วัดป่าฮวก ตอนที่ 1
ถ้าไม่บันทึกเรื่องนี้คงนอนไม่หลับ เพราะติดค้างมาหลายวัน แผนที่ยุ่งๆนี่คือหลวงพระบาง ผมต้องการชี้ให้เห็นที่ตั้งของ “วัดป่าฮวก” ที่ผมเกริ่นไว้แล้วนั้น ย้ำว่าอยู่ตรงฐานภูสี ตรงข้ามพระมหาราชวังเจ้ามหาชีวิต อยู่ทางขวามือของบันไดขึ้นภูสี
เนื่องจากวัดนี้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์ จึงมีน้อยคนนักที่จะแวะเข้าไป และหากชายคนนั้นไม่เขียนป้ายบอกถึงความสำคัญของวัดนี้ ก็คงจะยิ่งน้อยไปอีกที่จะมีคนแวะเข้าไป เพราะ เป็นโบสถ์ หรือสิมเก่า ดูภายนอกก็งั้นๆ ไม่เห็นจะน่าเดินเข้าไปใช้เวลาอะไรเลย แค่เห็นก็เพียงพอแล้ว อะไรทำนองนั้น
ผมเองก็คิดเช่นนั้น ยิ่งมากับทัวร์เขาก็จะเร่งเวลาที่จะต้องไปดูโน่นดูนี่ตามโปรแกรม
แต่วันนั้นผมมีเวลาจึงเดินเข้าไปก็ต้องตะลึง และขนลุกที่ทราบว่าสร้างโดยรัชการที่ 5 ของประเทศไทย สภาพที่เห็นนี้ได้รับการบูรณะแบบง่ายๆมาแล้วครั้งหนึ่งโดยสมเด็จพระเทพฯท่านทรงพระดำริ โดยให้ทุนการศึกษากับคนหลวงพระบางไปเรียนปริญญาเรื่องการอนุรักษ์โดยตรงที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 5 ทุน แล้วให้กลับมาสะสมเงินบริจาคแล้วทำนุบำรุง ท่านทรงพระปรีชามากจริงๆ ผมนึกเองในใจ ทำไมไม่ตีปีบขอรับการบริจาคแล้วแห่ ยกโขยงกันมาซ่อมแซม ประกาศให้ครึกโครม ผมเดาเอาว่า ก็เพราะโบสถ์หลังนี้อยู่ที่หลวงพระบาง อยู่ตรงหน้ามหาราชวัง อยู่ในเมืองมรดกโลก หากทำเช่นนั้น ผลดีก็มี แต่ผลไม่ดีก็อาจจะมีมากกว่า สู้ทำเงียบๆ แต่ทำแบบยั่งยืนคือสนับสนุนให้คนหลวงพระบางไปเรียนเอาความรู้มาและมาทำนุบำรุงกันไป เงียบๆดีกว่า
ภาพขวามือคือพระมหาราชวังที่ผมยืนถ่ายรูปจากหน้าวัดป่าฮวก ภาพซ้ายมือคือวัดในบริเวณมหาราชวัง ที่สง่า โอฬาร สวยงามมากๆ ความรู้สึกของคนธรรมดาอย่างผมรู้สึกได้ว่าสิ่งสมควรทำกับวัดป่าฮวกนั้นคืออะไร ทำนุบำรุงแบบเงียบๆ
สิ่งที่ผมบันทึกนี้เป็นเพียงประวัติศาสตร์บอกเล่า ไม่สามารถยืนยันว่าถูกต้องแค่ไหน เพราะผมสอบถามจากท่านผู้มาเฝ้าโบสถ์วัดป่าฮวกซึ่งได้รับทุนจากสมเด็จพระเทพฯ ว่า หลายสิบปีก่อนนั้นวัดป่าฮวกมี “หน้าบัน”ที่เป็นรูปครุฑแล้วตัวครุฑหลุดหายไปเหลือแต่ฐาน ต่อมาคนหลวงพระบางเอารูปแกะช้างสามเศียรมาติดแทนที่ครุฑบนฐานเดิม
สิ่งที่เป็นหลักฐานยืนยันว่ารัชการที่ 5 มาทรงสร้างไว้นั่นก็คือ หลักฐานครุฑนี่เองเพราะครุฑคือสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ไทย แล้วที่หายไปนั้นแน่ใจหรือว่าเป็นครุฑ คำถามนี้ตอบว่า หนึ่งฐานที่คงเหลือนั้นคือฐานครุฑที่มีอยู่ทั่วไปในกรุงเทพฯ และท่านผู้เฝ้าโบสถ์กล่าวว่า “เจ้านายไทย” มาถ่ายรูปอย่างละเอียดไปแล้วไปตรวจสอบหลักฐานที่หอสมุดแห่งชาติ พบว่ามีภาพเก่า โบราณของหน้าบันโบสถ์หลังนี้ และปรากฏรูปครุฑจริงๆ…!!!!????
มากกว่านี้ ภาพบนฝาผนังในโบสถ์เป็นภาพที่มีทั่วไปในโบสถ์ของกรุงเทพฯมหานคร ซึ่งไม่มีภาพเหล่านี้ในโบสถ์ของวัดที่หลวงพระบางเลยสักแห่งเดียว ท่านผู้เฝ้าโบสถ์ยังมีความเห็นแย้งบ้างว่า ความจริงภาพในโบสถ์ในเมืองไทยปัจจุบันนั้น บางแห่งก็เป็นฝีมือช่างลาว เช่นภาพที่วัดในทางภาคเหนือเป็นต้น..
ผมไม่ได้เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะจึงไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย แต่ท่านผู้เฝ้ากล่าวต่อไปว่า กรมศิลปากรไทยส่งนักวิชาการมาหลายครั้ง และกล่าวยืนยันข้อมูลเช่นนั้น
สวยงามเหลือเกิน และยิ่งทราบว่านี่คือโบสถ์ที่พระมหากษัตริย์ไทยมาทรงสร้างไว้ ก็ยิ่งตื่นเต้น
มีตอนต่อไป..
3 ความคิดเห็น
งามจริง ๆ ครับ ศิลปะข้ามชาติเขตแดน
เรื่องนี้เข้าทางออตเต็มๆเลย
หากมีโอกาสก็ไปพบท่านสมบุน บุนทะวงนะครับ ท่านผู้ดูแลโบสถ์หลังนี้ครับ
ตอนนี้อ่านแล้วตื่นเต้นมากค่ะที่ได้ทราบว่า“วัดป่าฮวก”เป็นวัดที่รัชกาาลที่ 5 ได้ทรงสร้างไว้
รู้สึกลาวจะยิ่งมีเสน่ห์น่าเที่ยวชึ้นอีกโขทีเดียว
ขอบคุณคุณบางทรายมากค่ะที่แนะนำพาเที่ยว