ไปดูรอยตีน..
อ่าน: 3358เช้าวันจันทร์มีนัดหลายนัด วันอังคารก็นัดต่อ คนหนึ่งในนั้นคือ ท่านนายก อบต.สายนาวัง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ท่านบำรุง คะโยธา สหายเก่าและนักเคลื่อนไหวชาวภูไทตัวฉกาจ สมัย คจก. นั่นท่านคงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้าง ผมไม่ได้ไปนัดใส่เสื้อสีใดๆ และไม่ได้ชวนกันลงมา กทม.วันหยุดข้างหน้านี่หรอก เขาเป็นเพื่อนรักผม พอดีมีงานที่เกี่ยวข้องกันในเรื่องการพัฒนาชนบท เลยโทรไปนัดหมายจะไปปรึกษาหารือกัน
ปัจจุบันท่านเป็นนายก อบต.สายนาวังที่ยกระดับทั้งตำบลเป็นเขตเกษตรอินทรีย์หมด บริหาร อบต.แบบธรรมมาภิบาลดูซิมันจะอยู่ได้ไหม ปรากฏว่าอยู่ได้ แต่ลูกน้องหลายคนลาออกไปที่อื่น บอก อดอยากปากแห้ง ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงเลย..อิอิ มีเวลาเหลือก่อนไปพบจึงถือโอกาสขับรถปีนเขาไปดูรอยตีน..สัตว์
ไดโนเสาร์ที่ภูแฝก ซึ่งอยู่บนเส้นทาง สมเด็จ-นาคู พอผ่านหมู่บ้านขึ้นเขา ผ่านสำนักงานอุทยานเท่านั้นแหละ ป่าทั้งป่าก็มีสภาพที่เห็น ผมตกใจว่าถนนนั้นดีกว่าถนนในหมู่บ้านจำนวนมาก ไม่เป็นอุปสรรคในการนำรถแก้ปัญหาไฟป่าขึ้นมาจัดการเลย ทำไมสภาพจึงเป็นเช่นที่เห็น
ผมทำงานที่โครงการกลุ่มป่าห้วยขาแข้ง กับท่านรองเลขาฯ ส.ป.ก. ดร.วีระชัยฯ อยู่ที่นั่น 5 ปี งานหลักหนึ่งก็คือป้องกันไฟป่า เราลดจำนวนการเกิดไฟป่าได้โดยประสานงานกันระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้กับชาวบ้านที่ตั้งกองดับไฟป่าขึ้นมา ซื้อเครื่องมือดับไฟป่าให้ ฝึกอบรมและมีเบี้ยเลี้ยงให้เมื่อออกไปดับไฟป่า
ใครก็รู้ว่า ไฟป่านั้นทำลายมากกว่ามีประโยชน์ หลายท่านไม่ทราบนะครับว่า มุมหนึ่งของไฟป่านั้นมีประโยชน์ แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม แต่โทษมากมายมหาศาล ที่เห็นนี่คือเปลือกต้นไม้ที่กำลังอยู่ระหว่างหนุ่มสาว กำลังเติบโต โดนไฟป่าลวก ผิวไหม้เกรียม เขาก็เกิดแผล เชื้อโรคอาจจะเข้าไป ทำให้เกิดปัญหาคุณภาพเนื้อไม้ และการโดนไฟป่านั้นเขาจะชะงักการเจริญเติบโตโดยธรรมชาติ
นักป่าไม้ทราบดี มีการศึกษาเรื่องนี้โดยเอาวงปีการเจริญเติบโตของต้นไม้มาศึกษาพบหลักฐานเช่นนั้นจริงๆ และเรื่องนี้ยังใช้ทำนายย้อนหลังไปในอดีตได้ว่าปีไหนบ้างที่เกิดไฟป่า ใหญ่เล็กแค่ไหน เมื่อไหร่ ตรงไหน หากไฟป่าไหม้ทุกปี ป่าตรงนั้นจะค่อยๆแปรสภาพจากป่าดงดิบกลายเป็นป่าเบญจพรรณ กลายเป็นป่าหมดสภาพไปในที่สุดเพราะไฟป่านี่แหละ
อ้าวจะพาไปดูรอยตีน…. อิอิ รอยเท้าไดโนเสาร์ที่ภูแฝกนี่ มีให้เห็นของจริง เป็นชนิดไหน ก็ชนิดที่รูปข้างล่างนี่แหละ ไม่มีข้อมูลมาทำนิทรรศการให้คนผ่านไปมาได้อ่าน อยากรู้ก็ถามเจ้าหน้าที่เอา แล้วคุณพ่อจะมานั่งตอบคำถามคอยนักท่องเที่ยวตลอดเวลารึเปล่า ทำไมไม่ทำข้อมูลอธิบายไว้ในสถานที่เหมาะสม..หึหึ ระบบข้อมูลบ้านเรานี่แย่จริงๆ
วันที่ผมไปนั่นมีเด็กนักเรียนมากันเป็นร้อยคนระดับประถม สนุกกันใหญ่ เสียงเด็กดังทั่วป่า น่ารักดีนะ แต่ละคนก็เต็มที่ ครูพี่เลี้ยงพูดไปก็ดุไปว่า ฟังหน่อย ดูทางนี้หน่อย หะหะ เหมือนจับปูใส่กระโด้ง ดีมากๆที่เอาเด็กมาเรียนรู้ธรรมชาติ แต่อากาศร้อนมาก เหงื่อเต็มหน้าหมด แต่เขาก็สนุกนะ..
ขากลับผมถ่ายรูปถนนอีกส่วนหนึ่งที่ไม่โดนไฟไหม้ มันแตกต่างโดยสิ้นเชิง เออ พลังเหลือเฟือที่มาอยู่ที่กรุงเทพฯ หากเอามาทำประโยชน์ที่นี่ก็คงจะดีนะครับ..
อิอิ..