ต่อให้ 3G ก็เถอะ หาก…
อ่าน: 857สมัยเรียนที่เชียงใหม่ มีเพื่อนรัก เป็นชาวสงขลา เรารักกันมาก เรากินด้วยกัน นอนด้วยกันเที่ยวด้วยกัน อดอยากด้วยกัน ยามไม่มีเงินก็พลัดกันเอานาฬิกาไปจำนำ และเราถูกเสนอชื่อแข่งขันเป็นหัวหน้ารุ่นในปีที่ 1 ผมแพ้ เพราะมันพูดเก่ง เรียนไปได้ค่อนปี มันก็บอกว่า …ไอ้บู๊ดกูจะ en ใหม่ กูอยากเรียนวิศวะ.. แล้วมันก็ไม่ร่ำไม่เรียน ในที่สุดก็ไป Drop การเรียน เอาแต่ดูหนังสือหามรุ่งหามค่ำ เรานอนห้องเดียวกัน เราก็เลยต้องดูแลมันไปด้วย เช่น กลางวัน หรือเย็นๆ มันนั่งอยู่ที่โต๊ะดูแต่หนังสือ ทำแบบฝึกหัด เราก็ไปซื้อข้าวกลางวัน ข้าวเย็น เอามาให้ เนื่องจากห้องอยู่ชั้นสาม เรายังไม่อยากขึ้นห้องก็ตะโกนให้มันหย่อนเชือกลงมา เราก็เอาข้าวห่อผูกเชือก มันก็ดึงขึ้นไป ..ห้า ห้า สนุกซะ
กลางคืนเราก็ชงโอวัลตีนให้มันกระป๋องเบ่อเริ่ม เพื่อนๆก็ว่า มึงเอาจริงอย่างนี้วิศวไม่พลาดแน่ๆ.. เมื่อเวลา Entrance มาถึงมันก็มั่นใจเต็มที่ วันสุดท้ายมันวิ่งจากห้องสอบไปหาพวกเราถึงห้อง… ไอ้บู๊ด..กูทำข้อสอบได้โว้ยยยย.. มันดีใจมาก และมั่นใจว่าไม่พลาด แล้วงานฉลองก็เกิดขึ้น อย่าให้อธิบายนะ..มันเหมือนหมาเลย เมา ซะ..
วันประกาศผลมาถึง… ทำไมมึงหน้าไม่ยิ้มเลยวะ.. ไม่มีชื่อกูว่ะ… ความเศร้ามาเยือนพวกเรา.. เมาอีกรอบหนึ่ง…
ด้วยความแน่วแน่ที่จะเรียนวิศวะให้ได้ เพื่อนรักคนนี้ลาออก แล้วกลับบ้านบอกเพื่อนๆว่า กูจะขอตังค์แม่ไปเรียนวิศวะที่ฟิลิปปินส์… เอ้า เมากันอีกรอบหนึ่ง…. ส่งมันกลับบ้าน
เราได้ข่าวว่ามันไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ จนจบและทำงาน แล้วไปเรียนต่อโทที่อเมริกา …เราไม่เจอะกันอีกเลยนานมาก..
จนเมื่อสัก 6-7 ปีที่ผ่านมาเพื่อนรุ่นเดียวกันนัดรวมรุ่น ควานหาเพื่อนทุกคนให้มาพบปะกันหน่อย นั่นเองเราจึงพบกันอีกครั้ง เพื่อนประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน โดยเป็นมือบริหารบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ระดับหลายพันล้านขึ้นไป
เมื่อสองสามปีมานี้ มันขึ้นมาเป็นผู้บริหารโรงงานผลิตกระดาษที่ขอนแก่น.. แต่หน้าที่การงานก็ไม่ได้พบกัน ผมส่งเด็กจบปวส.ที่เคยมาช่วยงานที่บ้านไปให้มันเลือกเข้าทำงานคนหนึ่ง เด็กคนนั้นก็ได้ทำงานจนปัจจุบันนี้
วันหนึ่งเราพบกันโดยบังเอิญที่สนามบินขอนแก่น มันตะโกนเรียก ไอ้ห่าบู๊ด.. มึงจะลงกรุงเทพฯหรือ..
เปล่ากูมาส่งคุณนายที่บ้านว่ะ เธอจะไปประชุมที่ ILO แล้วมึงทำไมหน้าตายุ่งๆจังวะจะลงกรุงเทพฯหรือ..
เออ แต่กูเสือกลืมมือถือไว้ในรถที่มาส่งกูว่ะ… ตายห่า ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด
ผมก็ยื่นมือถือให้แล้วก็บอกว่า มึงลองโทรไปตามพนักงานขับรถซิ ให้เขากลับมาเอามือถือมึงมาส่งด่วน.
ไอ้ห่า..กูจำไม่ได้สักเบอร์.. ตารางนัดหมาย หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลต่างๆอยู่ในนั้นหมด กูจะทำอะไรได้วะเนี่ยะ.. ซวยฉิบ…
มันเดินวุ่นวาย คิดหาทางจะเอาอย่างไรดี แล้วมันก็เดินไปที่ร้านขาประจำในสนามบินนั้น บอกช่วยโทรไปที่โรงงานให้หน่อย ด่วนจี๋ ….
เสียงประกาศขึ้นเครื่องแล้ว…
เห็นมันแล้วสงสารว่ะ มึงขาดมือถือมึงทำอะไรไม่เป็นเลย.. เอางี้มึงไปขึ้นเครื่องเลย เดี๋ยวกูจัดการให้ แล้วจะส่งมือถือไปให้มึงพรุ่งนี้เช้าเที่ยวบินแรก มึงไปรับเอาที่สนามบินนะ.. แล้วเราก็จัดการติดต่อโรงงานผลิตกระดาษให้ ซึ่งก็ตามได้และให้เขาจัดการทุกอย่างให้นายใหญ่เขาด้วย
ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้ ต่อให้ 3 G หรือ 8 G มันก็ทำอะไรไม่ได้
จนกว่าจะผลิตรุ่นที่ หากลืมที่ไหนมันบินไปหาเจ้าของเองน่านแหละ..ห้า ห้า ห้า (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อเพื่อนคนนี้นะครับ) ใครสนใจเรื่อง 3 G อ่าน ที่นี่