พระไพศาล ฐิตสาโร

596 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 3 เมษายน 2010 เวลา 23:36 ในหมวดหมู่ ทุนสังคม, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 11717

เนื่องในวาระดียิ่งที่ เม้ง จะบวช จึงเอารูปเก่าของผมตอนบวชมาให้ดูกัน น่าจะประมาณปี 2520 ตอนนั้นทำงานพัฒนาชนบทที่ อ.สะเมิง เชียงใหม่ พ่อบอกถึงวาระที่พี่น้องผู้ชายสามคนควรจะบวชได้แล้ว


ก็เป็นไปตามประเพณีท้องถิ่น พี่น้องสามคนบวชพร้อมกัน รวมทั้งพี่ชายผมคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือเลย


พระอาจารย์ซ้ายมือสุดนั่น ที่จีวรสีกลัก คือพระอาจารย์ธรรมธโร เจ้าสำนักวิปัสสนาไทรงาม จ.สุพรรบุรี ที่พี่น้องสามคนจะไปจำพรรษาที่นั่น พระอาจารย์ธรรมธโรได้มีเมตตามาเป็นพระพี่เลี้ยงและรับตัวไปสำนัก


หน้าตาบึ้งตึงเชียว อิอิ ดูเหมือนจะมาที่บ้านก่อนไปอยู่วัด ส่วนรูปขวามือนั้น เป็นช่วงออกพรรษาแล้ว เตรียมจะลาสิกขา ญาติโยมในพื้นที่ทำงานนิมนต์ให้ไปโปรดสัตว์ที่ อ.สะเมิง เชียงใหม่ จึงวางแผนจะไปลาสิกขาที่วัดเจดีย์หลวง เพราะสนิทสนมกับท่านเจ้าอาวาสที่ท่านเป็นพระนักเทศน์และนักพัฒนาชุมชน

ก่อนลาสิกขา ท่านอาจารย์ไพโรจน์ ผลประสิทธิ์ ผอ.สำนักงานเกษตรภาคเหนือสมัยนั้นนิมนต์ไปเพลที่บ้านท่าน เลยเพื่อนๆร่วมงานมากันหมด พระก็ให้ศีลให้พร



แล้วก็ไปลาสิกขาที่วัดป่าดาราภิรมย์ อ.แม่ริม ที่ท่านเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงท่านเป็นเจ้าอาวาสที่นั่นด้วย ท่านทำพิธีให้ ก่อนท่านมรณภาพท่านเลื่อนสมณะศักดิ์เป็นชั้นเทพ…ผมจำไม่ได้ว่าฉายาท่านเป็นเช่นใด หลังจากลาสิกขาแล้วผมก็กลับไปทำงานในสะเมิงก่อนอีก 1 ปี แล้วย้ายถิ่นฐานไปอีสานจนปัจจุบันนี้

พระอาจารย์ธรรมธโร เจ้าอาวาสสำนักวิปัสสนาไทรงาม สุพรรณบุรี ท่านก็มรณภาพไปแล้ว นึกย้อนไปช่วงนั้น เป็นช่วงที่ชีวิตได้สัมผัสอีกโลกหนึ่งที่มีคุณค่าเหลือเกิน สมณะเพศนั้น เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของทุนทางสังคม เป็นผู้สร้างแรงเกาะเกี่ยวทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นพระในศาสนาใดก็ตาม ล้วนเป็นผู้สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับสังคม

ผมยังภาวนาเสมอว่า หากชีวิตไม่สิ้นไปก่อน จะขอเข้ามาสู่ร่มศาสนาโดยการบวชทั้งกายทั้งใจอีก.. ผมได้รับฉายาว่า พระไพศาล ฐิตสาโร ครับ


เด็กบ้านนอกในเมือง..

6 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 3 เมษายน 2010 เวลา 11:07 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1009

พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ปู่ส่งไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ คนจากบ้านนอกไม่รู้จักใครในกรุงเทพฯ ก็ต้องอาศัยวัด โดยพึ่งพาบารมีพระอาจารย์ที่บวชแล้วมาประจำที่วัดมหาธาตุ คนบ้านนอกสมัยก่อนก็ใช้วิธีนี้ทั้งนั้น การเป็นเด็กวัดแล้วเรียนหนังสือไปด้วยนั้น พระใช้วิธีสั่งสอนโดยไม้เรียว ทำอะไรผิดพลาดก็ตีลูกเดียว แต่เจตนาดี เด็กที่ผ่านระบบนี้มักได้ดีกันทั้งนั้น


ตอนผมถูกส่งไปเรียนมัธยมปลายในเมืองกรุง ก็ไปอาศัยบ้านคุณตาที่นับถือกัน แต่ไม่ใช่ญาติจริงๆเราก็เป็นเหมือนคนช่วยทำสวน ทำบ้านให้ท่าน อาศัยซุกหัวนอน กินข้าวแล้วเรียนหนังสือ กว่าจะปรับตัวได้ ล่อซะน้ำตาตกเลย


หลานตัวเองจบมหาวิทยาลัย ทำงานธนาคารที่กรุงเทพฯ มีครอบครัวซึ่งเป็นคนบ้านนอกเหมือนกัน ครอบครัวใหม่ในเมืองใหญ่ มันทุลักทุเล ทั้งคู่มีลูกน้อยหนึ่งคน ชีวิตก็ต้องวนเวียนกับการรับส่งลูกเล็กกับสถานที่รับเลี้ยงเด็กเช้าไปส่ง เย็นไปรับ

เมื่อมีจังหวะก็ส่งลูกเล็กไปต่างจังหวัด ให้ย่าให้ยายช่วยเลี้ยงแทน เฮ่อ ชีวิต มันวนเวียนอยู่อย่างนี้จะไปคิดอ่านอะไรก็ดิ้นรน พิจารณาโอกาส ช่องทางกัน ชีวิตแบบนี้ต้องใจเย็นๆ เพราะไม่มีอะไรง่าย มันติดขัดรัดรึงไปหมด และทั้งหมดใช้แต่เงิน ตัวกลางของการดำรงชีวิตของสังคมเมือง


การดิ้นรนของชีวิตสังคมเมืองนั้นทำให้คนเราแสวงหาช่องทางทุกอย่างที่ดีกว่า ภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ต้องมีสติที่มั่นคง ต้องมีความอดทน อดกลั้น เติมพลังให้แก่กัน และสู้สู้…



Main: 0.02065896987915 sec
Sidebar: 0.065428972244263 sec