ไปเที่ยวพม่ามา
ไปเที่ยวพม่ามาครับ (เมื่อวันที่ 5-8 อาว์เปลี่ยนอยากไปแต่ติดงาน) ผมมีประสบการณ์ไปเที่ยวนครวัด สิบสองปันนา หลวงพระบาง สิงค์โปร์ มาเลเซียมาแล้ว ผมประทับใจนครวัด และหลวงพระบางมากมาย ไม่ใช่เพราะความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้าง และความสวยงามเท่านั้น แต่การอ่านหนังสือไปก่อน ประกอบกับไกด์ดีดีแบบสุดยอดนั้น เงินที่เสียไปไม่เสียดายเลยครับ อิ่มเอมกับสาระที่ได้ หลังจากนั้นจะไปเที่ยวไหนก็จะหาหนังสือมาอ่านๆ และค่อนข้างคัดเลือกบริษัททัวร์มาก และเน้นให้ทัวร์จัดไกด์ดีดีมาให้เรา เพราะเรามิใช่เที่ยวเพียงได้เห็น เพียงได้ไปเท่านั้น แต่เราต้องการรู้เรื่องเชิงประวัติศาสตร์อย่างละเอียดอีกด้วย
ก่อนไปผมก็แจ้ง บริษัททัวร์ ให้จัดสิ่งที่เราต้องการให้ และก็สมหวังครับ
แต่ไปพม่าคราวนี้ ผมไม่มีเวลาอ่านหนังสือไปก่อน งานล้นมือเลยหวังพึ่งไกด์ของบริษัทที่จัดให้ และก็ไม่ผิดหว้งต้องชมเชยบริษัททัวร์ที่ตอบสนองเราได้พึงพอใจ
ล่าม/มัคคุเทสก์: คุณโจ เป็นอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยย่างกุ้งภาควิชาเคมี ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะถูกทหารสั่งปิดตาย แล้วคุณโจก็เข้ามาเรียนในประเทศไทย ภาษาไทยและกลับไปเป็นมัคคุเทสก์ภาษาไทย โดยเป็น Freelance บริษัทไหนเรียกใช้ก็ไป และทราบว่าเคยรับใช้ผู้หลักผู้ใหญ่เมืองไทยที่ไปพม่ามาแล้วหลายคน สมัยที่คุณโจเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยนั้นเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยคนสำคัญคนหนึ่ง และเกือบเอาชีวิตไปทิ้งกลางถนนเพราะเป็นผู้นำขึ้นไฮปาร์ค นำขบวนนักศึกษา และเผชิญหน้าทหารที่จัดการเด็ดขาดกับขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย โดยเฉพาะนักศึกษา เขาเป็นคนชื่นชม นางอองซาน ซู จี มาก พ่อเขาเป็นมอญ แม่เป็นชนเผ่าพม่า ยากจนจึงไปอยู่กับญาติที่พอจะส่งเสียเขาเรียนได้ พี่ชายเป็นนักฟิสิกส์ เขาเลยมาเป็นนักเคมี ประกอบแบตเตอรรี่ใช้เองมาแล้ว ระเบิดนั้นง่ายมากเขาว่า โจยังบอกว่า อนาคตหากสังคมพม่าไม่ดีขึ้นเขาจะเล่นการเมืองต่อไป โจ ล่ามเมียนมาท่านนี้น่าสนใจมากครับ ติดตามต่อไปว่าอนาคตเขาจะเป็นนักธุรกิจใหญ่หรือเป็นนักการเมือง
การที่โจ เป็นอดีต Activist มาก่อนเขาจึงเป็นมัคคุเทสก์ที่ไม่ใช่รู้เรื่องเชิงประวัติศาสตร์ของประเทศและสถานที่ที่เราไปชมเท่านั้น เขายังเอามาผูกพันกับพัฒนาการทางการเมืองของประเทศได้ ทำให้เรารู้เรื่องลึกซึ้งมากกว่าปกติ โจออกจะสนใจการเมืองมาก ตลอดเวลาที่เขายืนบรรยายสถานที่ที่เราจะไปชมนั้น นอกจากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะคล่องปรื๊อแล้ว เขายังสอดแทรกมุมทางการเมืองเขาไปด้วย จนเราเคลิ้มไปเลย
เขาเป็นคนรักชาติ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมชาติที่เป็นคนยากจน ทุกครั้งที่เขามีโอกาส เขาจะช่วยคนพม่าที่มาขายสินค้าข้างรถทัวร์ให้ โดยการหยิบเอาสินค้านั้นมาอธิบายว่า มันคืออะไร ทำมาจากกอะไร มีความหมายว่าอย่างไร และเขาให้ข้อมูลตรงไปตรงมาโดยหลายครั้งเขาเทียบเคียงว่า ของกินชิ้นนี้เทียบกับสินค้าชนิดเดียวกันในประเทศไทยไม่ได้เลย แต่หากทุกท่านมีจิตเมตตาช่วยซื้อเพื่อให้ชาวบ้านเหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้ ก็เป็นพระคุณ ทั้งๆที่เราเดินผ่านคนขายมาแล้ว เมื่อโจพูดเช่นนั้นเราก็อดที่จะควักเงินจั๊ดมาจ่ายซื้อสินค้าไม่ได้ด้วยความเห็นใจ สงสาร และช่วยเหลือกัน
ประวัติคุณโจนั้นคล้ายๆภูมิหลังผมจึงซักถามหลายเรื่องถึงขบวนการนักศึกษาของเมียนมา เขาบอกว่าไม่มีพรรคการเมืองอยู่ข้างหลังเพราะเมียนมาไม่มีพรรคการเมือง มีแต่ทหารปกครองตลอดมายาวนาน และคู่คิดของนักศึกษาคืออาจารย์ในมหาวิทยาลัยนั่นเอง หลังจากที่ทหารสั่งปิดตายมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง นักศึกษา อาจารย์ไปไหนกันหมด เขาบอกว่า นักศึกษาหลายคนที่ไม่เด่นดังก็ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นๆในประเทศ คนที่เด่นดังก็อพยพไปต่างประเทศเลย ที่สำคัญคือประเทศไทย อาจารย์ดังๆหลายท่านมาอยู่ที่ จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนต่างๆ หรือไปประเทศทางยุโรป ทั้งหมดนิยม ออง ซาน ซู จี และหวังว่าสักวันหนึ่งนางจะขึ้นมาปกครองประเทศ และนางเคยประกาศไว้ว่าเมื่อใดที่นางขึ้นมาก็จะเปิดมหาวิทยาลัยย่างกุ้งใหม่….
จากความรู้ที่โจมีอยู่ ท่าทีที่นอบน้อม และมีความเชื่อมั่น ความคิดเห็นทางการเมือง ความสามารถทางภาษา และอื่นๆ โดยเฉพาะสำนึกแห่งบ้านเมือง ผมคิดว่า ล่ามคนนี้อนาคตของเขาไม่ใช่ล่ามแล้วหละครับ…