เมฆคลุมเมือง..

1121 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 31 กรกฏาคม 2010 เวลา 22:27 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 9404

 

 

พักผ่อน ก็เอาน้องหมา(ตัวเหม็นๆ)

ไปเดินเล่นที่สถานที่บำบัดน้ำเสียเมืองขอนแก่น

หิ้วกล้องไปด้วย มุมนี้ เห็นเมฆคลุมเมืองขอนแก่น

ก็แค่นั้นแหละ..

ไปทำงานต่อหละ


ฝรั่งบุกลาน

971 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 30 กรกฏาคม 2010 เวลา 21:38 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 11731

ตั้งใจจะห่างๆออกไป เพราะเร่งงานอย่างที่บอก พอดีมีปรากฏการณ์ฝรั่งเข้ามาในลานของผมเลยเอามาบอกกล่าว คิดว่าท่านอื่นๆก็อาจจะพบบ้าง ถือว่าเล่าสู่กันฟังนะครับ

เมื่อ 9 พ.ค. ผมบันทึกชื่อ ประชุมย่อยเฮฮาศาสตร์ ที่สวนป่า ดังตัวอย่างข้างล่าง


แล้วเช้าวันนี้ก็มีฝรั่งชื่อ Hammond Tamika เข้ามา Post ว่า Do you know that it’s high time to get the business loans, which will help you. ดังตัวอย่างข้างล่าง


ใครก็เดาออกว่าเป็นพวกธุรกิจการค้าเข้ามาหาลูกค้า อย่างที่เราๆได้รับตาม อีเมล์ มากมายทุกวันจนเบื่อขยะพวกนี้เต็มทีแล้ว

กรณีนี้ผมเอามาบอกเพื่อนฝูงก่อน แล้วจะเข้าไปลบทิ้งครับ

ไม่มีอะไร เอามาเล่าสู่กันฟังแค่นั้น..ครับ


น้ำโขงแดง..

820 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 29 กรกฏาคม 2010 เวลา 20:55 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 14567

 

ฤดูฝนมาแม่น้ำโขงแดง แม่น้ำไหนๆก็แดง

น้ำโขงในขวดยังแดงเล้ยยย

เกาะกลางแม่น้ำโขงนั้น ลาวเป็นเจ้าของตามแผนที่ของฝรั่งเศส


ความสำเร็จ VS ความสุข

1183 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 28 กรกฏาคม 2010 เวลา 15:53 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 17218

 

 


“แด่..การแสวงหาความสำเร็จ”

ท่าน ติช นัท ฮันท์ กล่าวไว้กินใจดีแท้


คนขายกล้าต้นไม้..

721 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 27 กรกฏาคม 2010 เวลา 23:02 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 13214


ไม่ทันสอบถามว่าพ่อลุงท่านนี้มาจากไหน

หาบกล้าต้นไม้หลายชนิดมาขาย

พอดีมีการประชุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

ลุงจึงวางหาบนั่งพับเพียบยิ้มแป้น เสนอขายกล้าไม้

…เจ้านาย ช่วยซื้อกล้าไม้…แน… กล้านี้ราคายี่สิบบาท

หลายคนยืนมุงดู ซักถามกันไม่กี่คำ

แล้วก็เดินไปทำภารกิจของแต่ละคน

“ในที่ประชุมนั้น เขาพูดกันถึงเรื่องการพัฒนาชนบท”

…??!!!


ฟ้าปิดที่ขอนแก่น

846 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 27 กรกฏาคม 2010 เวลา 11:59 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 14729

 

ขอนแก่น ฟ้าปิด ฝนตกเดี๋ยวหนักเดี๋ยวเบา ตลอดเวลาตั้งแต่เช้า

ฝนแบบนี้จะได้ปริมาณน้ำ และอาจเกิดน้ำหลากได้หากต่อเนื่องไม่หยุด

เฮ่อ.. ได้น้ำได้เนื้อซะที


รายการวิทยุ

1048 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 27 กรกฏาคม 2010 เวลา 10:21 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 35257

นึกถึงสมัยเด็กๆ คุณอาผมซื้อวิทยุมาฟัง โห ใช้ถ่านไฟฉายตรากบเป็นโหล และต้องต่อเสาอากาศบนยอดไม้ เกะกะไปหมด…เด็กสมัยนี้นึกไม่ออกแล้วว่าวิทยุสมัยแรกๆนั้นเป็นเช่นไร วิทยุสมัยนั้นใช้หลอด เมื่อมีทรานซิสเตอร์ เครื่องก็เล็กลงมา ใช้ถ่านเพียง 4-6 ก้อนเท่านั้น หากใครอยู่บ้านนอก ก็ฟังแต่เพลงลูกทุ่ง..และหัดร้องตามกันลั่นทุ่ง เลี้ยงควายไปด้วยร้องกล่อมควายไปด้วย เช่นเพลงของ สุรพล สมบัติเจริญ, ชาย เมืองสิงห์ .. ผมร้องมาก่อน.. เดี๋ยวนี้ไม่เหลือซาก..

พอมาถึงยุคทีวี วิทยุก็ค่อยๆหายไป หรือลดบทบาทลงไปมาก ยิ่งเป็นระบบ AM บางคนลืมไปแล้วว่ามีวิทยุ AM

แต่ปัจจุบันวิทยุกลับมามีอิทธิพลมากขึ้น ยิ่งเมื่อรัฐเปิดโอกาสให้มีวิทยุชุมชน ก็เลยกลายเป็นการเมืองไปแล้ว… คนที่ใช้รถใช้ถนน ได้อาศัยวิทยุมากสักหน่อย ผมเองก็ใช้ฟังข่าวสารต่างๆ ฟังเพลง แต่เบื่อการโฆษณา..มากเกินเหตุ และบางทีมันเกินความจริงไป..

ผมเพิ่งกลับมาจากภาคเหนือ ตลอดการเดินทาง คนนั่งไปด้วยเปิดวิทยุตลอด เพื่อฟังรายการของท้องถิ่น ทั้งโดยตั้งใจและภาคบังคับ ที่ว่าบังคับเพราะ กำลังฟังรายการถูกใจดีดี เมื่อรถวิ่งไปไกลมากขึ้น คลื่นก็เริ่มจางหายไป เราก็ต้องเปลี่ยนสถานีใหม่ และสถานีที่ชัดที่สุดก็เป็นสถานีท้องถิ่นที่รถเรากำลังวิ่งผ่านนั่นแหละ

คนนั่งไปด้วยชอบฟังรายการวิทยุภาคเหนือ ตั้งแต่ อุตรดิตถ์ แพร่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่..ฯ โดยเฉพาะที่แพร่ ผ่านไปกี่ครั้งก็พยายามเปิดช่องท้องถิ่น นอกจากจะฟังภาษาถิ่นที่เป็นภาษาเหนือ หรือ “คำเมือง” รายการก็ถูกใจ ที่คนนั่งไปด้วยชมเปาะก็คือ เป็นรายการที่ อบจ.แพร่มาพูดในรายการวิทยุท้องถิ่นประจำ

ท่านนายกฯอบจ.เล่าให้ฟังถึงแผนงาน งานที่ทำ สิ่งที่ทำไปแล้ว สิ่งที่จะทำ รายละเอียดของแต่ละงาน อุปสรรค ฯลฯ โห เราเป็นประชาชนแพร่เราก็ชอบ เพราะทุกคนจะตามติดได้ว่า ขณะนี้ อบจ.ทำอะไรอยู่..รายละเอียดเป็นเช่นไร เป็นการประชาสัมพันธ์ที่ดีมากๆ

รายการ อบจ.พบประชาชนแบบนี้ไม่มีที่อีสาน

ผ่านไปลำปางลำพูน เชียงใหม่ มีรายการของนักข่าวมาจัดรายการข่าวทั้งท้องถิ่นและของประเทศ แต่เป็นการวิเคราะห์ข่าว และเอาผู้รู้จริงๆมาวิเคราะห์ ฟังแล้วเขามีข้อมูลมากจริงๆ วิเคราะห์เจาะลึกละเอียด ทำให้เราหายโง่ไปเยอะ..

รายการวิเคราะห์ข่าวดีดีแบบนี้ไม่มีที่อีสาน

เพราะไม่เคยได้ยินน่ะครับ

แล้วอีสานมีรายการอะไร… มีแต่เพลง เพลง โฆษณาสินค้า และการเมืองสุดโต่งข้างใดข้างหนึ่ง…

สื่อสารมวลชนเป็นสิ่งสำคัญมากๆต่อสาธารณะ สมัยหนึ่งเราใช้คำว่า มอมเมาประชาชน โฆษณาชวนเชื่อ เพราะการพูดย้ำๆ จะไปสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการจำแก่ผู้ฟัง… ระบบสื่อสารมวลชนเกือบจะไม่มีขอบเขตจำกัด ยิ่งมีผลสองด้านต่อผู้ฟัง หากข่าวสารดีดี ผู้ฟังก็เสพแต่สิ่งดีดี ในทางตรงข้าม หากไม่ดี ก็กลายเป็นการสร้างปัญหา คล้าย Echo effect ปวดหัวตัวร้อนก็ไปซื้อแต่ แอนตาซิล ไปสะท้อนการได้ยินจากการโฆษณา อย่างอื่นไม่รู้จักไปแล้ว…

ท่านผู้เกี่ยวข้องกับการสื่อสารมวลชนโปรดพิจารณาด้วยเถิด ขอรายการดีดีสร้างสรรค์ในรายการวิทยุในภาคอีสานหน่อยเถอะ

สมองจะเน่าอยู่แล้วเพราะฟังแต่น้ำเน่าทุกวัน ทุกวัน…


เมฆฝน..ที่ขอนแก่น

1201 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 26 กรกฏาคม 2010 เวลา 20:16 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 30314

ดูแล้วขอนแก่นน่าจะได้น้ำฝนชุดใหญ่จากเมฆฝนก้อนนี้

แต่ เขาเติมน้ำลงมาแค่ 5 นาทีก็เคลื่อนต่อไปเรื่อยๆจากเหนือลงใต้

ชาวบ้านก็เก้ออีกครั้งหนึ่ง


 


รถอึ่งอ๊อบ..

1027 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 26 กรกฏาคม 2010 เวลา 20:01 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 13778

ขอมอบรถคันนี้ให้น้องอึ่งอ๊อบ

เอาไว้รับสาวๆเจียงใหม่ หละปูน ไปสวนป่า นะ

แซวน้องเล่นวันหยุด


รักต่างสี..

1518 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 25 กรกฏาคม 2010 เวลา 21:51 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 31230

บ่ายวันนั้น ฝนตก ทำให้อากาศเย็นลง

อุ้ยตุ่น ต้องเอาเสื้อแขนยาวมาใส่ ทำให้อบอุ่น

แต่แมว พ่อ แม่ ลูกสามตัวนี่ ไม่มีเสื้อผ้า

ก็มาสุมหัวเบียดกัน เอาลูกเล็กไว้ตรงกลาง

พ่อกับแม่ประกบ

แค่นี้ครอบครัวเราก็อุ่นด้วยกัน

ดูซิ..แม้ต่างสีกัน…

ครอบครัวเรา…..?

สังคมเรา………?

ประเทศชาติเรา……?


เยือนถิ่นเก่า

1039 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 9 กรกฏาคม 2010 เวลา 21:57 ในหมวดหมู่ งานพัฒนาสังคม #
อ่าน: 16396

คราวที่ขึ้นไปเชียงใหม่ทำภารกิจส่วนตัว หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้วพอมีเวลาก็ขับรถไปเยือนถิ่นเก่าสะเมิง ที่เป็นทำงานพัฒนาชนบทครั้งแรก หลังจากเรียนจบก็มุ่งสู่ชนบท ขณะที่เพื่อนๆเข้าป่ากันหมด นั่นมันปี 18 อิอิ


สมัยนั้นถนนเป็นลูกรัง ไม่ราบเรียบ เราต้องใช้มอเตอร์ไซด์วิบาก ขับขี่จากเชียงใหม่ แม่ริมขึ้นยอดเขา ตรงนี้ เราก็จะพักรถ และยืนดู อ.สะเมิงเบื้องหน้าโน้นที่อยู่ในหุบเขา

เนื่องจากเรามีเวลาน้อยจึงพยายามไปไม่เปิดเผยตัวเอง ไม่แวะไปหาใครต่อใครที่เรารู้จัก อยากดูการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่

แทบไม่เหลือคราบไคลสะเมิงในอดีตเลย ทุกอย่างขยับตัวตามสภาพเมือง ไปหมดแล้ว สมัยปี 18 นั้นทั้งอำเภอไม่มีธนาคาร ต้องมาใช้ธนาคารที่ อ.แม่ริม หน้าอำเภอมีร้านอาหารร้านเดียวชื่อป้าเติง สามีท่านเป็นจ่าตำรวจ เราฝากท้องไว้ที่นี่ หรือไม่ก็ชาวบ้าน หรือไม่ก็ทำเองบ้าง

วัดทรายมูล ห่างจากตัวอำเภอสองกิโลเมตร ผมเคยมาจำวัดที่นี่คราวที่บวชแล้วตั้งใจเอาผ้าเหลืองมาให้ญาติโยมในพื้นที่ได้เห็นก่อนที่จะสึกที่วัดเจดีย์หลวง สมัยนั้นวัดทรายมูลเป็นแต่วัดในหมู่บ้านเก่าๆ มีแต่กระต๊อบชาวบ้านที่มีน้ำใจล้นเหลือ

วัดท่าศาลานี่ก็มีความทรงจำลึกซึ้ง เราใช้ระเบียงข้างศาลาวัดเป็นที่ประชุมชาวบ้านสารพัดเรื่อง วันแล้ววันเล่า ทั้งกลางวันกลางคืน โบสถ์หลังที่เห็นแห่งนี้เราก็เคยใช้เป็นที่ประชุมมาก่อน สมัยนั้นหลังคายังเป็นไม้แป้น เมื่อวัดรื้อออกเราขอซื้อเพื่อกะจะเอาไปสร้างบ้าน ชาวบ้านบอกว่า ของวัดทั้งหมดไม่ควรเอาเข้าบ้าน ไม่ว่าจะมีกำลังซื้อหรือถือวิสาสะ หรือขโมยไปก็ดี “มันขึ๊ด”

มีเรื่องราวมากมายที่เรามีกับสถานที่แห่งนี้ นึกถึงแล้วเราก็ต้องน้ำตาคลอเพราะทั้งหมดนั้นคือความผูกพันที่เรามีกับชาวบ้าน มีกับพื้นที่ มีกับท้องถิ่นแถบนี้

สะเมิงคือหุบเขามีที่ดินน้อย อาชีพหลักคือข้าวเพื่อบริโภค กระเทียม หอมแดงและยาสูบ นอกนั้นก็ของป่า สนเกี๊ยะ เปลือกก่อ เปลือกไก๋ สัตว์ป่า ชาวบ้านจำนวนมากปลูกยาสูบส่งโรงบ่ม ยาสูบที่นี่เป็นพันธุ์เวอร์จิเนีย ใบใหญ่ มีพ่อเลี้ยงมาตั้งโรงบ่ม ชาวบ้านหลายคนมีความรู้และชำนาญในการทำเตาบ่ม จึงดัดแปลงความรู้เตาบ่มยาสูบมาเป็นเตาอบกล้วย กลายเป็นกล้วยอบเลิศรส กระต๊อบตรงกลางนั่นคือเตาอบกล้วยของอ้ายสมที่ผมรู้จัดท่านดี เพราะเป็นลูกค้าประจำ วันนี้อ้ายสมแก่มากแล้ววางมือให้ลูกหลานทำต่อ

เลยไปหน่อยเป็นบ้าน “ครูอุด” จำชื่อจริงท่านไม่ได้ ท่านเป็นครูที่มีอายุมากแล้วทำหน้าที่สอนเด็กก่อนวัยเรียนและชั้นประถม ควบ เด็กๆรักท่านมาก เราเองก็เชิดชูท่าน ท่านเป็นครูจริงๆ ยามที่ฝนตกน้ำท่วม ท่านถึงกับเดินมาอุ้มเด็กทีละคน ไปเข้าห้องเรียน ครูมีนิทานเล่ามากมายไม่รู้จบไม่รู้สิ้น เด็กๆชอบนิทานครูมาก ท่านยิ้มแย้มรักเด็ก ชาวบ้านบอกว่าท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว..

กลุ่มแม่บ้านรุ่นใหม่ ยุคใหม่ พัฒนามาเป็นโอท็อป วิสาหกิจชุมชน เข้าสังกัดราชการที่ตระเวนไปขายสินค้าที่กลุ่มแม่บ้านผลิตออกขายสารพัดอย่าง ตระเวนไปทั่วประเทศที่ราชการชัดชวนไป

ก่อนกลับผมย้อนเข้าไปที่ตัวอำเภอร้านค้าเพื่อซื้อกาแฟสมัยใหม่ ผมพบเณรน้อยองค์นี้ ยืนเหนียมอายที่จะสั่งน้ำดื่มสมัยใหม่สีสวยๆเย็นๆ น่าอร่อย ความเป็นเด็กอยากดื่ม จึงตัดสินใจสั่งน้ำดื่ม ตาก็เหลือบมองผมแบบเขินอาย
ผมเดินไปถามว่ามาจากวัดไหน เณรน้อยบอกมาจากสะเมิงเหนือ ห่างออกไปมากกว่า 20 กิโลเส้นทางบนภูเขาเพื่อมาเรียนหนังสือที่อำเภอ และกำลังจะเดินทางกลับ…

ผมบอกกับตัวเองว่าต้องหาเวลาทั้งสัปดาห์มาตระเวนกราบไหว้ผู้เฒ่า ชาวบ้านที่ให้น้ำให้ข้าวให้ที่นอนให้ความรักให้การปกป้องผม ที่นี่คือถิ่นเกิดทางจิตวิญญาณของผมในงานที่ทำ

ที่นี่ สะเมิง…


แอบเขียนถึงลูกสาว..

839 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 9 กรกฏาคม 2010 เวลา 9:47 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 36444

แอบเขียนถึงลูกสาวซะหน่อย


เมื่อวานเธอโทรมาปรึกษาว่า หนึ่ง ได้ข่าวว่า Tesco Lotus จะ takeover คาร์ฟูร์ บริษัทที่เธอทำงานอยู่แผนกขนมปัง สองเธอสอบผ่านเข้าไปเรียน ป.โท ที่มหิดล หลักสูตรนานาชาติได้แล้ว ขอเงินค่าเรียนด้วย อิอิ.. สามเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันที่ขอนแก่นพ่อเขาเป็นอเมริกันชวนไปทำงานเป็นผู้แปลเอกสารและล่าม เธอก็มาปรึกษาว่าเป็นไง…

ประเด็นที่สามนั้น ครอบครัวผมรู้จักกับครอบครัวเพื่อนลูกสาวผมมานานเพราะคุณพ่อเพื่อนลูกเป็นครูสอนภาษาที่ AUA ขอนแก่น แต่งงานกับสาวไทย เรารู้จักกันมาตั้งแต่ยังไม่มีลูกเลย คุยกับลูกสาวผมไปๆมาๆก็ได้เค้าว่า พ่อเขามาจีบลูกสาวเราให้ลูกชายเขา เอ้า…เป็นงั้นไป อิอิ …

ส่วนเรื่องการเรียนนั้นก็บอกว่าเป็นความสนใจของลูกเราก็สนับสนุน แต่เธอต้องทำงานด้วย เรียนด้วยนี่เป็นเงื่อนไข เพราะอยากให้เอาประสบการณ์การทำงานไปแลกเปลี่ยนกับครูกับเพื่อน..เธอยินดี

ส่วนประเด็นแรกนั้น ข่าวบอกว่ายังไม่เป็นที่ตกลงแน่นอน แต่หากเป็นจริงก็เป็นเรื่องปกติ และเขาไม่เอาพนักงานออกทั้งหมดหรอก แค่เปลี่ยนเจ้าของเปลี่ยนผู้บริหารเท่านั้น..

ส่วนตัวผมสนใจอยากให้เธอเรียนทางสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่เมื่อเธอบอกว่าเธอสนใจด้านนี้ก็เอาตามใจผู้เรียน อิอิ..

แต่ เอ…มีลูกสาวคนเดียว ก็ยุ่งเหมือนกันนะมีฝรั่งมาจีบให้ลูกชายเขา เอ้อ..มีแบบนี้ด้วย..ห้า ห้า ห้า


มหาวิทยาลัยในฝัน

1271 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 8 กรกฏาคม 2010 เวลา 23:15 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 15612

พ่อครูบาท่านมีเมตตาผม กระซิบมหาวิทยาลัยอุบลฯให้เชิญผมเข้าร่วมการอภิปรายเรื่องมหาวิทยาลัยในฝัน: มหาวิทยาลัยของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน ผมเองก็กริ่งเกรงในสถานที่เพราะข้าน้อยคนทำงานชนบทเล็กๆ(แต่ตัวใหญ่) พูดอะไรไปจะมีใครฟังหรือ..

ผมมองตัวเองว่า เราเสมือนแม่ครัว ที่เอาสูตรอาหารจานเด็ดทั้งหลายมาปรุงให้ถูกปากถูกคอประชาชนในพื้นที่ สูตรอาหารทั้งหลายจะไม่อร่อยเลยหากคนปรุงไม่ได้เรื่อง ไม่มีศิลปะเสน่ห์ปลายจวัก เพราะเราเป็นผู้ที่เอาหลักการต่างๆของการพัฒนาลงมาปฏิบัติจริงกับมือ..

มหาวิทยาลัยในฝัน: มหาวิทยาลัยของประชาชน นั้นช่างเป็นความฝันที่สุดเลิศประเสริฐศรี หากเป็นไปตามคำที่เขียน คือ..ของประชาชนจริงๆ ส่วนที่ต่อมาคือ โดยประชาชน เพื่อประชาชนนั้น ผมตั้งประเด็นย้อนไปถามมหาวิทยาลัยว่า ประชาชนคือใคร….?


มหาวิทยาลัยคิดเรื่องนี้อย่างไร.. ประชาชนที่ปัตตานีใช่ไหม หรือประชาชนที่แม่สายเชียงราย หรือที่แม่สอด ตากโน้น.. แม้ว่าในทางหลักการประชาชนทุกภูมิภาคมีสิทธิในการสมัครเข้ามาเรียนที่นี่ แต่ความเข้าใจส่วนตัวนั้นน่าจะเน้นหนักที่ประชาชนในภูมิภาคอีสาน

ถ้าเช่นนั้น มหาวิทยาลัยแห่งนี้รู้จักประชาชนในพื้นที่นี้แค่ไหน มีใครอยู่ตรงนี้บ้าง เช่น ไทยอีสาน ผู้ไท ย้อ กะเลิง โส้ แสก บรู บน เขมร ส่วย ราษฎรไทยเชื้อสายเวียต เชื้อสายเขมร เชื้อสายลาว แรงงานอพยพหลายชาติ กลุ่มเขยฝรั่ง…ฯ หากตั้งประเด็นว่ามหาวิทยาลัยของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน นั้น เรารู้จักเขาดีแค่ไหน เราจะมีเวทีให้ชนเหล่านั้นเข้ามาอ้างความเป็นเจ้าของได้อย่างไร..ฯ เหล่านี้ก็เป็นประเด็น…

แต่ละชนเผ่ามีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน อยู่ในภูมินิเวศเกษตรวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ผมเชื่อว่าคณาจารย์จำนวนไม่น้อยเข้าใจ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยยังไม่เข้าใจ ถ้าเช่นนั้นมหาวิทยาลัยต้องลงไปท้องถิ่น ชุมชน หมู่บ้าน เพื่อเข้าใจ เข้าถึง แล้วจะทำวิจัยอะไรก็มีเรื่องมากมายทุกสาขาวิชาที่มหาวิทยาลัยมีบุคลากรอยู่

การลงไปเรียนรู้ชุมชนนั้นทำได้หลายรูปแบบ เช่น แบบมหาวิทยาลัยเคลื่อนที่ ทำแบบ Mobile Unit หากจะลึกซึ้งเฉพาะเรื่องเฉพาะด้านก็ทำแบบ Community dialogue ไม่รู้ทำอย่างไรก็เชิญท่านจอมป่วนไปคุย เชิญท่านไร้กรอบไปแนะนำก็ย่อมได้ หรือไปทำโครงการเล็กๆ แบบ action research หรือแค่ไปเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชน ไปคุยกันเป็นพักๆ ก็ได้ประเด็นเรื่องราวมากมาย… ยังมีวิธีต่างๆอีก แม้แค่ไปเยี่ยมเยือนท่องเที่ยวแบบเอาประเด็นก็ล้นกระเป๋ากลับมาแล้ว


เมื่อทำได้เช่นนี้ คณาจารย์ก็รู้จักท้องถิ่น ชาวบ้านก็รู้จักมหาวิทยาลัย แล้วการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันก็เกิดขึ้น แล้วทุกอย่างก็ตามมา ก็จะเป็นมหาวิทยาลัยติดดิน ติดท้องถิ่น วิชาการทุกสาขามุ่งมาตอบสนองท้องถิ่นจากกข้อมูลที่ได้มาด้วยกระบวนการดังกล่าว ไปฟังเสียงชาวบ้าน และหากเสียงชาวบ้านมีความหมาย มหาวิทยาลัยตอบสนองท้องถิ่น นี่แหละคือมหาวิทยาลัยของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

จริงๆ มหาวิทยาลัยมีบทบาทมากกว่านี้มากนัก นี่เป็นเพียงมุมหนึ่งกับชนบท ที่เป็นเรื่องท้องถิ่น..


เจ้าดารารัศมี..

1103 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 4 กรกฏาคม 2010 เวลา 7:03 ในหมวดหมู่ การบริหารจัดการประเทศ #
อ่าน: 16692

บ่อยมากที่ขึ้นเชียงใหม่ต้องแวบกราบท่านผู้เป็นเจ้าของวังแห่งนี้

อยู่ที่ค่าย ตชด. อ.แม่ริมครับ

ใครไปเชียงใหม่ หาโอกาสไปแวะน่ะครับ

ที่คือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ภาคเหนือ ประวัติศาสตร์ไทย

วังดาราภิรมย์ ของเจ้าดารารัศมี พระชายารัชการที่ 5


น้ำล้างตีน..

1191 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 3 กรกฏาคม 2010 เวลา 0:45 ในหมวดหมู่ ทุนสังคม, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 43865

ขออนุญาตใช้คำตรงๆนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ผมอยากบันทึกไว้ ให้ปรากฏว่ามีเรื่องราวในชีวิตของตนที่เกี่ยวข้องกับน้ำล้างตีน


รูปที่เห็นนี้ ผมถ่ายจากที่ดินของผมที่โป่งแยง อ.แม่ริม เชียงใหม่ นี่คือเรื่องที่ผมขึ้นมาทำธุระส่วนตัวพร้อมกับการร่วมศึกษาดูงานของทีมงานคนข้างกาย

ที่ดินแห่งนี้ผมอนุญาตให้ลูกเจ้าของที่ดินเดิมปลูกผักปลูกพืชขายเลี้ยงครอบครัว โดยไว้เนื้อเชื่อใจกัน เพราะแม่อุ้ยปุ่นนั้นผมเคารพนับถือท่านมาก คบกันมานาน ตั้งแต่สามีอุ้ยยังมีชีวิตอยู่ ผมก็จ้างให้เฝ้าสวนจนแกกินเหล้าหนักจนเสียชีวิตไปเลย ผมเสียภาษีที่ดินทุกปี และขึ้นมาดู ปีละครั้งสองครั้งตามโอกาส


แล้วก็มีเรื่องหวาดเสียวที่ลูกสาวอุ้ยปุ่นทำการหย่ากับสามี(คนที่สอง) แล้วผมได้ข่าวไม่ค่อยดีกับสามีลูกสาวอุ้ยที่คิดไม่ดีกับที่ดินผืนนี้ จึงรีบขึ้นมาจัดการเสียให้เรียบร้อย

น้องวรรณคนซ้ายมือ เป็นคนที่ผมเอ่ยถึง อุ้ยปุ่นอายุ 82 แล้วยังแข็งแรงเดินเหินไปไหนต่อไหนได้ น้องวรรณเล่าให้ฟังว่า อดีตสามีคนนี้คิดไม่ดีหวังจะหุบที่ดินผม แต่อุ้ยปุ่นต่อต้านว่าไม่ได้ ที่ดินนี้เป็นของผม และให้ลูกสาวอุ้ยทำกินเฉยๆ เรามีใจถึงกัน เคารพนับถือกัน ไปทำเช่นนั้นไม่ได้ แต่ก็ไปขัดใจลูกเขยที่มีเบื้องหลังไม่ดี… แล้วสามีก็มีเรื่องทะเลาะกันกับน้องวรรณอย่างรุนแรงถึงกับลงไม้ลงมือ ในที่สุดก็หย่าขาดจากกัน เพราะอุ้ยปุ่นยืนคำขาดว่าจะรักแม่หรือจะรักสามีคนนี้ น้องวรรณเลือกเอาแม่..

สำหรับน้องวรรณนั้น แม่หรืออุ้ยปุ่นนั้นคือที่สุด แล้วน้องวรรณก็ไปเอาอ่างมาเอาน้ำใส่ เอาส้มป่อยใส่ เอาดอกไม้ใส่แล้วให้อุ้ยปุ่นนั่งลงเอาเท้าหย่อนลงในอ่างนั้น น้องวรรณเล่าว่าเธอเอามือล้างเท้าแม่ พร้อมทั้งขอขมาลาโทษต่างๆนาๆที่ทำผิดไปบ้าง ไปยอมเชื่ออดีตสามีไปบ้าง ไม่ฟังแม่บ้าง.. อุ้ยปุ่นก็พุดให้อภัยลูก ตักเตือนลูกให้เป็นคนดี อยู่ในศีลในธรรม ยึดมั่นประเพณี…

แล้วน้องวรรณก็เอาน้ำล้างเท้าแม่มาผสมน้ำที่เตรียมไว้แล้วทำพิธีอาบน้ำ ทั่วหัว ทั่วตัว ด้วยน้ำล้างเท่าของแม่นั้น….


นี่คือที่สุดของที่สุดของคุณค่าของความเป็นคนที่แสดงออกต่อกัน ผมฟังน้องวรรณเล่าต่อหน้าอุ้ยปุ่นแล้วก็พูดอะไรไม่ออก… ตื้นตันใจเป็นที่สุด

ผมกราบอุ้ยปุ่น เหมือนทุกครั้งที่ผมขึ้นไปพบท่าน หากไม่ได้ท่านที่ดินของผมก็คงมีปัญหาหนักอกแสลงใจ แล้วผมก็ขอทำหลักฐานให้ถูกต้องตามกระบวนวิธีที่ควรทำ..พร้อมอนุญาตให้น้องวรรณปลูกพืชผักไปขายเลี้ยงครอบครัวต่อไป..

ผมนั้นเคยพกเอาฟันของคุณย่าที่เสียชีวิตไปนานแล้ว และชายผ้านุ่งของแม่เอาไว้เป็นเครื่องรางของคนโบราณ แต่ไม่เคยคิดว่า ที่บ้านโป่งแยงนี้จะมีพิธีกรรมสุดจะบรรยาย โดยเอาน้ำล้างตีนแม่มาลดลงหัว เพื่อไล่เสนียด จัญไรต่างๆที่เข้ามาในชีวิต และขอมาลาโทษต่อแม่ที่ทำบางอย่างพลาดพลั้งไปบ้าง..

ผมนึกย้อนไปถึงแม่ตัวเอง ที่กำลังป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล หากมีใครถามผมว่าทำเช่นน้องวรรณได้ไหม ผมตอบได้โดยไม่ลังเลเลยว่า ผมทำได้ และทุกคนก็คงคิดอย่างผม

เพราะแม่ก็คือที่สุดของลูกๆอยู่แล้ว



Main: 0.056733846664429 sec
Sidebar: 0.070340156555176 sec