไล่ออกไป บอกว่าที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ที่สตรีจะมานอน….!!!??
วัดป่าฮวก สร้างเคียงคู่ภูสี ขนานถนนหน้าพระราชวัง หันหน้าไปทางทิศเหนือ ดังนั้นหากไปยืนหน้าโบสถ์มองไปทางทิศเหนือ ขวามือก็เป็นภูเขามีร่องรอยการสร้างกุฏิพระ เดิมเป็นป่าไผ่รวก หรือไม้ฮวก อันเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้ ท่านสมบุน กล่าวว่าในอนาคตหากเป็นไปได้จะสร้างกุฏิพระขึ้นมาในสถานที่เดิม เพื่อจะได้มีพระมาจำพรรษา และจะได้ดูแลโบสถ์อันสำคัญแห่งนี้ด้วย
ผมมองหน้าท่านสมบุน แล้วก็ชื่นชมจิตใจท่านจริงๆ ท่านสมบุนกล่าวต่อไปว่า “…ผมสำนึกในพระกรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพฯที่พระราชทานทุนหลวงให้ไปเรียนที่เชียงใหม่ ทุกวันนี้หากผมจะใช้ความรู้ไปหากินวาดรูปขายที่ตลาดกลางคืนหลวงพระบาง ผมก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่สำนึกผมนั้นต้องการสนองเจตนาของสมเด็จพระเทพฯมาวาดรูปที่โบสถ์นี้ขายเพื่อเอาเงินเข้ากองทุนบูรณะโบสถ์หลังนี้ต่อไป….”
โฮ น้ำตาผมจะไหลเอา เมื่อได้ยินท่านสมบุนกล่าวเช่นนั้น…. ใจผมนึกไปว่าหากมีโอกาสใดๆที่จะหาเงิน หาทองมาทำนุโบสถ์หลังนี้ ผมก็จะทำ…
วันนั้นค่ำเกินไปท่านสมบุนขอตัวกลับไปบ้านพัก ผมขอนัดท่านสมบุนใหม่ในวันถัดไปเพื่อขอสัมภาษณ์ต่อ ผมเดินกลับที่พักผ่านตลาดกลางคืนหลวงพระบางที่เต็มถนนหน้าพระราชวัง ผมเดินลัดเลาะชายภู ริมน้ำคาน ด้วยสมองที่อิ่มเอิบ คิดไปร้อยแปดเกี่ยวกับโบสถ์หลังนี้ ท่านสมบุน และพระกรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระเทพฯ….
บ่ายห้าโมงวันรุ่งขึ้นผมไปพบท่านสมบุนตามนัดหมาย เราคุยกันไปเรื่อยๆโดยผมอัดเทปไว้ด้วย และขออนุญาตเอาไปเขียนที่ลานปัญญา ท่านสมบุนไม่ติดขัดอย่างใด จู่ๆท่านก็ดึงมือผมเดินออกมาหน้าโบสถ์ตรงประตูเข้าด้านซ้ายมือแล้วกล่าวว่า….
บานประตูองค์นี้ถูกขโมยไปขายเพิ่งได้คืนมาเมื่อสามเดือนที่แล้ว..??? ขโมยปีนเข้าทางหน้าต่างแล้วมาถอดบานประตูไปขายให้พ่อค้าคนไทย..!!!!!! เข้าใจว่าเป็นไปตามใบสั่ง… แต่บุญเหลือเกิน..เพราะสถานที่นี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เราทราบเรื่องทั้งหมดและได้คืนมาด้วยความสมบูรณ์ มีพ่อค้าคนไทยที่ค้าขายของเก่าสองรายสั่งเอาบานประตูองค์นี้ โชคดีที่พ่อค้าทั้งสองคนทะเลาะกัน คนหนึ่งไปกระซิบบอกตำรวจ เราเลยได้เรื่องทั้งหมดและตามไปจับเอามาได้ กำลังจะลำเลียงเอาออกจากลาว บุญเหลือเกิน…
ผมขนลุกซู่เมื่อทราบรายละเอียดเช่นนั้น ใจนึกว่า ช่างบาปเหลือเกินคนที่ทำ คนที่สั่งซื้อ…เมื่อเอากลับมาและติดตั้งที่เดิมท่านสมบุนจึงต้องลงมาดูแลใกล้ชิดกว่าแต่ก่อน
ใจผมนึกว่า อยากสนับสนุนท่านสมบุนที่จะทำนุบำรุงโบสถ์แห่งนี้ งานที่ผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องมากขึ้นนั้นราคาเป็นพันล้าน หมื่นล้าน หากเจ้าของโครงการแบ่งเจียดเศษกะตังมาทำ CSR โดยการอนุรักษ์สมบัติทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ก็จะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย….
คนตัวใหญ่แต่สถานภาพกระจอกอย่างผมก็คิดได้แค่นี้แหละในตอนนี้…..