เที่ยวลาวใต้ 2
อ่าน: 1231ผมไม่ใช่นักสะสมพระเก่า และไม่มีความรู้เรื่องวัตถุโบราณ แต่เมื่อมาเห็นพระอรรธนารีศวรก็อดชื่นชมในความงามและความหมาย เชื่อว่าหลายๆท่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อนยกเว้นท่านที่สนใจหรือเรียนมาทางนี้โดยตรง ผมเองนั้นรับรู้โดยสำนึกเสมอว่า ความเชื่อและศรัทธานั้นยิ่งใหญ่เสมอ สามารถทำในสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆได้
การสร้างพระรูปที่มีสองเพศในองค์เดียวกันนั้นคงมีความหมายลึกซึ้งมากกว่าจะสร้างขึ้นมาด้วยอารมณ์ขัน เมื่อศึกษาที่มาที่ไปก็ยอมรับ ความเชื่อ ความศรัทธาของบรรพบุรุษของพวกเรา
ทำไมถึงต้องสองเพศ คำอธิบายที่พิพิธภัณฑ์กล่าวไว้ว่า “รูปอรรธนารีศวร เป็นประติมากรรมเนื่องในศาสนาพราหม์ ลัทธิไศวนิกาย ที่สร้างขึ้นตามเรื่องราวระหว่างพระอุมาและฤาษีภิริงกิติ ผู้ซึ่งเคารพพระศิวะเพียงองค์เดียว ทำให้พระอุมาทรงพิโรธและสาปให้ร่างกายไร้เลือดเนื้อ ต่มาภายหลังพระนางทรงละอายต่อสิ่งที่ได้กระทำต่อฤาษีตนนี้ จึงคืนคำสาปและอธิษฐานขอให้พระวรกายของพระนางเข้าไปรวมเป็นส่วนหนึ่งขององค์พระศิวะ….. นับเป็นอรรธนารีศวรที่เก่ารูปหนึ่งเท่าที่พบในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้…”
ผมขออนุญาต อ.บัญชา ธนบุญสมบัติ หรือ น้องชิวของผม สำเนาสาระบางส่วนมาครับ
คำว่า อรรธนารีศวร มาจากคำ 3 คำ ได้แก่ อรรธ (ครึ่ง) + นารี (ผู้หญิง) + อิศวร (พระผู้เป็นเจ้า) หมายถึง เทพเจ้าผู้เป็นสตรีครึ่งหนึ่งนั่นเอง บางครั้งก็เรียกสั้นๆ ว่า อรรธนารี (Ardhanari) เฉยๆ ผู้ชายทางซีกขวาคือ พระศิวะ ส่วนผู้หญิงทางซีกซ้ายคือ พระปารวตี ชายาของพระองค์ โดยในที่นี้พระปารวตีเป็น ศักติ (Shakti) แปลว่า อำนาจหรือผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจของพระสวามี (ซึ่งในที่นี้คือ พระศิวะ)
ลัทธิศักติ (Shaktism) นั้นถือว่าชายาแห่งเทพองค์หนึ่งๆ นี่แหละคือผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของเทพองค์นั้น เช่น พระปารวตีกุมอำนาจของพระศิวะ พระสรัสวดีกุมอำนาจของพระพรหม และพระลักษมีกุมอำนาจของพระวิษณุ ……
มีเกร็ดที่น่ารู้ด้วยว่า แม้พระอรรธนารีศวรจะดูเผินๆ เหมือนชายครึ่ง-หญิงครึ่งอย่างเท่าเทียมกัน แต่การที่ร่างกายด้านขวาเป็นชายและด้านซ้ายเป็นหญิงนั้น มีผู้ตีความว่านี่เป็นการซ่อนความหมายลึกๆ ว่า “ชายใหญ่กว่าหญิง” เพราะในวัฒนธรรมอินเดียถือว่าด้านขวาเป็นด้านที่เหนือกว่าด้านซ้าย….
นอกจากนี้ พระอรรธนารีศวรยังอาจมีจำนวนพระกรได้หลายรูปแบบ ได้แก่ 2, 3, 4, 6 และ 8 ในกรณีที่จำนวนพระกรเป็นเลขคู่ ร่างกายทั้ง 2 ด้านก็จะมีพระกรเท่าๆ กัน แต่หากมี 3 พระกร ด้านขวา (ชาย) จะมี 2 พระกร ส่วนด้านซ้าย (หญิง) ก็จะมีแค่พระกรเดียว
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ดูประหนึ่งจะตอกย้ำว่า “ชายใหญ่กว่าหญิง” แม้จะไม่ชัดเจนก็ตามที
นี่เองที่ทำให้บรรดาพวกศักตะ (Shakta) หรือผู้ที่นับถือลัทธิศักติทนไม่ได้ พวกเขาจึงสร้างประติมากรรมหรือวาดภาพพระอรรธนารีศวรกลับซ้ายขวา คือให้ทางขวาเป็นหญิง ส่วนทางซ้ายเป็นชาย ตามความเชื่อของพวกเขาที่ว่า “หญิงต่างหากเล่าที่ใหญ่กว่าชาย” นั่นเอง
ท่านที่สนใจดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ต่างๆดังนี้
ขอแนะนำบทความ Ardhanarishvara in Art and Philosophy ที่ http://www.exoticindiaart.com/acrobat/ardhanarishvara.pdf”>
————————————————
http://www.bangkokbiznews.com/jud/sat/20080401/news.php?news=column_26090688.html
http://guideubon.com/news/view.php?t=26&d_id=1&s_id=4&page=1
ขอขอบคุณ ดร.บัญชาครับ
ยังไม่ได้ข้ามไปลาวเลย มัวแต่ฝอย…อิอิ