พระยอดเมืองขวาง

11 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 12 มิถุนายน 2011 เวลา 22:05 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 3159

เดือนนี้เมื่อ 117 ปีมาแล้ว (ค.ศ. 1894) “พระยอดเมืองขวาง” ของไทยถูกขึ้นศาลผสมระหว่างผู้พิพากษาไทยกับฝรั่งเศส ซึ่งสัดส่วนผู้พิพากษาฝรั่งเศสมากกว่า ตัดสินให้ลงโทษพระยอดเมืองขวาง จำคุก 20 ปี เป็นที่เจ็บแค้น และโศกเศร้าของคนไทยยิ่งนัก แม้องค์พระปิยมหาราช


พระยอดเมืองขวางคือใคร..?

(ขออนุญาตสำเนาข้อมูลจากhttp://th.wikipedia.org/wiki/พระยอดเมืองขวาง เพราะกระชับมากกว่าข้อมูลที่ผมมีอยู่)

พระยอดเมืองขวาง (พ.ศ. 2395 - พ.ศ. 2443) เป็นข้าราชการฝ่ายปกครองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตำแหน่งสุดท้ายเป็นข้าหลวง
เจ้าเมืองคำมวน เมืองคำเกิ สังกัดกองข้าหลวงเมืองลาวพวน ในบังคับบัญชาของพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ข้าหลวง ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่ต่อสู้กับทหารฝรั่งเศส ในกรณีพิพาท ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436)

พระยอดเมืองขวาง เดิมชื่อ ขำ เป็นต้นสกุล ยอดเพ็ชร์ เกิดเมื่อปีชวด ร.ศ. 71 (พ.ศ. 2395) ที่อำเภอบรรพตพิสัย
จังหวัดนครสวรรค์ เป็นบุตรของพระยาไกรเพ็ชร์ (มิตร กฤษณมิตร) เริ่มรับราชการเป็นข้าหลวงผู้ช่วยในกองข้าหลวงใหญ่นครจำปาศักดิ์ รักษาราชการกองข้าหลวงลาวกาว ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองเชียงขวาง และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระ ซึ่งเป็นที่มาของฉายา “พระยอดเมืองขวาง” ต่อมาได้เป็นเจ้าเมืองคำมวน เมื่อประมาณ พ.ศ.2428 2328? รับผิดชอบบ้านนาเป คำเกิด คำมวน นากาย ปากพิบูลย์ และแก่งเจ๊ก มีอาณาเขตติดต่อกับเวียดนาม
[1]

ในปี พ.ศ. 2436 เกิดกรณีพิพาทระหว่างการปักปันเขตแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เมื่อฝรั่งเศสต้องการเมืองคำมวน กองทหารนำโดยมองซิเออร์ลูซ (Luce) บังคับให้พระยอดเมืองขวางออกจากเมืองคำมวน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม
พ.ศ. 2436 แต่พระยอดเมืองขวางไม่ยินยอม จึงเกิดการสู้รบกันเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม
พ.ศ. 2436 เมื่อนายลูซ สั่งให้นายกรอสกุรัง พร้อมกับทหารญวน เข้ามาจับกุมหลวงอนุรักษ์ ผู้ช่วยของพระยอดเมืองขวาง ที่ตำบลนาหลักหิน ปลายด่านคำมวนต่อกับเมืองท่าอุเทนของฝั่งไทย และเกิดการต่อสู้กัน ทำให้นายกรอสกุรังเสียชีวิตพร้อมกับทหารญวน 11-12 คน บาดเจ็บ 3 คน ฝ่ายทหารไทยเสียชีวิต 6 คน บาดเจ็บ 4 คน [2][3]

จากเหตุการณ์นี้ นายออกุสต์ ปาวีไม่ พอใจ กล่าวหาว่าพระยอดเมืองขวางเป็นฆาตกร บุกเข้าไปทำร้ายนายกรอสกุรังขณะนอนป่วยอยู่ในที่พัก และนำเรื่องขึ้นพิจารณาคดีในศาลรับสั่งพิเศษ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร แม่ทัพใหญ่อีสานใต้เป็นประธานคณะผู้พิพากษา ซึ่งประกอบด้วย พระยาสีหราชเดโชชัย
พระยาอภัยรณฤทธิ์
พระยาเทเวศวงศ์วิวัฒน์
พระยาธรรมสารนิติ์
พระยาฤทธิรงค์
พระยาธรรมสารเนตติ์ มีหลวงสุนทรโกษา และนายหัสบำเรอ อัยการเป็นทนายฝ่ายโจทย์ มีนายตีเลกี (William Alfred Tilleke ต่อมารับราชการเป็น พระยาอรรถการประสิทธิ์ ต้นสกุล คุณะดิลก) และนายเวอร์นอน เพจ (Vernon Page ชาวอังกฤษ) เป็นทนายจำเลย [2]

การพิจารณาคดีพระยอดเมืองขวาง ดำเนินเป็นเวลา 22 วัน ตั้งแต่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 16 มีนาคม
พ.ศ. 2437 ศาลมีคำพิพากษาว่า พระยอดเมืองขวางไม่มีความผิดตามฟ้อง และให้ปล่อยตัวเป็นอิสระ สร้างความไม่พอใจให้กับนายลาเนสซัง ผู้สำเร็จราชการอินโดจีน และขอให้จัดตั้งศาลผสมไทย-ฝรั่งเศส ประกอบด้วยผู้พิพากษาฝรั่งเศส 3 คน เดินทางมาจากไซ่ง่อน สยาม 2 คน พิจารณาคดีเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม
พ.ศ. 2437 และตัดสินให้จำคุกพระยอดเมืองขวาง 20 ปี ด้วยเสียงข้างมาก 3 เสียงของฝ่ายฝรั่งเศส

พระยอดเมืองขวางถูกจำคุกอยู่ 4 ปี ก็ได้รับอิสรภาพ จากคำร้องขอของรัฐบาลฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน
พ.ศ. 2441
[4] พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานบำนาญให้เป็นพิเศษเดือนละ 500 บาท ท่านได้รับการยกย่องในฐานะวีรบุรุษผู้รักชาติ ต่อมาได้ล้มป่วย และเสียชีวิตใน ร.ศ. 119 (พ.ศ. 2443) อายุได้ 48 ปี เป็นต้นสกุล “ยอดเพ็ชร์” และ “กฤษณมิตร”

ผมอ่านเรื่องนี้ในปริญญานิพนธ์ ของท่านอาจารย์สุวิทย์ ธีรศาศวัติ แห่ง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่านเขียนเรื่องนี้สมัยที่ท่านอยู่วิทยาลัยครูนครสวรรค์ ผมทำสำเนาเอกสารนี้ไว้เป็นสิบปีแล้ว ไม่ได้อ่านแบบจริงจังเสียที มาคราวที่จะต้องไปทำงานลาว ผมก็ค้นเอกสารที่บ้านที่เขียนเกี่ยวกับลาวไว้หลายเล่ม แล้วทยอยเอามาอ่าน แต่ก็จดๆจ้องๆ มีเรื่องอื่นมาแซงคิวไปหมด หนึ่งในจำนวนเอกสารเหล่านี้ ผมได้จากลุงเอกมา 1 เล่ม สุดยอดจริงๆ

ผมลงกรุงเทพฯโดยนั่งรถนครชัย ที่นั่งกว้างขวาง นั่งเก้าอี้เดี่ยว เลยแบกเอกสารเล่มใหญ่ไปอ่านตลอดเส้นทาง อ่านแล้วเกิดจินตนาการถึงสมัยนั้น ที่ฝรั่งเศส เข้ามารังเกประเทศเรา แล้วเราก็เสียดินแดนไปเรื่อยๆ เพราะความขี้โกงของประเทศมหาอำนาจ ทบทวนประวัติศาสตร์ไว้บ้างก็ดีนะ..

เพิ่มเติมข้อมูลได้ที่:

http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87_%E0%B8%A3.%E0%B8%A8.112

http://www.formumandme.com/article.php?a=911

http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=221


บ่นกับตัวเอง..

70 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 12 มิถุนายน 2011 เวลา 11:14 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการประเทศ #
อ่าน: 2167

ของเล่นของผมหนึ่งอย่างคือการถ่ายรูปเมฆ จริงๆผมชอบถ่ายรูปวิถีชนบท มันเป็นการเก็บชีวิตของพี่น้องร่วมชาติ ร่วมโลก ที่สำหรับบางคนคุ้นชิน เหมือนผมที่บ่อยครั้ง เห็น แต่ไม่ได้คิดอะไร แต่ในฐานะที่เราทำงานพัฒนานั้น ผมมักเห็นแล้วเก็บเอามาวิเคราะห์ วิจารณ์ ทั้งในแง่ถกเกียงกับเพื่อนๆ คนข้างกาย และรวมไปถึงบันทึกเป็นบทความ

มันเป็นความสนใจเฉพาะตน ทุกท่านก็มีมุมของตนเอง มีวัตถุประสงค์ เป้าหมายของตนเอง อย่างที่ผมเคยเอามาแสดงในลานหลายครั้ง เช่นผมเห็นคนแก่ในสังคมชนบทลาวที่ไม่มีลูก ความสงสัยคือ เขาอยู่ได้อย่างไร เอาข้าวที่ไหนกินเพราะร่างกายเกินกว่าจะไปทำนาแล้ว เจ็บไข้ได้ป่วยใครจะดูแลเยียวยา เมื่อเราตั้งคำถามแก่ชาวบ้าน เขาก็ตอบว่า ก็คนในชุมชนนั่นแหละช่วยเหลือกัน คนโน้นเอาข้าวมาให้กิน คนนี้เอาเสื้อผ้ามาเผื่อแผ่ คนนั้นเอาหยูกยามาให้ ฯลฯ อือ..แค่นี้ก็นึกย้อนไปถึงชุมชนบ้านเกิดผมสมัยเด็กๆ ที่เห็นและผ่านสภาพสังคมแบบนี้มาแล้ว บางครอบครัวที่ยากจน วัดข้างบ้านยังเผื่อแผ่ เพราะข้าวที่ชาวบ้านตักบาตรใส่ทุกเช้านั้น พระท่านฉันท์ไม่หมด ก็เอาไปผึ่งแดดให้แห้ง “ข้าวสุกแห้ง” นี้สามารถกลับเอาไปหุงกินใหม่ได้ ครอบครัวยากจนหลังวัดก็ได้อานิสงส์นี้

ผมกลับมาขอนแก่น ไปธุระในเมือง แล้วก็มีคนแก่ ตายายเดินมาขอทาน ขอรับบริจาค ปากก็พล่ามบ่นถึงความไม่มี ขอเงินไปซื้ออาหารกิน นี่คือคนแก่ในสังคมเมือง เมืองที่มีความเจริญมากมายทุกด้าน แต่คนแก่ต้องมาขอทาน…. ผมคิดไปต่างๆนาๆ

ความเจริญคืออะไร

ชนบทคืออะไร

สังคมเราเดินไปทางไหนกัน

เทศบาลทุ่มเงินก้อนโตพัฒนาทีมฟุตบอลจังหวัด

นักการเมืองเสนอพัฒนาสนามบินเป็นนานาชาติ ที่ยิ่งใหญ่

นักบริหารบ้านเมืองเสนอสร้างสิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อคาดหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ความเจริญหล่อหลอมจิตใจคนไปในทิศทางใด..

การมีส่วนร่วม ที่เป็นประโยคให้ใครต่อใครกล่าวถึงกันนั้น เอาส่วนไหนมาร่วมบ้างเล่า..

ผมบ่นกับตัวเองน่ะ…



Main: 0.040127992630005 sec
Sidebar: 0.067984104156494 sec