“ชิบ” นี้ใครฝัง
อ่าน: 2032วันนี้ให้เวลาตัวเองกับการเปิดอ่านบันทึกเก่าๆที่เขียนไว้ ด้วยความรู้สึกว่ามีตะกอนเปื้อนใจ อ่านแล้วก็ซึ้งขึ้นอีกระดับหนึ่งว่า เมื่อไรที่ไม่มีเวลาอยู่กับตัวเองโดยลำพังเลยนั้น เมื่อนั้นคนสามารถตกเป็นทาสความคิดได้โดยง่าย
ความเป็นทาสความคิดเป็นที่มาของการเกิดอารมณ์ เสียงแรกที่ได้ยินในหัวคนเกิดจากความคิดมาทำตัวเป็นนายนี่เอง
เมื่อเสียงที่ได้ิยินเป็นบวก จินตนาการจะเป็นบวก พลังแห่งความเบิกบานจะเกิดขึ้น พฤติกรรมคนจะเป็นบวก
เมื่อเสียงที่ได้ิยินเป็นลบ จินตนาการจะเป็นลบ พลังแห่งความเบิกบานกลับหดหาย ความเครียดเข้ามาแทนที่ พฤติกรรมคนจะเป็นลบ
ความคิดที่ฝังชิบไว้ในหัวคน นี่เองที่ทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆนาๆ
วันนี้ภาพนี้ได้ช่วยให้เข้าใจเสียงแรกที่ได้ิยินขึ้นมาอีกระดับ เข้าใจพัฒนาการทางอารมณ์ของผู้คนขึ้นมาอีกระดับ
ที่แท้ความคิดนี่แหละคือ “อคติ” ความคิดนี่แหละที่สร้าง “ความจำ” ขึ้นมา ความจำนี่แหละที่สร้าง “ตัวตน” ขึ้นมา ตัวตนนี่แหละที่สร้าง “ความเชื่อ” ขึ้นมา
ที่แท้ ความเชื่อ ก็เป็น ความคิดเก่า ที่ถูกนำมาใช้ใหม่ (reuse) ซ้ำๆ
ในรอบใหม่ที่ความคิดเก่ากลับมาเป็นนายใหม่ เสียงแรกที่ได้ยิน จึงเป็น ความเชื่อทั้งดุ้น มิน่า “สุนทรียสนทนา” จึงให้ความสำคัญกับเสียงแรกที่ได้ยิน
ต่อไปนี้อย่าลืมความสำคัญของเสียงแรกในหัวตนซะนะ ได้ิยินให้ทันไว้จะได้เตือนตนให้ฟังไว้
ฟังแล้วก็ไม่ใจร้อน ผลีผลามรับชิบฝังไว้ ให้หน่วงช้าไว้เพียง “รู้” ให้เวลากับการตอบคำถาม “อคติ” หรือเปล่า เพื่อให้ชิบที่รับไว้ “ไร้อคติ” ความเชื่อจะได้ไม่พาให้ “จนใจ”
อยากขอบคุณประสบการณ์ในรอบสัปดาห์นี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ให้บทเรียนสะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมที่แสดงออกของผู้คนเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่าง “อคติ” ในตน กับ “อคติ” ในตัวคู่สัมพันธ์
ความเบียดเบียนตนและเบียดเบียนอีกฝ่ายของคู่สัมพันธ์ เกิดจาก “อคติเพราะลำเอียง”
ความลำเอียงที่สำคัญ เกิดเพราะ “ความรักตัวเอง” ของทั้ง ๒ ฝ่าย
เข้าใจเพิ่มอีกระดับ ว่า ศีล ๕ เป็นเครื่องมือที่ใช้ละ “อคติเพราะรักตัวเอง”
เห็นแล้วว่า ถ้าไม่เฝ้าเพื่อระวัง ก็ไม่ให้เวลากับตัวเอง เมื่อไรเผลอไม่ให้เวลา เมื่อนั้น อคติ จะเข้าครองตน
การเฝ้าเพื่อระวังนี้จะมีผลรู้ทัน “อคติ” ได้ก็มีแต่การดำรงอยู่กับปัจจุบันด้วยสติ เท่านั้นเอง
เข้าใจเรื่องที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ สอนเรื่องต้อนรับอารมณ์แล้วหละ…..สาธุ
บันทึกอื่น :
๑. คิดอะไรนี่
๖. ก่อนที่ฝนจะหล่อเลี้ยงให้ใจชุ่มชื่น
๗. ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร จะรู้ไปทำไม
« « Prev : ตามลม(๑๙): จะลดคาร์บอนไดออกไซด์…ต้องใช้หินปูนด้วยรึ
2 ความคิดเห็น
ไม่รู้ใครฝัง รู้แต่ว่าคนไทยทำ…..หาย อิอิ
ที่สำคัญ ได้ชิปมาแล้ว ทำหายไปอีกนะซิพี่ ตรงนี้สำคัญเหมือนกัน
ขอต้อนรับรุ่นน้อง สสสส.๓ ผ่านลานนี่แหละนะคะ ไม่ได้ไปร่วมรับน้องด้วยค่ะ….อิอิ