ไปชนบทกันเถอะครับ..
อ่าน: 20075ไม่ได้เสียภาษีที่ดินมาสามปี อิอิ วันนี้เลยถูกปรับ แต่ทั้งหมดก็ไม่กี่ร้อยบาท เพราะภาษีโรงเรือนแบบนี้ไม่แพง
เสร็จแล้วเลยฉลอง ตามแบบคนบางคน คือไปซื้อไอติมมานั่งกินในรถดับร้อน นั่งดูชีวิตคนที่ผ่านไปมา แต่แล้วก็เห็น คนสูงอายุเดินกะเพรก อยู่ข้างหน้า เดินช้า ช้า มีกะบะห้อยคอ เดาก็รู้ว่านั่นคือ คนขายสลากกินแบ่งรัฐบาล…
เมื่อเดินมาถึงรถ ลุงก็ยิ้ม ฟันดำเชียว เดาใจว่าคงถามเรา …ซื้อสลากไหมครับ…. เลยถามลุงไปว่า มาจากไหนล่ะครับ เพราะร้อยทั้งร้อยจะมาจากวังสะพุง จังหวัดเลย แต่ผิดครับ ลุงบอกว่าอยู่ อ.กระนวน ขอนแก่นนี่แหละ เป็นคนพระประแดง ได้เมียที่นี่ ก็มาอยู่ที่นี่
ไม่แข็งแรง ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ ยากจน มาเดินขายสลากพอได้กินได้ใช้..ฯลฯ..
ลุงเสียเวลากับผมพอสมควร เดาก็คงรู้นะครับว่าสภาพชีวิตเป็นเช่นไรสำหรับคนวัยสูงอายุ สุขภาพไม่ดี แต่ต้องมาเดินข้างถนนที่ร้อนระอุขายสลาก แทนที่จะอยู่บ้าน ลูกหลานเลี้ยงดู หรือสังคมรัฐสวัสดิการดูแล….
แล้วลุงก็ขอตัวเดินข้ามถนน
ผมคิดเรื่อยเปื่อยไปถึงเสื้อแดง ว่า บุคคลอย่างลุงนี่แหละคือเป้าหมายที่จะมาปลุกระดมเพื่อเอามาเป็นมวลชน แล้วชี้หน้าด่าอำมาตย์ ระบุความแตกต่างทางชนชั้น …… แล้วสัญญากันว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสังคม ลุงจะไม่ต้องมาลำบากอย่างนี้ รัฐจะจัดการสวัสดิการให้ทุกอย่าง ดังนั้นลุงต้องมาช่วยกันนะ…..
ประเด็นทางสังคมนั้นมากมายนัก ผมเชื่อว่าพลเมืองประเทศนี้ที่อยู่ในสภาพเช่นลุงคนนี้มีมากมายและยากลำบากไม่น้อยไปกว่าคนที่ทีร้านถูกไฟไหม้ที่ราชประสงค์ แต่รัฐเอื้อมมือไปไม่ถึง ซึ่งหลายคนเรียกคนกลุ่มนี้ว่าประชาชนชายขอบ
ประเด็นของผมก็คือ กลุ่มคนเหล่านี้คือเป้าหมายของการปลุกระดม ยิ่งรัฐเอื้อมมือไม่ถึง ยิ่งง่ายที่สุดที่คนกลุ่มหนึ่งจะเอื้อมมือไปเอาอกเอาใจแล้วชวนมาเป็นพวก เหมือนกับ ผกค.ทำมาแล้ว และได้ผลจริงๆ
ประเด็นของผมก็คือ เมื่อแก้ปัญหาที่ราชประสงค์ สยาม บ่อนไก่ ฯลฯ แล้ว
รีบลงไปชนบทนะครับ มีงานเยอะแยะที่ต้องทำ
ย้ำว่าต้องทำนะครับ