อากาศร้อน กับไอศกรีมครูปู

19 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 เวลา 23:04 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 868

ถามว่าที่สวนป่าอากาศร้อนไหม

ป๊าด…ร้อนซิครับ ก็เหมือนๆทุกแห่งแหละ ผมว่า ก็เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งเราก็ควรที่จะสัมผัสแบบนี้บ้าง เพื่อจะได้รับรสของความเป็นธรรมชาติที่ผันแปรไป

ผมเองนั้นเป็นคนขี้ร้อน เหงื่อมาก หยดติ๋งๆเลยหละ เวลาผมขับรถผมก็ต้องใส่ถุงมือ ใครไม่ทราบก็ว่า อีตานี่ดัดจริต..แต่จำเป็นครับมิเช่นนั้นพวงมาลัยแฉะ เหนียวเหนอะหนะไปด้วยเหงื่อที่ออกจากฝ่ามือ  อิอิ

เหตุนี้เอง เวลามาทีไปที พี่น้องเราก็กอดกัน ผมหละเขินๆอายๆที่ข้างหลังเสื้อผมแฉะไปหมด.. ขออภัยพี่น้องด้วยครับ..


ระหว่างวันหนึ่งผมอาสาขับรถให้แม่บ้านไปจ่ายตลาดเพื่อจะเอามาทำอาหารกัน มีแม่หวี ป้าหวาน ครูปู ออต ไปจ่ายตลาดกัน ระหว่างทาง แม่ครัวจำเป็นก็แลกเปลี่ยนกันว่าจะเอานั่นเอานี่ มาทำอาหารนั่นนี่ ทำของหวานนั่นนี่

แล้วครูปูก็เสนอว่า ต้มถั่วเขียวกันดีกว่า เอามาทำไอศกรีม กินแก้ร้อน ….

ผมแอบยิ้มๆ เพราะครูปูเป็นคนใต้ คนข้างกายผมก็เป็นคนใต้และทำเจ้าต้มถั่วเขียวแช่เย็นเป็นไอศกรีมกินกันประจำ นี่ก็กินก่อนจะมาสวนป่าด้วย อิอิ.. ผมเฉยๆทำไม่รู้ไม่ชี้ ใจนึกสนับสนุน เพราะมันเข้าท่าน่ะซี..

แล้วครูปูทำการต้มถั่วเขียว 1 หม้อใหญ่ แล้วเอาไปใส่ในช่องเย็น แช่ไว้จนแข็งเหมือนไอศกรีม แล้วก็ยกออกมา เมื่อมื้อกลางวัน วันนี้เอง

อร่อยครับ เหมาะกับบรรยากาศ อากาศ ..

หากใครสนใจลองทำดูนะครับ ผมแนะนำว่า หลังจากต้มถั่วเขียว เคี่ยวให้ยุ่ย สักหน่อย ตักใส่ถ้วยเล็กๆ ทิ้งให้เย็น แล้วเอาใส่ตู้เย็นช่องแช่แข็ง แล้วทิ้งข้ามคืนก็จะแข็งเป็นไอศกรีม เวลาเอามากิน บ้านผมนิยมเอานมสดใส่ลงไปด้วย แล้วก็เอาช้อนตักกิน…ซี๊ดดดดดด อร่อย เหมาะกับอากาศร้อนๆแบบนี้ครับ

ขอบคุณครูปูครับที่เอาใจใส่พวกเรา ใครๆได้ลิ้มรสไอศกรีมถั่วเขียวต้มกันทั่วหน้า อร่อย…

ครูปูน่ารักที่ซู๊ดด


ไอศกรีมที่สวนป่า

103 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 เวลา 22:13 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป, ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 6768

ผมจำชื่ออ้ายท่านนี้ไม่ได้แล้ว

สายวันนั้น ทุกคนมายืนล้อมอ้ายท่านนี้เพื่อซื้อไอศกรีมแบบทำเองดูดแก้ร้อนกัน ช่วงเวลาหนึ่งครุปูกับผมยืนตรงนั้น ครูปูเลี้ยงไอศกรีมผมและหลายๆคน (ขอบคุณมากๆครับ) ผมถามว่าทราบได้อย่างไรว่าในสวนป่านี้มีคนมาหลายคนแล้วเข้ามาขายไอศกรีม

อ้ายตอบว่า ก็ผ่านมาที่ถนนใหญ่เห็นรถบัสเข้ามาก็เลยขับตามมาครับ ไอ้ติมนี่ไปรับเขามาอีกที

อ้าย พรุ่งนี้จะมีคนมาอีก อ้ายจะมาไหมล่ะ อ้ายตอบว่าหากมีคนก็มาซิครับ

เออ..งั้นก็จะโทรบอกเอาไหมว่ามีคนเข้ามาสวนป่าตอนไหน มีโทรศัพท์ไหมล่ะ จะได้บอกได้

อ้าย งุ่นง่านเล็กๆ เขินๆ แล้วก็บอกว่า ผมไม่มีโทรศัพท์ครับ

เราก็ถามต่อว่า อ้าว…งั้นก็ส่งข่าวบอกไม่ได้ซิว่าพรุ่งนี้ตอนไหนจะมีคนเข้ามาในสวนป่านี้..จะได้มาขายไง ขายดีนะ อากาศร้อนๆเช่นนี้ ใครๆก็อยากกินไอศกรีม

ครูปูกับผมพยายามหาทางให้ อ้าย มาขายในสวนป่าให้ได้ แต่ติดตรงที่ว่าจะบอกอย่างไร…

คุยไปมาสักพัก อ้ายบอกว่า ได้ ได้ เดี๋ยวผมทำได้

ครูปู รีบถามทันทีว่า อ้าย..จะหาเงินไปซื้อมือถือหรือ ไม่เอานะ ไม่สมควร ไม่จำเป็น..

อ้ายทำหน้า ปูเลี่ยนๆ เราก็เลยหาทางออกให้ว่า เอางี้ซี ทุกครั้งผ่านถนนใหญ่มาทางนี้ก็แวะมาดูซะหน่อยว่ามีคนจำนวนมากมาที่สวนป่านี่หรือเปล่า..

….

ครูปู และท่านอื่นๆอุดหนุน อ้าย ไปมากพอสมควร ผมก็ว่าน่าจะมากพอที่จะกระตุ้นให้อ้ายท่านนี้ คงต้องแวะมาสวนป่าทุกครั้งที่ผ่านมา…

ไอศกรีม ของอ้าย บรรเทาความร้อนไปได้โขทีเดียวครับ คนที่เป็นแฟนประจำน่าจะเป็น คอน.. อิอิ


ไฮกุ จากสวนป่า..

41 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 7 พฤษภาคม 2010 เวลา 20:49 ในหมวดหมู่ งานพัฒนาสังคม, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 3082

สวนป่าเพื่อสหกัลยาณมิตร “บ้านมกรา” มีหลายรายการ ผมชอบ session ของ ออต เหมือนทุกคน เพราะความเป็น artist ของออต ที่ออกแบบ session ได้สวยงาม โดยเฉพาะ ไฮกุ ที่เอาไปสัมพันธ์กับผัสสะที่เกิดขึ้นกับคนๆนั้น

ออตเริ่มด้วยการแจก เมล็ดมะรุมคนละเมล็ด ให้ทุกคนพิจารณาแล้วใส่ปาก ค่อยๆ อม กัด เคี้ยว แล้วค่อยๆพิจารณารสสัมผัสที่เกิดขึ้น แล้วให้เขียนผัสสะนั้นออกมาเป็น “ไฮกุ” น่ารักซะ และมีความหมายมากครับ ชอบมากที่แต่ละคนแสดงออกมา ซึ่งมันบอกอะไรหลายอย่าง

เห็นลูกศิษย์ท่าน อ.โสรีย์ หน้าเบ้ เมื่อเคี้ยวเมล็ด ส่ายหน้า แล้วทำท่าจะคายทิ้ง อาจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัส และเธออาจไม่รู้มาก่อนว่านั่นคือ สมุนไพรที่มีคุณค่าทางยา

ออต อ่านไฮกุ แต่ละคน มีความหมายกว้างแล้วแต่ท่านนั้นๆจะแสดงออกมา แม้ว่าจะเป็นไฮกุแบบไทยๆแต่มีความหมายครับ

รอบต่อไป ออตแจก ใบผักฮว้านง๊อก สมุนไพรลือลั่นที่มาจากเวียตนาม และเป็นอาหารเราบางมือที่แสนอร่อย ออตให้ร่างรูปขอบใบผักนี้ พิจารณาแล้วเคี้ยวมัน รับรส แล้วเขียนไฮกุ


บ้าน อาหาร น้ำ ยา ป่าปัจจัย

ไม่มีเราเขายัง

ไม่มีเขาเราสิ้นเผ่าพันธุ์

สุดท้าย ออตทิ้งโจทย์ให้ทุกคนไปทำการบ้านมา คือ ให้ไปถ่ายรูปอะไรก็ได้ในสวนป่า แล้วเอารูปนั้นมาเขียนไฮกุ แล้วเอามาดูกันในเวลากลางคืน

ไฮกุนั้นเป็นวีธีการเขียนกวีของญี่ปุ่นที่ผมไม่รู้จักเท่าไหร่ ผ่านๆตาบ้างแต่ก็ชอบ แต่ไม่เคยเขียน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกครับ ออตกล่าวว่า ไฮกุมี สามบรรทัด บรรทัดที่ 1 มี 7 คำ บรรทัดที่ 2 มี 5 คำ บรรทัดที่ 3 มี 7 คำ

รูปภาพข้างบนนั้นเป็นรูปที่ถ่ายป่าสวนป่าจากที่พักชั้นบนของอาคาร 6 เหลี่ยม เช้าวันนั้นด้วยมือถือ แล้วเอามาแต่งเป็นขาวดำ แล้วเอามาทดลองแต่งไฮกุแบบ ไม่เค๊ย ไม่เคย

ก็แค่มาเล่าให้เพื่อนๆฟังน่ะครับ



Main: 0.02907395362854 sec
Sidebar: 0.048314094543457 sec