นังแดง 2..
อ่าน: 4144ต้มขาไก่ใส่ฟัก เราสองคนพ่อลูกซดแต่น้ำกะกินเนื้อฟัก เนื้อขาไก่สองสามชิ้นถูกเขี่ยกองไว้ เพราะเราไม่กิน ผมเองกินมังสะวิรัติแต่เป็นแบบเขี่ย เพราะลดความเข้มงวดลงมาจากเดิมที่นั่งร่วมโต๊ะกับใครไม่ได้ มันแปดเปื้อน ว่างั้น….
ผมติดใจน้ำพริก ที่ซื้อมาจากตลาดและผักต้ม น้ำพริกรสชาติพอดี ไม่เผ็ดมาก เปรี้ยว หวาน มันเค็มลงตัวพอสมควร (แต่สู้แม่บ้านผมไม่ได้ อิอิ) ผมมาอยู่กรุงเทพครบเดือนก็ตระเวนไปตามตลาดโน่นนี่เพื่อทำความรู้จักแหล่งอาหารและอื่นๆ น้ำพริกเจ้านี้นับว่าถูกปากมากกว่าทุกแห่ง ส่วนผักลวกนั้นผมเพิ่งมาพบว่า เขาลวกผักไว้หลายชนิดกองไว้ใครอยากกินอะไรก็เอาที่หนีบ หนีบใส่จานหรือตะกร้าเล็กๆ หรือใส่ถุง จะมากจะน้อยก็กะคะเนเอาเอง แล้วส่งให้แม่ค้า เขาจะประมาณราคาแล้วก็บอกเรา ส่วนมากไม่เกิน 10-15 บาท ถือว่าถูก
ผมกินน้ำพริกทุกมื้อเย็นหากอยู่ที่บ้านของลูกสาว ก็ง่ายดีเพราะแถวนี้ไม่มีร้านมังสะวิรัติ แม้จะสั่งทำได้ แต่ก็สู้น้ำพริกไม่ได้ ก็โตมากับน้ำพริกจนกลิ่นตัวเป็นน้ำพริกไปแล้ว อิอิ อิอิ
ลูกสาวมักไม่มีเวลา ทำงานเช้า เลิกดึก เสาร์ อาทิตย์ก็ไปเรียน ป.โท ผมก็ต้องลงมาดูแลบ้านที่กำลังต่อเติมให้ ทั้งทำงานไปด้วย กินข้าวคนเดียวมาเกือบทุกมื้อ เมื่อวานลูกสาวสอบเสร็จก็มาขลุกอยู่ที่บ้าน อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ เล่นคอมพ์อะไรของเขาไป ผมก็ทำงานบ้าง ดูโน่นดูนี่บ้าง คุยกับเพื่อนบ้านใหม่บ้าง…
มื้อเย็นเมื่อวานเราเลยไปซื้ออาหารมากินกันสองคนพ่อลูก ผมมีวัตถุประสงค์สองข้อ ข้อหนึ่งอยากพาลูกไปรู้จักตลาด ที่ต่อไปเธอก็แวะไปซื้ออาหารมากินได้ ไม่ต้องไปกินที่ร้านใดๆให้เปลืองเงิน สองเราจะได้คุยกันบ้าง เพราะมีเรื่องจะคุยกับเธอหลายเรื่อง
อาหารมื้อนั้นผมกินจนพุงกางเพราะเธอไม่ค่อนกิน สาวๆมักกลัวอ้วน ส่วนผมไม่บันยะบันยัง ซัดเต็มสปีด มีพุงว่างแค่ไหนใส่จนแน่นไปหมด อิอิ แต่น้ำพริกก็เหลือผมเก็บใส่กล่องใส่ตู้เย็นไว้ ส่วนผักต้มหมดเกลี้ยง น้ำซูปเหลือติดก้นถ้วย ขาไก่นั้นไม่มีใครกิน ผมนั้นไม่กินอยู่แล้ว แต่ลูกสาวก็ไม่กินไม่ใช่เพราะเธอเป็นมังสะวิรัตินะ แต่เบื่อ… เธอจึงเอาไปทิ้งใส่ถุงขยะ จะเอาให้น้องหมาก็มืดค่ำแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นภาระ เอ้า ทิ้งก็ทิ้ง
ถุงขยะใหญ่ขึ้นโขผมก็มัดปากถุง และใส่ไปอีกชั้นหนึ่งกลัวมันแตก แล้วจะเอาไปทิ้งถังขยะ แต่ความไม่พร้อมเพราะบ้านใหม่ ถังขยะยังไม่มี เลยวางไว้หน้าบ้านก่อน
สายวันนี้ผมกลับมาจากส่งลูกไปทำงาน กลับมาบ้านเพื่อทำงานในหน้าที่ที่บ้าน สักครู่ใหญ่ๆ เจ้าหมาแดงเดินมาดมๆที่ถุงขยะดำหน้าบ้าน ผมก็เฉยๆไม่ได้คิดอะไร ทำงานไป ดูมันไป เอนังแดงไม่ไป มันเดินรอบถุงแล้วดมจมูกฟิดๆ ผมก็ไม่ได้สนใจเดี๋ยวมันคงไป เพราะผมใส่ถุงสองชั้น ครู่หนึ่งผมเหลือบไปดูนังแดงอีก มันกำลังกินอะไร…
ผมลุกขึ้นยืนแอบดูในบ้าน นังแดงมันกัดถุงดำมุดเข้าไปคาบอะไรมากินทำให้ถุงขยะแตก ด้วยสัญชาติญาณของคน ผมส่งเสียงไล่มันไป ด้วยคิดเพียงเหตุผลว่า ขยะแตกก็จะทำความสกปรกพื้นถนนหน้าบ้าน ไม่ได้ ไม่สอาด นังแดงไม่ไป ยังกินต่อแต่ทำท่าระวังมากขึ้น ผมจึงเปิดประตูออกไปไล่มัน มันจึงผละออกไปแถมไปยืนรีรออยู่ไกลๆ
ผมเดินไปดูถุงขยะมันถูกนังแดงกัดเอาขาไก่ที่เราทิ้งไปมากิน…. ผมแหงนหน้าไปดูนังแดง มันยังยืนดูผมแบบระวัง โอยท้องมันป่อง นมยานทุกเต้า มันคงมีลูกน้อย มันหิว มันคงมาหาอาหารเพื่อชีวิตของมันและลูกน้อย เพียงมาขอเศษอาหารที่เราทิ้งไป…มันไม่รู้จักความสะอาด สกปรกหรอก แต่มันรู้จักความหิวและสัญชาติญาณการเอาตัวรอด เดินหาอาหารเพื่อลูก แดงคงมีหลายชีวิตรอนะ….
ผมอึ้งกับการกระทำของผมเอง…ทำไมหนอเราถึงไม่รอบคอบ ความสกปรกมันอยู่ที่เรา สกปรกก็ทำสอาดได้ แต่จิตใจเราซิ สกปรกกว่า หยาบกว่า….ผมตำหนิตัวเองพร้อมกับจะไปหยิบขาไก่ที่เหลืออยู่ที่มีเนื้อเต็มให้นังแดง
แต่นังแดงไม่อยู่แล้ว มันเดินจากไปแล้ว…..