ขอโทษน้องนก..
อ่าน: 15778คุณตุ๊ ใช้ห้องนอนเป็นห้องทำงานนานมาแล้ว ทั้งที่ห้องทำงานก็มี แต่ชอบห้องนอนมาทำงานมากกว่า เพราะเราทำเป็นบานกระจกใหญ่เอาไว้มองไปข้างนอกที่อดีตเป็นบึงใหญ่ขอนแก่น ตอนนี้ต้นไม่ขึ้นเต็มไปหมด ก็กลายเป็นที่อยู่สัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะนกกระปูด กระรอก กระจาบกระจิบ นานๆมีนกฮูก เหยี่ยว กระยางมาเยี่ยมเรา นกเอี้ยงมาทุกวัน เรานั่งทำงานเงียบๆ เพื่อนร่วมโลกเหล่านี้ก็มาหาเรา
เราปลูกมะพร้าว ไม้ดอก เช่น สารภี จันกะพ้อ ฝ้ายคำ ไม้ดอกเลื้อยก็มีหลายชนิด โชคดีที่เงียบ ไม่มีใครรบกวน นานๆก็มีชาวบ้านเอาวัวมาเลี้ยง มาหาอาหารธรรมชาติหลังบ้าน เราติดกระจกแบบกรองแสงเพื่อป้องกันความร้อนด้านนอกเข้ามา เรามองออกไปเห็นธรรมชาติสวยงาม
โดยคิดไม่ถึงว่ากระจกแบบนี้นี่คืออันตรายต่อสภาพแวดล้อม ต่อ “นกเขา” และนกอื่นๆ
ด้านนอกชานนั้นเป็นที่นั่งเล่น อ่านหนังสือ เป็นมุมโปรดของผมเลยหละ กินกาแฟสดหอมๆตรงนี้ ….
เมื่องานดงหลวงสิ้นสุดลง และผมเป็น Freelance งานที่ลาว ไปเก็บข้อมูลแล้วก็มานั่งเขียนรายงานที่บ้าน ผมก็ยึดห้องนอนนี่แหละเป็นที่ทำงานอีก คุณตุ๊ เดินทางบ่อยผมก็ยึดซะเลย เอาโต๊ะมากางเต็มห้อง กองหนังสือมากมาย printer ส่วนเครื่องส่งสัญญาณ internet เอาไว้ข้างล่าง
นิสัยผมนั้นเวลาทำงานจะไม่เปิด TV ซึ่งตรงข้ามกับคุณตุ๊ ต้องเปิดเป็นเพื่อน ผมไม่เปิดวิทยุ ทำอย่างเดียว Focus สติไปที่งานเท่านั้น เพราะผมคิดว่าเสียงธรรมชาติไพเราะที่สุด ทั้งๆที่ผมมี CD เพลงโปรดเต็มไปหมด จะเปิดตอนที่สมองล้าเท่านั้น
วันนั้นผมนั่งเขียนงาน อยู่หลังกระจกที่หันหน้าออกสู่ด้านนอกห้องนอน อากาศเย็นเลยเปิดช่องกระจกเพียงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็มีเสียงชนโครมที่กระจกด้านนอกตรงหน้าผม ผมตกใจนิดหน่อยรีบมองดูว่า เสียงนั้นคืออะไร ผมเห็นนกเขาบินกลับไปเกาะที่กิ่งก้ามปูใหญ่ แบบ งง งง
ผมรีบออกไปดูที่กระจกด้านนอก โฮ ใช่เลย เจ้านกเขาบินมาชนเต็มๆ เพราะกระจกมันสะท้อนเป็นต้นไม้เขียวขจีนี่เอง เขานึกว่าเป็นป่าเลยบินมาชนเอา
เจ้านกยืนงง งง เป็นนาน ซึ่งผิดปกติ เพราะเมื่อผมเดินออกไปที่นอกชานหากมีนกเขาก็จะบินหนีไป วันนี้เจ้าตัวนี้บินมาชนกระจก เลยงง งง ไม่บินไปทันที เขาคิดอะไรอยู่ผมไม่รู้ เพราะไม่ใช่นก..อิอิ แต่รู้สึกว่า เออ กระจกนี้เป็นอันตรายสำหรับนกซะแล้ว
ผมเล่าให้คุณตุ๊ ฟัง เธอบอกว่า โอย ชนบ่อย มีนกเอี้ยงมาชนถึงกะตายเลยก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว….
อีกสองวันต่อมาก็บินมาชนอีก….
ขอโทษนะเจ้านก…เดี๋ยวหาทางแก้ไข…