เขียนให้ นพ.บุญเลิศ ผอ.รพ.หลังสวน

2610 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 26 ตุลาคม 2009 เวลา 23:44 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 32192

เมื่อวานผมได้รับโทรศัพท์ติดๆขาดๆ บอกว่า เฮ้ย บู๊ด กูเลิศ..โว้ย


ตอนนี้กูอยู่โขงเจียม จะไปหามึงพรุ่งนี้ที่มุกดาหาร…

บุญเลิศ อนันตรัตนา นายแพทย์ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอหลังสวน ชุมพร เดินทางมากับภรรยาที่รักเที่ยวเลาะชายโขงขึ้นมาเรื่อยๆ ภรรยาก็เพื่อนเรา เรียนมาด้วยกันที่ มช. ไอ้เลิศ(ขออภัย เราสนิทกัน) ก็สนิทกันเราพักห้องเดียวกันมาสมัยเรียนที่ มช. อดอยากข้าวปลามาด้วยกัน

ไอ้เลิศ..เป็นนักเรียนแพทย์ที่ยากจนที่สุดคนหนึ่ง เขาเป็นคนตาคลี ตอนเรียนแพทย์ ทางบ้านมีหนี้สินท่วมหัว มันว่างั้น เมื่อออกไปเป็นแพทย์ ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานราชการเต็มที่ เขาให้อยู่โรงพยาบาลจังหวัด ไม่เอา ขอไปอยู่ที่อำเภอหลังสวน เพราะ ภรรยาเป็นคนที่นั่น

ขณะนั้นภรรยาเป็นอาจารย์ที่คณะศึกษาศาสตร์ มช.ต้องทำเรื่องขอย้ายสังกัดไปเป็นครูประจำโรงเรียนอำเภอที่บ้าน เพื่อมาอยู่กับสามี ซึ่งก็เป็นเพื่อนกัน

การใช้ชีวิตบ้านนอก และประหยัดสุดๆ ทำให้ไอ้เลิศเก็บหอมรอมริบเงินทองได้ พอดีญาติมาแนะนำให้ซื้อที่ดินปลูกยางพาราด้วยไร่ละ 1000 บาทเมื่อสมัย สามสิบปีที่แล้ว ได้มาเกือบสองร้อยไร่

มีสองครอบครัวเป็นคนงานในสวน แต่เนื่องจากไอ้เลิศและภรรยาเป็นข้าราชการ ก็ไม่มีเวลาให้กับสวนยางเท่าที่ควร ถูกคนงานละเมิดสิทธิในการเก็บรายได้จากสวนยางมาตลอด ทั้งที่รู้บ้างและไม่รู้ แต่ไอ้เลิศก็บอกว่า ปล่อยๆมันเถอะ แต่ในที่สุด ความดี ความใจดี การไม่ใช้ไม้แข็งในการจัดการ ทำให้ ความดีของครอบครัวนี้ชนะ ผู้ประสงค์ร้าย คนที่อิงแอบผลประโยชน์จากสวนยางโดยอาศัยการที่เจ้าของสวนยางไม่มีเวลาให้ ต่างพ่ายแพ้ความดีหมด

มาวันนี้ สองคนมีลูกสาวเพียงคนเดียวโตแล้วมีงานทำแล้ว และดูท่าทางจะไม่ยอมกลับไปรับงานทำสวนยาง เพลิดเพลินกับงานที่เขาชอบที่กรุงเทพฯ

เรื่องหนึ่งในหลายเรื่องที่เขาประทับใจที่ตัวเองได้ทำลงไป คือ ช่วงที่เปิดคลินิกเล็กๆที่บ้านหลังสวน มีชาวบ้านเป็นคนไข้ป่ามารักษา เมื่อรักษาแล้วก็บอกว่าเขาไม่มีเงินเลย ไอ้เลิศรับรู้ถึงความรู้สึกนั้น มันบอกว่า กูยากจนมาก่อนกูรู้ว่าสภาพนั้นคืออย่างไร… จึงไม่เอาเงินแถมเอายารักษามอบให้ไปอีก ทั้งคู่ลืมไปหมดแล้ว ผ่านไปสามปี มีคนหนึ่งเดินมาหาที่บ้าน เพราะไม่ทำคลินิกแล้ว บอกว่าเมื่อสามปีก่อนเขาคือคนไข้คนนั้น วันนี้เขาต้องการเอาเงินค่ารักษามาให้….

ภรรยาลาออกจากราชการหลายปีมาแล้ว ไอ้เลิศก็ลามือราชการลง มอบหมายให้น้องๆเข้ามารับผิดชอบงานมากขึ้น…ท่องเที่ยว

ทั้งคู่วางแผนการเที่ยวโดยไม่ใช้รถตัวเอง เช่ารถจาก AVIS เขาให้ทัศนะว่า ไม่ต้องขับรถยาวจากชุมพรไปไหนๆ รถเช่าสภาพดี มีประกันทุกอย่าง ขับรถโดยไม่ต้องเสียดาย หากรถมีปัญหา เขาพร้อมเอารถคันใหม่มาเปลี่ยนให้ตลอดเส้นทาง และค่าเช่าก็ถูก โดยใช้การซื้อสิทธิ์ช่วงที่เขามี promotion การเช่ารถในช่วงรัฐบาลรณรงค์เที่ยวไทย ซึ่งเขาจัดทุกปี เราก็เลือกใช้สิทธิภายใน 1 ปี

วางแผนดีดี แล้วก็บินมาลงอุบล เอารถ Camry คันโตตะลอนเที่ยว เยี่ยมเพื่อนรายทาง จะเลาะโขงไปเรื่อยๆ จะไปจบลงที่เชียงใหม่ แล้วส่งรถที่นั่น แล้วบินเข้า กทม ต่อไปยังชุมพร

สองคนบอกว่า ขอใช้ช่วงนี้เที่ยว เถอะ ทำงานมามากแล้ว…

เดือนธันวาสองคนวางแผนจะขึ้นไปเที่ยว ดอยภูคา น่าน ผมก็ว่า เออ อาจจะได้เจอะกันที่นั่น

เพราะ เฮฮาศาสตร์มีแผนจะไปที่น่าน เอ…รึเปล่า????


จดหมายเปิดผนึกถึงทักษิณ โดย : ศ.นพ.ประเวศ วะสี

429 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 26 ตุลาคม 2009 เวลา 14:53 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 10632

สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่านน่ะครับ ผมขออนุญาติเอามาเผยแพร่ในนี้ ตามเจตนาทางสร้างสรรค์สังคมไทยที่ดีกว่าของท่าน อ. ศ.นพ.ประเวศ วะสี
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/analysis/20091021/82610/จดหมายเปิดผนึกถึงทักษิณ-คุณมีศักยภาพทำเรื่องใหญ่กว่านี้.html
การเมือง : บทวิเคราะห์
วันที่ 21 ตุลาคม 2552 08:29

คุณทักษิณที่รัก ใครๆ ก็ลงความเห็นว่า คุณทักษิณเป็นคนที่มีศักยภาพยิ่งกว่าใครๆ ในแผ่นดิน ที่จะบันดาลให้เกิดความปั่นป่วนก็ได้หรือความสงบก็ได้

นายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ ที่ถูกรัฐประหารแล้วจะไปลับ แต่คุณเป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่รัฐประหารก็กินไม่ลง คุณยังบันดาลให้เกิดอะไรๆ ในประเทศไทยได้ เช่น ทำให้ สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีก็ได้ สั่งให้พรรคเพื่อไทยซ้ายหัน ขวาหันก็ได้ ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงคึกคักหรือซบเซาก็ได้ ไม่มีใครมีศักยภาพที่จะทำได้เท่าคุณทักษิณ

เมื่อพบกันครั้งสุดท้ายในงานศพภรรยาอาจารย์หมอเสม พริ้งพวงแก้ว ขณะนั้นคุณเป็นนายกรัฐมนตรี คุณกล่าวถึงผมว่า มาตรฐานของผมสูงเกิน คุณยังทำไม่ได้ ผมว่ามาตรฐานของผมไม่สูงหรอก แต่คุณนั่นแหละมีศักยภาพสูงมากที่จะทำเรื่องใหญ่ๆ ใหญ่กว่าเรื่องที่คุณกำลังทำอยู่ขณะนี้

ผมคิดว่าขณะนี้ประเทศติดอยู่ในหลุมดำแห่งวิกฤตการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดมิคสัญญีกลียุค เพราะกรรมร่วมหลายอย่างบรรจบกัน ซึ่งรวมเรียกว่าปัญหาเชิงโครงสร้าง ในช่วง 80 ปีที่ผ่านมา แนวคิดทางการเมืองอยู่ในเรื่องการโค่นล้มและการแก้แค้นกันไปมา เมื่อคณะราษฎรโค่นล้มเจ้า พวกเจ้าก็โค่นล้มคณะราษฎร หลัง 14 ตุลาเมื่อเห็นว่าขบวนการนักศึกษาชักจะมีอำนาจมากก็เกิดการฆ่านักศึกษากลางเมืองเมื่อ 6 ตุลาคม แนวทางกระทำและปฏิกิริยาต่อการกระทำดำเนินเรื่อยมา และก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่คนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

จริงอยู่ คุณทักษิณ สามารถ shake loose หรือเขย่าให้ทุกองค์กรและสถาบันในประเทศไทยหลวมหมด ซึ่งอาจมองว่ามีข้อดีที่จะประกอบเครื่องไปสู่ “การพัฒนาระดับใหม่” (New Order) แต่ก็สุ่มเสี่ยงเกินไปที่จะหลุดเข้าไปสู่มิคสัญญีกลียุค เพราะในยามที่สังคมมีอารมณ์รุนแรง ย่อมเกิดการรับรู้ผิดๆ และคิดผิดๆ ไม่มีปัญญาพอที่จะใช้วิกฤติเป็นโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่จุดลงตัวใหม่ได้

ผมไม่คิดว่าการต่อสู้ตอบโต้กันไปมาอย่างที่เป็นไปขณะนี้จะสามารถพาสังคมไทยออกจากหลุมดำแห่งวิกฤตการณ์ได้ วิกฤตการณ์ของเราใหญ่และลึกเกินกว่าที่การต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันจะมีพลังพอที่จะขยับสังคมไทยออกจากมหาวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้

เราต้องการอะไรที่ใหญ่กว่านั้น

แล้วไอ้ที่ว่าใหญ่กว่านั้นมันคืออะไร?

เรื่องใหญ่ที่สุดคือ จิตสำนึกใหม่ (New Consciousness)

คนไทยเรามีจิตสำนึกเล็กๆ แคบๆ มองไม่เห็นทั้งหมด ทำเฉพาะส่วนอย่างแยกส่วน ทำเพื่อตนและพวกตน นำไปสู่การเสียดุลยภาพอย่างรุนแรงทั้งหมดทั้งสิ้น คือ เสียดุลระหว่างกายกับใจ เสียดุลทางสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเมือง การเสียดุลยภาพคือความเจ็บป่วย และนำไปสู่การล่มสลาย

วิถีดุลยภาพ คือทางไป

แต่วิถีดุลยภาพเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเรายังมีจิตสำนึกเล็กๆ แคบๆ เราต้องการจิตสำนึกใหม่ที่เป็นจิตสำนึกที่เห็นความเป็นหนึ่งเดียวของทั้งหมด (The Same Oneness) ของคนทั้งหมดและธรรมชาติทั้งหมด

จิตสำนึกใหม่ที่เข้าถึงความเป็นทั้งหมดจะทำให้เป็นอิสระ มีความสุขอันลึกซึ้ง เกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติทั้งหมด ทำให้ดำเนินไปบนวิถีดุลยภาพได้

จิตสำนึกใหม่ที่ว่านี้เกิดขึ้นได้จริงๆ คุณลองไปอ่านเรื่องของมนุษย์อวกาศที่ชื่อ Edgar Mitchell เมื่อเขายืนบนดวงจันทร์ มองมาเห็นความเป็นหนึ่งเดียวของโลกทั้งใบ จิตเขาเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง เขากล่าวว่า “I came back to Earth, a totally changed man” เขารู้ว่าจิตสำนึกใหม่เกิดขึ้นได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้วมันมหัศจรรย์เพียงใด จึงตั้งสถาบันที่เรียกว่า Institute of Noetic Sciences ที่แคลิฟอร์เนีย เพื่อค้นคว้าวิจัยและเผยแพร่เรื่องจิตสำนึกใหม่ ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องไปนอกโลก แต่มีวิธีอันหลากหลายที่ทำให้เกิดขึ้น

ขณะนี้หนังสือกลุ่มที่ขายดีที่สุดในโลกคือ กลุ่มที่เกี่ยวกับจิตสำนึกใหม่ เพราะในตะวันตกเกิดตระหนักกันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ว่าวิกฤติโลกคราวนี้เป็นวิกฤติอารยธรรม หรือแบบแผนการดำรงชีวิต ไม่มีทางที่มนุษย์จะดำเนินไปในอารยธรรมเดิม โดยไม่ทำลายดุลยภาพของการอยู่ร่วมกัน ลาสโล โกรฟ และ รัสเซลล์ ในหนังสือของเขาชื่อ Consciousness Revolution เห็นว่าทางเดียวเท่านั้นที่มนุษยชาติจะอยู่รอดได้ คือ “การปฏิวัติจิตสำนึก”

หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ ปีเตอร์ รัสเซลล์ เขียนคนเดียว ชื่อ Waking up in time ก็ทำนองเดียวกันที่ไม่เห็นว่าโลกจะรอดได้เพราะเทคโนโลยีใหม่หรือเศรษฐกิจใหม่ใดๆ นอกจากจิตสำนึกใหม่

วิถีทางใหม่ที่มนุษยชาติ คือ วิถีดุลยภาพ ซึ่งจะเป็นไปได้ด้วยจิตสำนึกใหม่เท่านั้น

วิกฤตการณ์ประเทศไทยก็เช่นเดียวกับวิกฤตการณ์โลกที่เกิดจากการดำเนินไปบนวิถีที่ขาดดุลยภาพ ไม่มีทางออกด้วยการแก้เล็กแก้น้อย หรือด้วยการทะเลาะวิวาทแบบเด็กตีกัน แต่เราต้องการวิถีทางใหม่ซึ่งเป็นวิถีดุลยภาพ ซึ่งจะเป็นไปได้ต่อเมื่อคนไทยมีจิตสำนึกใหม่

ถ้าคนไทยมีจิตสำนึกใหม่ เข้าถึงความเป็นหนึ่งเดียวของประเทศไทยทั้งหมด จะเกิดความเป็นอิสระ เกิดความสุขอย่างล้ำลึก เกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติทั้งหมด นำไปสู่วิถีชีวิตใหม่ที่ก้าวข้ามความขัดแย้งและความติดขัด

คุณทักษิณ คุณเป็นคนมีศักยภาพสูงที่จะทำเรื่องใหญ่ ปล่อยความแค้นหรือการคิดแก้แค้นใดๆ เพราะมันอยู่ในอกุศลภูมิแห่งโลภะ โทสะ โมหะ เท่านั้นเอง คุณต้องไปทำเรื่องใหญ่กว่านั้น คือเรื่องการสร้างจิตสำนึกใหม่ของคนไทยทั้งหมด และมนุษย์ในโลกด้วย ด้วยศักยภาพของคุณผมคิดว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงจากการทำเพราะแรงแค้น อันเป็นเรื่องในระดับต่ำๆ ไปสู่การทำงานใหญ่เรื่องสร้างจิตสำนึกใหม่ คุณจะพบความสงบและความสุขที่ไม่เคยได้พบมาก่อน ใครๆ ก็จะหันมารักคุณ และในที่สุดอย่าว่าแต่เรื่องเงิน 70,000 กว่าล้านของคุณเท่านั้นเลย ใครๆ ก็อยากจะเห็นคุณมีมากๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพของคุณในการทำเพื่อเพื่อนมนุษย์

คุณมีหลานสาวคนหนึ่งที่มีความรู้ความชำนาญเรื่องจิตสำนึกใหม่ ถ้าคุณสนใจเรื่องนี้ เขาคงยินดีเดินทางไปพบคุณที่ดูไบหรือที่อื่นใด ผมขออธิษฐานให้คุณเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน (Transformation) ของมนุษยชาติ

ด้วยความระลึกถึง



Main: 0.053076982498169 sec
Sidebar: 0.055530071258545 sec