การผ่านแดนไทย-ลาวหลายๆครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ผมสังเกตมีสิ่งที่ต่างไปจากความคุ้นเคยปกติหลายประการ ก็เป็นธรรมดาของการเคลื่อนไหวของสังคม และประเทศพี่น้องที่เกี่ยวเนื่องชิดกันมากๆ
ทุกครั้งที่เดินทางผ่านด่านจะเห็นฝรั่งประเภท Back packer ทั้งเข้าและออก ทุกครั้งเห็นสาวๆฝั่งลาวข้ามเข้ามาฝั่งไทย ไม่ได้ซักถามเธอ แต่แอบฟังเธอพูดโทรมือถือกับฝรั่งในเมืองไทยก็พอเดาได้ว่า ข้ามมาหาฝรั่ง ซึ่งอาจจะไม่ใช่สามี แต่เป็นประเภท Matchmaker ซึ่งกฎหมายของลาวนั้นเข้มงวดยิ่งนัก เรื่องเพศ จึงนัดพบกันที่ต่างประเทศ ก็ไทยเรานี่แหละ สังคมไทยที่อาจพูดได้ว่า เปิด ประชาธิปไตย สิทธิส่วนบุคคล แต่สังคมลาวปิด มีกติกาเข้มงวด หนุ่มไทยอย่าไปใช้นิสัยแบบไทยๆในลาวนะครับ ถูกจับติดคุกมามากแล้ว ลองถามอาว์เปลี่ยนซิ


อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นหนาตาในครั้งนี้คือ กลุ่มหนุ่มในรูปนั่นแหละ แรกๆผมก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนลงจากรถและต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ออกเมือง หนุ่มๆเหล่านี้เกาะกลุ่มกัน เมื่อสังเกตมากขึ้นก็พบว่า Passport ของหนุ่มๆเหล่านี้มีคนถืออยู่คนเดียว
ผมเข้าใจทันทีว่าหากเป็นนักท่องเที่ยวต้องมีลักษณะพิเศษ เช่นใส่หมวกเหมือนกันหมด ติดโลโก หรือสัญลักษณ์อะไรสักอย่าง แต่นี่ไม่มี เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากนี่คือ “แรงงานนำเข้า” เพื่อความแน่ใจผมสอบถามพนักงานขับรถระหว่างประเทศก็ได้คำตอบยืนยันว่าใช่ เพราะฤดูนี้ หมดหน้าทำนาแล้ว ต่างก็เข้ามาหางานทำในประเทศไทย มาหาประสบการณ์ในไทย เพราะค่าแรงบ้านเราสูงกว่าบ้านเขามาก
เคยพบหนุ่มลาวสามสี่คนลงไปทำงานถึงมาเลเซีย ลงเรือประมงจับปลาที่มีใต้ก๋งเป็นคนไทย ขึ้นฝั่งทีก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
สอดคล้องกับที่ผมลงชุมชนลาวสอบถามเรื่องวิถีชีวิตที่เรียก Livelihood analysis, Crop calendar, Family profile ก็พบว่า ทำนาไม่พอกินก็ไปขายแรงงาน ฝั่งไทยคือเป้าหมายหลัก เหมือนๆชาวอีสานที่ลงกรุงเทพฯหรือตามแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ


การเคลื่อนไหวของคน ก็คือการเคลื่อนไหวของวัฒนธรรม การเคลื่อนไหวของค่านิยม และอื่นๆอีกมากมาย แน่นอนตัวที่เป็นอิทธิพลใหม่สุดคือค่านิยมต่างๆของระบบทุนนิยม เช่นการแต่งตัว เสื้อผ้า สไตล์ มือถือ การพูดคุย เนื้อหาการพูดคุย อะไรที่วัยรุ่นเมืองไทยนิยมก็แพร่ติดตัวติดหัวเข้าสู่ฝั่งลาวหมดสิ้น
หากกฎ ระเบียบไม่เข้มแข็ง สาวๆนุ่งขาสั้นคงเต็มเมืองลาวไปหมดแล้ว แต่นี่ยังนุ่งผ้าถุงหนาตา อาจจะมีขาสั้นประปรายบ้าง ก็เป็นช่วงเวลาพิเศษ เช่นเช้ามืด ที่เธอมาเดินออกกำลังกายเช้า
ผมจึงชอบ ระเบียบบ้านของเขาจริงๆ….
หลายคนอาจจะแอบคิดว่า จะไปได้สักกี่น้ำ
การเฝ้ามองการเคลื่อนตัวของสังคมอย่างผมสนใจนัก..
นึกย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อนที่มีหนังสือชื่อ Megatrends ของ จอห์น ไนซ์บิตต์ และ แพทริเซีย อเบอร์ดีน เขียนไว้ ตอนหนึ่งกล่าวว่า
สิงค์โปร์ ได้พัฒนาตัวเองจนกลมกลืนเข้ากับสังคมระหว่างประเทศที่เป็นสากลที่สุดในย่านเอเซียอาคเนย์ แต่ขณะนี้กลับพากันรู้สึกถึงการเป็นแบบตะวันตกมากเกินไป ในสายตา ลี กวน ยู แล้ว หนุ่มสาวชาวสิงค์โปร์ได้สูญเสีย “ค่านิยมหลักของเอเซีย” ไปแล้ว และ “สนใจเรื่องส่วนตัวมากกว่าเรื่องของชุมชนส่วนรวม” ทำให้กลายเป็นสังคมตะวันตกเทียม และนั่นคือหายนะ
ดังนั้น รัฐบาล สิงคโปร์จึงรณรงค์ให้มีการพูดภาษาจีนกลางทั่วทั้งเกาะ เพื่อลดความเป็นตะวันตกของสิงคโปร์ลง…….
ย้อนกลับมามองตัวเราบ้าง…มีอะไรให้คิดเยอะเลยครับ