ยาย

1443 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 8 มีนาคม 2011 เวลา 0:54 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 19055

 

 

อีฉันมันคนจน คนโบราณ เติบโตมากับวัฒนธรรมข้าวเหนียว

อีฉันไม่รู้เรื่องวัฒนธรรมสมัยนี้ร๊อก

มองตาอีฉั้นซี มองใบหน้าอีฉั๊นซี ว่าฉันผ่านอะไรมาบ้าง

คุณเอ้ยยย อีกไม่กี่วันฉันก็ลาโลกไปแล้ว

ทำไมสังคมเอาแต่เดินหน้า ไม่มองย้อนหลังไปบ้าง

คนไม่มีฐานรากน่ะ ไปไม่รอดนะคุณเอ้ยย

 


Jacaranda

7 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 6 มีนาคม 2011 เวลา 20:39 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1161

เจ้าดอก Jacaranda หรือ “ศรีตรัง” นี้ เคยเอามาอวดบ้างแล้ว

อดไม่ได้ที่จะเอามาอีก เพราะเขากำลังบานอยู่หน้าบ้านขอนแก่น

คุณแม่(ยาย) หอบหิ้วมาจากเมืองตรัง เพราะเป็นคนตรัง

ลูกๆกี่คนกี่คนไปตั้งรกรากที่ไหนก็จะหอบเอา

ศรีตรังไปปลูกให้ เหมือนประกาศว่า บ้านนี้คนตรังนะ อะไรทำนองนั้น

เหมือนดอกผักบุ้ง แต่เป็นสีม่วงอ่อนๆ กลีบดอกก็บอบบางมากๆ

หล่นเต็มโคนต้นสวยไปอีกแบบ

ต้นที่บ้านไม่สวยเท่ารูปที่แสดงด้านล่างนี้นะครับ

ที่อาฟริกา เคนยา ที่คนข้างกายไปมานั้นบอกว่า มีเต็มเมืองไปหมด สวยซะ

ที่บ้านมีสองต้น ซ้ายขวาหน้าบ้าน แต่ต้นขวามือของบ้านถูกช่างซ่อมบ้านตัดไปโดยไม่เข้าใจ เลยตายไปซะ โอย ผมถูกคนข้างๆบ่นซะต้องปิดหู

เอารูปมา ดูกัน ยามที่มานอน นครเวียงจันทบุรีศรีศัตนาคนหุตอุตมราชธานี อิอิ

นี่คือชื่อเต็มของนครเวียงจัน ครับ

http://board.goosiam.com/html/0104425.html

 

(ขอคุณภาพจาก internet)


จากสีวร ถึงสีน้ำและเสียงเพลง

317 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 5 มีนาคม 2011 เวลา 20:44 ในหมวดหมู่ งานพัฒนาสังคม, ทุนสังคม #
อ่าน: 7560

ผมแอบชื่นชม พ่อหวังและอีกหลายๆพ่อในชนบทที่เขามีวิธีการสอนคนแบบดั้งเดิม แบบบุพกาล อะไรทำนองนั้น ไม่มีหลักวิชา ที่สมัยใหม่ต้องเข้าไปเรียนวิชาสร้างคน(ครู)กันในห้องเรียน แต่ออกมาสร้างใครไม่เป็นจริงๆ ตรงข้ามบางคนกลับไปทำลายซะอีก


ครูดีดีมีเยอะนะครับ อย่าคิดว่าตีขลุมไปหมด ที่ผมกล่าวเช่นนั้นเพราะว่า ผมไปพบชาวบ้านคนหนึ่งที่เหมือนกับเด็กหนุ่มอีสานทั่วไป ที่โตขึ้นมาจากป่าเขาก็อยากเข้าเมือง ความรู้ก็แค่ ป.4 แล้วจะเลี้ยงตัวเองได้อย่างไร มีอย่างเดียวคือแรงงาน สีวร ไม่ใช่สีเหลืองสีแดง แต่เป็น “สีวร” ชื่อเด็กหนุ่มดงหลวงคนนี้ ตะลอนไปหางานทำทั่วไปหมด ที่ไหนมีการจ้างก็ทำไม่เลือกหนักเบา …

ในที่สุดพบว่า เงินที่ได้จากค่าจ้างแค่ซื้อปลาทูกินเท่านั้น หลายปีเข้า ก็เหมือนเดิม สีวรทบทวนชีวิตตัวเองแล้วก็หันหลังให้กับสังคมเมืองเดินกลับบ้านป่า กลับไปอยู่กับพ่อแม่ ทำนาทำไร่ และมีครอบครัวเหมือนหนุ่มทั่วไป แต่ลึกๆสีวรดิ้นรนจากสภาพเดิมๆ แต่ไม่รู้จะทำอะไร แล้วสีวรก็เดินชีวิตเฉียดข้าไปที่ยาเสพติด…

พ่อหวังเป็นชาวโซ่ ธรรมดาคนหนึ่งแต่ผ่านการปรุงชีวิตจากป่า จากงานพัฒนาของเครือข่ายอินแปง ที่เอาชีวิตมาปอกกันเป็นรายคน ว่าตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร แล้วจะเดินไปทางไหนกัน การเข้าค่ายปอกเปลือกชีวิตครั้งนั้นทำให้ผู้นำไทบรูจำนวนมาก ตกผลึกกับชีวิต…เขาเหล่านั้นเดินกลับบ้านด้วยความหวังของการสร้างครอบครัวแบบพึ่งตัวเอง..

พ่อหวังกลับมาเห็นสีวร ซึ่งเป็นเหมือนลูกหลาน เห็นมาตั้งแต่เด็ก จนโตรู้นิสัยใจคอ รู้หัวนอนปลายตีนดี เห็นแววการดิ้นรนแต่ไม่มีทางออก ไม่มีทางไป และเดินเฉียดยาเสพติดเข้าไปทุกที พ่อหวังเห็นว่าเด็กคนนี้จะเสียคนแน่จึงชวนมาอยู่บ้านสวน มากินมานอนมาคุยกันมาทำงานทำนาทำสวนนี่แหละ แต่ทำไปด้วยคุยไปด้วย พ่อหวังที่ผ่านโลกมาก่อน ผ่านการใช้ชีวิตในป่า ต่อสู้กับรัฐบาลมาก่อน แล้วก็ออกมาสร้าวครอบครัวใหม่ด้วยแนวทางเกษตรผสมผสาน พออยู่พอกิน พอประมาณ

สองปีที่สีวรใช้ชีวิตกับพ่อหวัง ไปๆ-มาๆระหว่างบ้านตัวเองกับบ้านพ่อหวัง ความรักที่พ่อหวังให้แก่สีวร การสั่งสอนแบบไม่สอนคือทำไปด้วยกัน ใช้เวลาพูดคุยแลกเปลี่ยน และคลุกวงในของชีวิตกันและกัน สองปีนั้นสีวรอิ่มเอมกับมิติใหม่กับชีวิต เขากราบลาพ่อหวังพาครอบครัวลูกน้อยไปสร้างบ้านสวนขึ้นมาด้วยมือเขาเอง ปลูกทุกอย่างที่กินได้ แรงงานที่เคยรับจ้างเขา แต่คราวนี้ แรงงานทุกหยาดหยด มันคือสิ่งที่เขาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

สีวรบอกว่า ผมเรียนชีวิตจากพ่อหวังจากงานพัฒนา จาการพูดคุยแลกเปลี่ยน จาการดูพ่อๆทั้งหลายที่สร้างชีวิตมาก่อนผม ผมเข้าใจแล้วว่าผมควรจะทำอะไร ทุกวันนี้ภรรยาสีวรมีความสุขกับการเก็บผักต่างๆในสวนไปขายที่ตลาดมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 2-3 ร้อยบาท


เมื่อผมเข้ามาสัมผัส Hug school ฟังคุณครูทั้งหลายปอกเปลือกตัวเองให้ฟังแม้ว่าจะเป็นเสี้ยวส่วนก็ตาม ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวว่า เขามีความสุขมากที่ทำงานที่นี่ เข้าใจได้ไม่ยากเลยที่ผู้บริหารโรงเรียนเป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกัน แต่มีความเหมือนกันที่ทุกคนรักดนตรี อาจจะเลยไปถึงรักมากที่สุดด้วย รักศิลปะ และช่างดีเสียนี่กระไรที่คุณพ่อก็เป็นคนที่รักดนตรี รักอิสระ และสร้างสรรค์

Hug school ต่างจากโรงเรียนในวิถีชีวิตพ่อหวังที่หลอมสีวรขึ้นมาเป็นผู้คนได้ มันต่างกันสุดหล้าฟ้าเขียว แต่มีสิ่งที่เหมือนกัน ที่เป็นแก่นลึกข้างในของพื้นฐานการสร้างคนคือ “ความรัก” ที่มนุษย์พึงมีต่อกันเพื่อเสริมสร้างให้แก่กัน

ความรักนี้ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ ความรักมันสร้างโลกได้จริงๆ ในสังคมเรามีแม่พระ พ่อพระเช่นนี้มากมายที่เราผ่านพบบ่อยๆ

แต่ในระบบการเรียนในห้องของเรานั้นที่มีกระทรวงศึกษาเป็น Manager ใหญ่นั้น ความรักมันไปซ่อนซุกอยู่ตรงไหน หรือมันระเหยระเหิดไปหมดสิ้นนานแล้ว มีแต่หว่านคำพูดหรูๆ สร้างเกณฑ์ประเมินกันหน้าดำคร่ำเครียด


ถามว่าเมื่อพ่อหวังสร้างสีวรมาด้วยความรักความเป็นลูกหลานในหมู่บ้านเดียวกัน และประสพผลสำเร็จเช่นนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นในสายสัมพันธ์ของคนทั้งสอง ครอบครัวทั้งสอง และทัศนคติที่เขามีต่อเพื่อนร่วมหมู่บ้าน….

นี่คือทุนทางสังคมที่ดีงาม หมดจรด ทุกอย่างมันก็ตามมา ความเอื้ออาทรต่อกันและกันลามออกไปถึงผู้อื่นที่สีวรทำกับผู้อื่น มองกับผู้อื่น

หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในหมู่บ้าน คนสองคนจะไล่ฆ่าแกงกันไหม มีแต่จะยื่นมือมาจับต้องและนั่งลงคุยกันฉันท์พี่น้อง และอภัยให้แก่กัน

ผมคิดว่า Hug school กำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่ เหมือนที่มงคลวิทยากำลังสร้างอยู่ เหมือน ดร.อาจองยื่นสองมือไปโอบกอดเด็กสัตยาไส เหมือนลูกหลานที่มีแต่ความหวังดีมอบให้ เหมือนกับพ่อแม่มีต่อลูก…

Hug school ใช้ศิลปะแขนงต่างๆเป็นสื่อกลางที่กล่อมเกลาด้านในของตัวเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลง สีน้ำ…..ฯลฯ ชื่นชมคนหนุ่มสาวกลุ่มนี้ครับ

ความรักสร้างคน สร้างสังคม สร้างโลก

เรามารักกันเถอะครับ…


โรงเรียนฟื้นแล้ว

378 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 5 มีนาคม 2011 เวลา 10:04 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3659

ก่อนจะขอเวลาไปทุ่มให้กับงานเขียนที่รีบเร่ง ขอแวบมาหยอดงานเมื่อคืนหน่อย HUG school นั้นผมผ่านไป-มาตลอดเพราะตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพสายหลักของเมืองขอนแก่น เยื้องๆ รพ.ศรีนครินทร์ ท่านผู้เป็นเจ้าของก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในขอนแก่นและเมืองไทย คือคุณหมอวันชัย วัฒนศัพท์ เจ้าของสถาบันสันติศึกษา เคียงคู่กับ สถาบันพระปกเกล้า และมีบทบาทในการแก้ไขความขัดแย้งเมืองไทยมาหลายงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง


โดยส่วนตัว คุณหมอเองก็เคยเป็นบอร์ดของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งครั้งหนึ่งผมเป็นตัวแทน NGO เข้าไปนั่งเป็นกรรมการอยู่ด้วย และสถาบันแห่งนี้คนข้างกายผมทำงานอยู่ที่นั่น และเมื่อครั้งที่คุณหมอไปตั้งโรงเรียน KKVS ที่เป็น Bilingual school ลูกสาวผมก็ไปเรียนที่นั่น และบ่อยครั้งที่เปิดฟังรายการวิทยุที่คุณหมอจัดรายการ ที่เอาข่าวสาร แนวคิดต่างๆมาคุยให้ฟัง


มาอีกทีเมื่อ ออต เข้ามาร่วมมือกับ Hug school แล้วเอาสาระมา Post ลงที่ลาน ก็ได้ติดตามมาตลอด แต่ไม่เคยย่างก้าวเข้ามาที่นี่เลย..

ทึ่งกับคนหนุ่มสาวที่รวมตัวกันทำอะไรที่มีสาระแก่อนาคตของประเทศ เช่น HUG school ผมเองถ้าเป็นน้องอึ่ง ครูอารามและน้องหมอน้อยจากลำพูนก็ต้องมาเยี่ยมแน่นอน ได้คุยกับพ่อครูว่า เป็นโรงเรียนที่แหวกกรอบเดิมๆของโรงเรียนออกมาอย่างน่าติดตามยิ่งนัก

ยังไม่ขอลงรายละเอียดและแนวความคิดเห็นส่วนตัวต่อทีมคนหนุ่มสาวเหล่านี้นะครับ


เพียงขอแหย่หัวเรื่องไว้ก่อน เพราะต้องจบงานเขียน พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปลาว กลับจากลาวหากเคลียร์งานเสร็จก็จะกลับมาเขียนต่อครับ

แต่อยากตั้งประเด็นไว้ก่อนว่า

  • สังคมปัจจุบันพูดกันมากขึ้นในเรื่องการเรียนการสอนในกรอบเดิมๆว่าล้มเหลว และมีความพยายามมานานเหมือนกันที่จะแหวกออกมาจากกรอบนั้น นับตั้งแต่แนวคิด summer hill เข้ามาในเมืองไทย และเกิดโรงเรียนบ้านเด็กที่กาญจนบุรี
  • การวิภาคอย่างรุนแรงต่อระบบการศึกษาของ ไอวาล อิลลิสในหนังสื่อชื่อ Deschooling ดูที่ (http://www.skyd.org/html/priest/ivan.html)
  • หลังจากนั้นก็เกิด อาศรมรุ่งอรุณ เกิด โรงเรียนสัตยาไสที่ลพบุรีของดร.อาจอง (ดูที่ http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=4&post_id=60101)
  • เกิดโรงเรียนนานาชาติ เกิด Bilingual school มากมาย
  • เกิด Home school
  • ลามเลยไปถึงรูปแบบการฝึกอบรมในวงการพัฒนาชนบทมานานแล้ว

พ่อครูบาฯท่านเป็นโรคปากเปื่อย ที่รักษาไม่หาย เพราะบ่นถึงระบบการศึกษาไทยมานาน แล้วปรากฏการณ์ในสังคมที่เกิดมาจากเด็กวัยรุ่นก็ยังมีให้เห็นตลอดมา ระบบมันสิ้นหวังแล้วหรือ

ความจริงผมมีฐานเรื่องเหล่านี้มาบ้างเพราะเรียนจบมาทางการศึกษาโดยตรง แต่ไปใช้ความรู้ทาง Informal Education มาโดยตลอดเสียมากกว่า

น่าเฝ้ามอง Hug school และมงคลวิทยาจริงๆ โรคปากเปื่อยของพ่อครูท่าจะรักษาหายแล้วหละ อิอิ..


เมฆ.การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

417 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 5 มีนาคม 2011 เวลา 8:47 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 6730

 

แต่ก่อนทุกวันศุกร์ผมจะขับรถจากมุกดาหารกลับบ้านขอนแก่น

เป็นความสุขหลังพวงมาลัย คือ เปิดวิทยุ AM ฟังเพลงที่เลยยุคสมัยไปแล้ว

เปิดข่าวสารเพื่อนบ้าน และเหลือบมองเมฆบนท้องฟ้า

หากตรงไหนสวยงามก็จะหยุดรถ

แล้วคว้ากล้องตัวโปรดมาเก็บภาพนั้นทันที

จากการเป็นคนหนึ่งที่ชอบถ่ายรูปเมฆ

ก็นึกรำคาญเสาไฟข้างถนนทุกทีที่เห็นรูปเมฆสวยๆ

เพราะถ่ายรูปแล้วติดเสาไฟ สายไฟรุงรังไปหมด

หากเลือกได้ก็พยายามขับรถไปในเส้นทางที่มีพื้นที่โล่ง

เช่นไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย ฯลฯ

หากมาจากมุกดาหาร-กุฉินารายณ์

ก็สามารถตรงไป อ.สมเด็จ ต่อไปกาฬสินธุ์ ขอนแก่นได้

บางครั้งผมเลือกเส้นทางกุฉินารายณ์ไปโพนทอง เพราะเหตุผลข้างต้น

แล้วผมก็ได้รูปชุดนี้มา แปลกดี สวยดีครับ

ชุดนี้จอดรถที่ไร่อ้อย วิ่งเข้าไปกลางไร่อ้อยเพื่อหนีสิ่งกีดขวาง

แล้วก็เก็บการก่อเกิดเมฆชุดนี้มา

แล้วผมก็เอาไป post ใน FB ชมรมรักมวลเมฆตั้งแต่เดือน 8 ปี 53

เมื่อวานนี้ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติโทรมาหาขณะอยู่ที่ HUG school

ว่าขอรายละเอียดเรื่องรูปหน่อย วารสารสารคดี

เลือกรูปจากชมรมไป 30 รูปเอาไปทำ บทความ ของผมดูจะติดไป 2 รูป

ความจริง บรรณาธิการเมล์มาขอ 4 รูป แต่ผมไม่มีเวลาค้นให้

เพราะเร่งเขียนรายงานเมืองลาวอยู่ครับ

นี่ก็จ่อคอหอยเข้ามาแล้ว

——-

…เล่าให้ฟังเล่นๆครับ…


แบบดูน้องนกอาบน้ำ

165 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 3 มีนาคม 2011 เวลา 8:19 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2035

เฮ้…..พวกเราลงมาเลย มาเล่นน้ำกานนนนนน

ได้ข่าวว่า เขาไปสปากัน บางคนไปนอนให้สาวๆโป๊ะโคลนจากภูเขาไฟ

เฮ่อ…จะสู้สปาโคลนของเราได้ เร้อออ….

เย้ เย้ สนุกที่ซู๊ดเลย เย้….เย้…..


เศษกระดาษบนถนน

869 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 3 มีนาคม 2011 เวลา 8:14 ในหมวดหมู่ งานพัฒนาสังคม, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 12246

ผมไม่ใช่คนเจ้าระเบียบหลอกนะ บางครั้งออกจะเถื่อนๆซะด้วย

พ่อแม่ก็สอนอยู่เรื่องความสะอาด เรียบร้อย ระเบียบ

ยิ่งพ่อเป็นครูก็ต้องเป็นแบบอย่าง

ยิ่งตักเตือน ว่ากล่าว ลงไม้เรียวกันประจำ ลือกันทั้งบางไปเลย

ความเป็นเด็กบ้านนอกทำอะไรแบบง่ายๆ

ไม่ชอบพิธีรีตองมากนัก

แค่ให้เกียรติกันตามที่ถือปฏิบัติกันมา ก็พอดีแล้ว

แต่เมื่อโตขึ้นมา งานอยู่ในชนบทอีก แต่ที่พักอยู่ในเมือง

เรียกมนุษย์ สามโลก(บวกโลกจินตนาการเข้าไปด้วย)

มีอะไรหลายอย่างในสังคมที่ขัดหูขัดตา

อย่างพวกแซงรถมาเบียด

ในขณะที่คันอื่นเข้าคิวกันเป็นแถวกัน

หากตรงกับจังหวะที่รถผมพอดี เคยยกมือชี้หน้าหลายครั้ง

เจ้ามอเตอร์ไซด์ผ่าไฟแดงทุกวัน…ฯลฯ

อย่างรูปข้างบน รถสวยเชียว แต่คนในรถเปิดกระจก

เอาเศษกระดาษทิ้งลงบนถนนหน้าตาเฉย

Norm ของสังคมมันหดหายไปหมด

นี่เห็นกันจะจะ ไอ้ที่ลับหูลับตาล่ะจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

สังคมมันมีขึ้นลงเหมือนหลักธรรมชาติ

ก็ที่เขาปฏิวัติสังคมนิยมนั้น สังคมมันมีเรื่องแบบนี้

แล้วรุนแรงขึ้น ซับซ้อนขึ้น ใหญ่ขึ้น มากขึ้น

เมื่อปฏิวัติแล้ว ดูดีเชียว สักพักหนึ่งก็เอาอีกแล้ว

ลองเงี่ยหูฟัง ลาว เขมร เวียตนาม แม้จีน ซิ

มนุษย์นี่หนอ หากไม่มีธรรมกำกับแล้ว

ความสวยงามหามีไม่….


เก้าอี้ตัวเดิม

85 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 1 มีนาคม 2011 เวลา 15:53 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2526

(บอกซะก่อนว่ารูปกะเรื่อง เหมือนรัฐบาลกับฝ่ายค้าน อิอิ)

งานเขียนรายงานที่เน้นคุณภาพนั้นมันดูดเวลาเราไปหมดเลย

หูได้ยินแว่วๆเพียงว่า กัดดาฟี่ แย่แล้ว

Luke Donald ชนะกอล์ฟที่ ACCENTURE WGC

พธม คืนถนนบางเลนให้ กทม.แต่โดยดี

ลุงแสน ยังเฝ้ามองต้นผักหวานในสวนของแก

พ่อหวังกำลังชื่นอกชื่นใจที่ลูกสาวแต่งงานที่ดงหลวง

สาวไทยอาจจะเสียชีวิตที่ ไครส์เชิร์ท NZ

ชาวอีสานเริ่มกังวล ฤดูแล้งที่กำลังมาถึง

“ครัวคุณตุ๊” ปิดร้าน

เพราะเธอเดินทางตลอดเดือน ทำหน้าที่หัวหน้าวิจัย 4 โครงการ

วัวลุงเขียว มาร้อง บอ บอข้างบ้าน

เพราะชอบใจที่ฝักก้ามปูสุกล่วงลงพื้นและมันได้ลิ้มรสหวาน

มะม่วงออกช่อเต็มต้น

สารภีกำลังชวนผึ้งฝูงใหญ่มาโลมเล้าเอาเกสรและน้ำหวานไป

ฝ้ายคำ และพวงคราม ดอกสุดท้ายกำลังจะล่วงหล่น

แต่เจ้า จันกะพ้อ กำลังออกตุ่มดอกเต็มต้น

……ฯลฯ…….

ผมยังนั่งบนเก้าอี้ตัวเดิม ที่เดิม ท่าเดิม

เพราะงานเขียนยังไม่เสร็จ..อิอิ..

……



Main: 0.056518077850342 sec
Sidebar: 0.066936016082764 sec