ภาษีน้ำท่วม..

198 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 10 ตุลาคม 2011 เวลา 23:57 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 3696

น้ำท่วมมากมายเช่นนี้ ข่าวเรื่องนี้กลบข่าวอื่นๆไปสิ้น แม้แต่การเสียชีวิตของ สตีฟ จ๊อพ ทุกคนเงี่ยหูฟังรัฐบาลว่าเอาไง มีผู้คนล้มตาย มาหมูจมน้ำตายคาคอกอย่างน่าสมเภทเวทนา มีสาวๆที่สำนักวานบอกว่า หนูเห็นภาพแล้วสงสาร ต่อไปนี้หนูจะไม่กินเนื้อหมูแล้ว เออ..น้ำท่วมเกิดขึ้นทำให้คนคนหนึ่งไม่กินหมูไปได้

น้ำท่วม มีคนค้างคาใจสุพรรณบุรีไม่น้อย คงมีการคิดบัญชีกันหรอก เรื่องผลประโยชน์นี่อะไรก็ทำได้

ผมปรบมือดังๆให้หลายกลุ่มที่ลงมือเข้าไปคลุกในเหตุการณ์ และเหน็ดเหนื่อยพร้อมกับความอิ่มเอมกับความรู้สึกดีดีที่ได้ช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก การลงไปสัมผัสเช่นนั้น เขาจะจำติดตาม เขียนเรื่องเล่าได้เล่มใหญ่ เขาจะเก็บความทรงจำดีดีไว้ชั่วชีวิต

ผมชอบใจที่หลายท่านเสนอแนวคิดใหม่ๆ แปลกๆที่ใช้ได้จริง และสอดคล้องกับสภาพที่เกิดขึ้น แต่ก็มีแนวคิดที่ผมได้แลกเปลี่ยนมากับวิศวกรท่านหนึ่งผมสนใจแม้ว่าดูจะเป็นเรื่องยาก หรือไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงก็ตาม แต่การบันทึกตรงนี้ก็เป็นการเคารพในความคิดของวิศวกรท่านนี้ไว้ เผื่อว่าอาจมีการต่อยอดไปสู่ความเป็นจริงได้ ก็จะเป็นอานิสงค์ของท่านนั้นไป

ท่านกล่าวว่า เมื่อเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วต่อไปมันจะเกิดขึ้นอีก และบางครั้งจะรุนแรงกว่านี้อีก ทางออกที่สำคัญที่ท่านคิดคือ เราต้องกลับไปสู่ลักษณะแต่อดีตที่มีที่ลุ่มเก็บกักน้ำ ธรรมชาติเป็นเช่นนั้นแต่มนุษย์ อาจหาญไปก่อสร้างสิ่งกีดขวางการไหลของน้ำเสียสิ้น ดูหนองงูเห่า ที่รับน้ำโบราณก็ดันเอามาทำสนามบินเพราะผลประโยชน์แท้

ท่านนี้กล่าวฟันธงไปว่า ต่อไปต้องมีการเก็บภาษีน้ำท่วมเป็นกรณีพิเศษสำหรับคนกรุงเทพฯ

ผมงง งง เอ มีหรือภาษีน้ำท่วม ไม่เคยได้ยิน

ก็เพราะน้ำท่วมกรุงเทพฯก็ป้องกันกันสุดฤทธิ์ โดยหลายวิธีตามหลักวิชาการ คือหาทางระบายน้ำที่มาตามลำเจ้าพระยาออกไปทะเลโดยเร็วที่สุด แต่มันก็ติดโน่น ติดนี่ โดยเฉพาะติดอำนาจของคน…..

เอางี้ คนกรุงเทพฯที่รัฐบาลอ้างว่าเป็นพื้นที่ที่ต้องป้องกันสุดฤทธิ์นั้น จะต้องทำอะไรมากกว่านี้เสียแล้ว นั่นคือต้องควักกระเป๋าจ่ายภาษีน้ำท่วม ถ้าจะเรียกให้ถูกคือภาษีป้องกันน้ำท่วม

โดยเอาเงินส่วนนี้ที่เก็บได้นี้ไปจ่ายให้พื้นที่รอบกรุงเทพฯที่เป็นที่ลุ่มและสามารถทำแก้มลิงได้ โดยเป็นการเช่าที่ดินเพื่อระบายน้ำที่จะเข้ากรุงเทพฯให้มาอยู่ที่นี่เต็มๆ แล้วสร้างระบบระบายออกทะเล เมื่อหมดปัญหา ก็กลับมาใช้ที่ดินดังเดิม ซึ่งอาจจะเป็นเวลาประมาณ 3-4 เดือน ช่วงนี้ให้หยุดทำการเกษตร เอาที่ดินให้เช่าเก็บน้ำเท่านั้น

ผมไม่ใช่วิศวกร และไม่รู้เรื่องระบบใหญ่ของการผันน้ำรอบกรุงเทพฯ แต่ฟังท่านนี้อธิบายก็พอเห็นภาพ และน่าจะเป็นไปได้ มีคนร่วมก๊วนเสวนากล่าวว่า ชาวบ้านเขาจะยอมหรือ…. หากจ่ายแพงน่าจะยอมนะครับ แต่ 3-4 เดือนเอง อีก 8 เดือนก็ทำการเกษตรอื่นๆได้ แต่อาจจะต้องปรับระบบชนิดพืชที่ปลูก

คิดเล่นๆกันนะครับ เพราะปกติหากน้ำท่วมที่ดิน หากมีการเพาะปลูกและเกิดเสียหาย รัฐก็จ่ายค่าชดเชยอยู่แล้ว แต่นี่ไม่ต้องชดเชย เช่าที่ดินเก็บน้ำซะเลย….

นี่คิดแบบไม่เห็นหัวชาวต่างจังหวัดนะ คิดจะช่วยคนกรุงเทพฯเท่านั้น หุหุ..



Main: 0.022413015365601 sec
Sidebar: 0.064223051071167 sec