ไปกราบหลวงพ่อกล้วย..
อ่าน: 16495ญาติมาเยี่ยมหลังจากไปทอดกฐินที่อุดรฯแล้วก็ชวนไปทำบุญที่วัดป่าธรรมอุทยาน หลวงพ่อกล้วยของอ.ไร้กรอบ ที่บ้านสำราญ
ใกล้แค่นี้เองแต่เพิ่งจะมีบุญได้ไปกราบท่าน พวกเราไปสายนิดหน่อยเพราะคณะใหญ่รถตู้สองคัน กว่าจะรวมตัวกันได้ กว่าจะไปหาอาหารไปถวายพระ เดินทาง เข้าเขตวัดก็ได้ยินพระท่านสวดมนต์แล้ว พระทุกองค์เริ่มฉัน แต่หลวงพ่อกล้วยซึ่งผมเห็นท่านเป็นครั้งแรก ท่านเทศนาเพื่อให้เวลาญาติโยมรวมกันและหาที่นั่งและนั่งนิ่งๆสักพัก ท่านก็หยุดและพระทุกองค์ก็เริ่มฉัน แต่ท่านก็ยังไม่ฉันนั่งคอยญาติโยมที่มาใหม่เตรียมอาหารมาถวายเพิ่มเติม โดยใส่ม้าที่มีล้อ เมื่อพระอาจารย์ตักอาหารแล้วก็เลื่อนให้พระองค์อื่นๆเอาไปพิจารณาตักอาหารเพิ่มเติมต่อไป
อาจจะเป็นเพราะผมนั่งแตกกลุ่มออกมาท่านพระอาจารย์ก็มองมาทางผมบ่อยครั้ง เลยใช้โอกาสที่พระท่านกำลังฉันและญาติโยมเริ่มทยอยออกไปศาลาโรงธรรมที่เป็นธรรมเนียมว่าญาติโยมก็ไปหาอาหารที่นั่นทานกัน ผมเข้าไปกราบพระอาจารย์แล้วแนะนำตัว ต้องขออนุญาตกลุ่มลานปัญญา อาจารย์ไร้กรอบ ที่ผมได้อ้างถึงกลุ่มและท่านอาจารย์ พระอาจารย์พยักหน้า แล้วก็ถามว่าเพิ่งจะมาหรือ อยู่ที่ไหนล่ะ ..ฯ เอ้า มีบุญวาสนากันก็มาพบกัน มีโอกาสก็มานะ ใกล้กันแค่นี้มาเมื่อไหร่ก็มา เดี๋ยวไปทานอาหารร่วมกับญาติโยมแล้วก่อนไปก็ไปพบกันที่กุฏินะ
ผมเดาว่าเป็นประเพณีปฏิบัติที่เมื่อพระฉันอาหาร ญาติโยมก็ปลีกตัวไปหาอาหารตามที่พระอาจารย์เชื้อเชิญ ผมนั้นเตรียมอาหารจากตลบาดเพื่อจะไปทานอาหารเช้ากับญาติที่บ้านจึงไม่ไปทานอาหารตามญาติโยม ถือโอกาสเดินชมพื้นที่ ก่อนไปวัดผมดูทาง Google มาบ้างแล้ว เมื่อมาเห็นกับตาก็ต้องบอกว่าร่มรื่นน่าพักอาศัยยิ่งนัก น่ามาตั้งสติ สมกับที่มีมงคลสูตรกล่าวถึงที่ว่า ปฏิรูปะเทศะวาโสจะ เอตัมมังคะละมุตตัมมัง อยู่ในประเทศ(สถานที่)อันสมควรเป็นมงคลยิ่งนัก
มีภาพสวยๆมากมายระหว่างทางที่ผมเดินชมพื้นที่ ไก่วัดกลุ่มนี้ยังมีความสุขกับการ “นอนคอน” ไม่สนใจว่าจะมีใครเดินผ่านไปมา ความสุขของเขาก็คือการอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ไม่มีใครคิดจะทำอะไร ยามจะกินก็มีของกินมากมายทั้งตามธรรมชาติ และที่พระ และญาติโยมเอาอาหารมาให้ เอ..รึว่ามานอนตรงนี้เพื่อมานั่งฟังพระอาจารย์เทศนา
ผมเดินไปพบคุณลุงกำลังเก็บกวาดวัด จึงถามคุณลุงว่าบ้านอยู่ที่ไหน ลุงบอกอยู่ที่บ้านสำราญติดกันที่นี่แหละ แล้วก็ชมคุณลุงที่เก็บกวาดวัดได้สะอาดสวยงามน่าเดินสมาธิ น่าพำนัก น่ามาปฏิบัติธรรม ปฏิบัติจิต.. เดินคุยไปมาเลยถือโอกาสนั่งลงคุยกัน
ผมถามคุณลุงว่าที่เห็นนั่นมันคืออะไรทำไมเหมือนสถานที่เผาศพแบบพื้นบ้าน แต่ทำไมสร้างเสียสวยเชียว คุณลุงตอบว่า เดิมสถานที่ตรงนี้คือสถานที่เผาศพชาวบ้านตอนนี้ย้ายไปตรงโน้น ตรงนี้เลยสร้างไว้เตือนสติ
ผมถามต่อว่า: ไผ่สวยๆนี่ชาวบ้านเอาไปทำประโยชน์อะไรหรือไม่
คุณลุง: คุณเอ้ย…บริเวณนี้ทั้งหมดเดิมเป็นป่าช้าเก่าแก่ ใครตายก็เอามาฝังที่นี่แล้วปลูกต้นไผบ้างต้นไม้ไว้บ้าง รกทึบมากไม่มีใครอยากเข้ามา แม้วัวควายมันยังไม่เข้ามาเลย ออกจากบ้านก็แค่เลาะชายป่าไปรอบๆเท่านั้น พระอาจารย์ท่านมาจำวัดในป่าช้านี่นะ….ตั้งแต่แรกๆไม่มีวัดแล้ว
ที่ศาลาหลังใหญ่แห่งนี้คุณลุงจะแนะนำใครๆให้ไปกราบพระประธานซึ่งสร้างด้วยหยกขาวทั้งองค์และคราวที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เกศนั้น ในหลวงทรงพระราชทานพวงมาลัยมาถวายด้วย นับว่าเป็นบุญตายิ่งนักที่ได้มาเห็น
ผมเองก็ผ่านวัดวามาพอสมควร ก็นับได้ว่าวัดป่าธรรมอุทยานของหลวงพ่อกล้วยแห่งนี้ มีพื้นที่กว้างขวาง และร่มรื่นด้วยไผ่ ที่มีญาติโยมและผ้าขาวที่มาปฏิบัติธรรม ช่วยกันทำความสะอาดทุกวันตั้งแต่เช้ามืด ฟ้าสว่างขึ้นมาก็สะอาดร่มรื่น
ผมและคนข้างกายพูดตรงกันว่า เห็นทีเราจะมาบ่อยครั้งแล้วหละ
วัดป่านั้น ป่าไม้ที่ร่มรื่นคือเสน่ห์ดึงดูดจิตใจคนโดยธรรมชาติ เข้ามาแล้วจิตใจเย็น สงบลงเยอะ พระอาจารย์เหมือนท่านเข้าใจจริตคนสมัยใหม่ว่า ต้องการสถานที่และบรรยากาศแบบไหนจึงถูกจริตคนรุ่นใหม่ในการเข้าวัด วัดป่าธรรมอุทยานเป็นวัดหนึ่งที่ผมศรัทธาในบารมีของพระอาจารย์กล้วยยิ่งนัก ทั้งหมดนี้ผมเพียงสัมผัสครั้งแรกเท่านั้น คงไม่เทียบเคียงอาจารย์ไร้กรอบที่ลึกซึ้งยิ่งนัก