วันพ่อปีีนี้ที่สวนป่า
(ท้องฟ้าที่สวนป่ายามเช้าตรู่)
อยู่เมืองกรุง…
บ่มีโอกาสได้เงยดูท้องฟ้ายามเช้าตรู่อย่างนี้ร๊อก…
(ท้องฟ้าที่สวนป่ายามรุ่งสาง)
คิดไปคิดมาอยากจะเหิรฟ้าเสียจริง ๆ…
อย่ากระนั้นเลย นั่งดูเฉย ๆ ท่าจะดีกว่า…
(ท้องฟ้าที่สวนป่ายามเช้าตรู่)
อยู่เมืองกรุง…
บ่มีโอกาสได้เงยดูท้องฟ้ายามเช้าตรู่อย่างนี้ร๊อก…
(ท้องฟ้าที่สวนป่ายามรุ่งสาง)
คิดไปคิดมาอยากจะเหิรฟ้าเสียจริง ๆ…
อย่ากระนั้นเลย นั่งดูเฉย ๆ ท่าจะดีกว่า…
อยู่ร่วมกัน..
หันหน้าไปทางเดียวกัน…
เรียนรู้กันไป…
ให้เกียรติซึ่งกันและกัน…
ได้มีโอกาสยิ้มให้กัน…
ได้หัวเราะไปด้วยกัน…
ได้ความสุขแบบเกินดุลกลับไปกันบ้าง…
แค่นี้ก็ถือเป็นวาสนาของชีวิตนักแล้ว… อ่านต่อ »
ทำไมเราต้องใช้บริการสื่อหรือรายการทีวีต่างชาติทุกที เวลาจะยกตัวอย่างดี ๆ ให้เด็กดู?
เรื่องนี้ตั้งใจและทำเงียบ ๆ มา 3-4 เดือนแล้วค่ะ แต่ยังไม่สำเร็จ จึงตั้งใจจะทำให้ได้ก่อนสิ้นปี ป่านนั้นคงติดเป็นนิสัยไปแล้วหล่ะค่ะ เพราะตั้งแต่รัฐบาลรณรงค์โครงการปิดไฟพร้อมกันทั่วประเทศ ก็ได้ idea แล้วตั้งเป้าเล็ก ๆ ของตัวเองมาเรื่อยทุกเดือน ๆ
เกิดสะดุดแนวคิด Neo-Humanist ใน blog ของคุณคนไม่มีรากขึ้นมา หันรีหันขวางนาทีนี้จะไปถามความเห็นใครดีล่ะ
แม่คร้าบ ยายคร้าบ ฟังเพื่อนลูำกคนนี้เขาพูดเรื่องการใช้ชีวิตหน่อยนะ (อ่านให้ฟังช้า ๆ)
นี่ถ้ายายรู้ว่าถูกแอบถ่ายตอนโทรม ๆ มีหวังโดนตื้บแหง ๆ
พูดถึงคุณยายวัยเกือบเก้าสิบ ผู้เป็นต้นแบบให้ชีวิตของครูปูในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งความเมตตา เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ การวางตัว การดูแลตนเองและผู้อื่น
ยายเป็นผู้มีรสนิยมวิไลทั้งในเรื่องอาหารการกินและการแต่งตัว เครื่องแต่งกายต้องเป็นผ้าถุง สีสันคลาสสิก ดอกดวงต้องกลมกล่อม นี่ถือเป็นศาสตร์ลึกลับทาง fashion ของคุณยายที่หาสายตาคนสมัยนี้เทียบได้ยาก เสื้อลูกไม้กับผ้าถุงต้องสีเข้ากัน ซึ่งถือเป็นของฟุ่มเฟือยประการเดียวที่ยายยอมทุ่ม
อาบน้ำทีต้องใช้เฉพาะแป้งหอม แล้วฉีดน้ำหอมสำทับเข้าไปอีัก สาว ๆ สมัยนี้หาคนหอมฟุ้งเท่ายายครูปู ยากส์…
รวมทั้งครูปูเองด้วยแหละ ที่ถูกยายต่อว่าอยู่บ่อย ๆ ว่า
“เป็นสาวเป็นนาง เนื้อตัวไม่รู้จักแต่ง”
แป่ว!
อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือที่คนในท้องที่จะเรียกกันติดปากว่า “บ้านดอน” เป็นเหมือนบ้านเกิดของครูปูค่ะ (เพราะมาอยู่ตั้งแต่ขวบเดียว)
คุณยายเล่าให้ฟังว่า ต่อให้ภาคใต้น้ำท่วมหมด ยังไงก็จะเหลืออำเภอนี้แหล่ะ ที่ไม่มีทางถูกน้ำท่วม (ฟังดูเท่ๆ ยังไงไม่รู้นะคะ) ถึงครูปูจะเนรคุณนิด ๆ ด้วยการพูดใต้ไม่เป็น เนื่องจากไม่มีใครในบ้านเป็นคนใต้เลย แต่ก็ฟังรู้เรื่องโม้ด… ใครอย่าได้นินทาทีเดียวเชียว แฮ่ๆ…
ลงจากรถทัวร์เกือบตีห้าก็เจอหน้าเจ้าเพื่อนเลิฟตั้งแต่วัยเด็กยืนงัวเงียอย่างน่าเอ็นดู เพราะถูกครูปูโทรจิกให้มารับที่ขนส่งตั้งแต่ตีสี่ เอามือลูบหัวไปสองสามทีเพื่อแสดงความขอบคุณ แล้วต่อด้วยการเมาท์กระจายกันมาตลอดทาง
กระจายหนังสือเจ้าเป็นไผ ๑ ออกไปยังไม่ถึงเดือน นั่งยิ้มเผล่ ปลื้มอกปลื้มใจเหงือกยังไม่ทันแ้ห้งสนิทดีเลย
ก็ได้ยินเรื่องแผนการจะจัดทำหนังสือเจ้าเป็นไผ ๒ อีกแล้ว (เหรอ?)
ครั้นตั้งหลักที่จะต้องจัดทำ จปผ ๑ กันใหม่ ก็ได้ยินแว่ว ๆ ว่ามีชื่อช่วยงานอยู่ในกอง บก.กะเขาด้วย
เหรอ???
กรรมล่ะ!
gmail ก็ไม่เคยใช้ option อะไร ทำยังไง ดูตรงไหน แทนที่จะเข้าไปช่วยกลับไปกวนใจป๋ากับพี่เบิร์ดให้ต้องเสียเวลามาสอนวิธีใช้ จูงกันไปมา กะง่อกกะแง่กอีกต่างหาก
(ถ้าเป็นเอหยีจะบอกว่า โส นะ น่า โทษฐานไม่เลือกคนให้เหมาะกับงาน หุหุ)
เดือนเมษายนที่ผ่านมาครูปูทำงาน VBAC มาครบ 11 ปี จึงฉลองด้วยการกลับบ้านที่สุราษฎร์ธานี เพื่อเลี้ยงหลานและสนุกสนานกับครอบครัว 1 เดือนเต็ม ๆ อิ่มเต็มและมีความสุขมาก ขณะเดียวกันก็แอบคิดถึงพี่ ป้า น้า อา บนลานปัญญาพร้อมทั้งรอคอยการคลอดของ จปผ ๑ อย่างใจจดใจจ่อ