เยือนน่าน (๕)

โดย สาวตา เมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 เวลา 23:50 ในหมวดหมู่ เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1638

เมื่อยังเป็นเด็ก จะมีเรื่องเล่าประทับใจกับมนุษย์อยู่ป่าที่เข้ามาอยู่เมืองอยู่ 2 เรื่อง เรื่องหนึ่ง คือ ทาร์ซาน เป็นเรื่องที่มีจุดเด่นด้านความกล้าหาญที่ป่าสอน ทักษะชีวิตที่ป่ามอบให้ เมื่อเข้าไปอยู่เมือง ทักษะเหล่านี้ก็ส่งเสริมให้ยิ่งเห็นคุณค่าของป่า รับรู้ความรักป่าที่ซ่อนอยู่ในจิตวิญญาณของตน  เมื่อมีข่าวว่าวัฒนธรรมแห่งป่าถูกรุกราน มนุษย์ผู้ห้าวหาญผู้นี้ก็จะพาตัวกลับไปปกป้องทันควัน  บางครั้งการพาตัวไปปกป้องก็ทำให้พลาด บางครั้งก็เป็นฮีโร่ของสัตว์ป่า

แม้จะอยู่ป่าก็ไม่ไร้ทักษะทางสังคม  สัตว์ทุกตัวในป่าคือเพื่อน สังคมที่เติิบโตด้วยสัญชาตญาณป่ากลับเต็มไปด้วยอุ่นไอรัก  และแน่นอนสัญชาตญาณแห่งความระแวงภัยก็ถูกหล่อหลอมไว้รักษาตัวพร้อมไปด้วย

อีกเรื่อง คือ เรื่อง เมาคลี ลูกหมาป่า  ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของการเรียนรู้การปรับตัวให้สามารถกลับมาอยู่เมืองได้หลังจากเติบโตในป่า  กว่าที่เมาคลีจะเป็นมนุษย์เมืองเต็มตัว ก็ต้องฝึกตน ฝึกความอดทนมากมาย

วันรุ่งขึ้นที่ได้พบเจอนิสิต  รู้สึกว่าได้สัมผัสสัญชาตญาณอย่างหลังในวงโสเหล่ที่พวกเราจัดให้มี  จึงเอ่ยชวนให้ฝึกความกล้าหาญ บอกเล่าความระแวงภัยที่ซ่อนอยู่ออกมา  ความในใจจึงหลุดออกมาเป็นคำถามว่า จะสามารถจัดการและก้าวข้ามความกลัวของตนไปได้อย่างไร

ทั้ง 3 กลุ่มที่หมุนวนมาถูกพวกเราชวนฝึกความกล้าหาญ ฝึกง่ายๆ ด้วยการชวนเล่าความคิดคำนึงต่อตนเองออกมาดังๆนี่แหละ  มีนิสิตที่กล้าเอ่ยปากพูดคนสองคนต่อกลุ่ม  ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อหละว่าภายใน 1-2ปีที่ผ่าน ความกล้าในการพูดคุยกับคนแปลกหน้าของเด็กหดหายไป ที่จริงนิสิตได้พบกับคนแปลกหน้าอยู่บ่อยๆ คนเหล่านั้นพาตัวมาพบปะในรูปของวิทยาจารณ์อาสา จึงน่าที่จะคุ้นเคยกับการสร้างสัมพันธภาพมิใช่หรือ  ตรงนี้ทำให้เฉลียว ที่นี่เด็กพบอาจารย์ผ่านจอ หรือว่าที่ไม่ได้เจอคณาจารย์ตัวเป็นๆ อาจารย์ไม่ได้ใช้ชีวิตร่วม อยู่ห่างเกินไป พบกันแค่แป๊บๆอาจารย์ก็หายไป ทักษะดีๆของเด็กจึงหดหายไป

ภาคเช้าจบลงก็ตั้งวงโจ้ข้าวมันไก่รสอร่อย ไก่นุ่มลิ้น บรรจุแบบข้าวกล่อง มีนิสิตมานั่งร่วมโต๊ะ 2 คน คนหนึ่งหัวแดง อีกคนหัวหยิก ทั้งคู่ผิวดำเป็นเหนี่ยง คุยไปด้วยกินไปด้วย จึงรู้้ว่าเด็กๆอยู่หอ ใช้มอร์เตอร์ไซด์เป็นพาหนะ มีอิสระในการพาตัวเองสัญจรไปในที่ที่ปรารถนา มีกติกาแค่เอ่ยบอกลาอาจารย์ก็ไปได้  ให้เวลาตัวเองกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านไม่บ่อยนัก แต่ก็ไป  รู้สึกว่า อืม แม้ว่าอีหนูจะหัวแดงก็ลุยอยู่นะ เวลาสั้นไปจึงไม่รู้ว่าเป็นขาลุยด้านไหนบ้าง

ภาคบ่ายให้คิวพี่บ่าวแฮนดี้แบ่งปันวิธีประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางไกลสร้างสัมพันธภาพ เมื่อเสียงพี่บู๊ดดังเข้ามาในห้อง นิสิตเงียบฟังอย่างตั้งใจ  ให้เวลากับพี่บ่าวแบ่งปันยาว ก่อนส่งไมค์ต่อให้พ่อครู นิสิตที่ผูกพันกับบ้านเกิดก็เปิดม่านแสดงตัว  มีอีหนูคนหนึ่งฝีมือจัดเจนกับการใช้เสียงเร้าพลังผู้คน เธอส่งเสียงพากษ์การแข่งเรือให้ฟัง เสียงเร้าใจมาก

พ่อครูรับไมค์แล้วก็โยนโจทย์ ใครอยากถามอะไรถามมา รออยู่เป็นครู่จึงมีคำถาม จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสพัฒนาที่หลุดมาในคำถาม บอกให้รู้ว่านิสิตได้รับการฝึกฝนให้เรียนรู้การจัดการเชิงกลยุทธ  มีการฝึกให้คิดวิเคราะห์  พ่อครูเจ๋ง ตอบแบบชาวบ้าน แต่ตรงประเด็นครบด้าน ไม่รู้ว่านิสิตเก็บประเด็นได้หมดมั๊ย

คำถามต่อมาจำไมไ่ด้แล้ว จำได้แต่มีนิสิตถามน้อยคน อืม ความกล้าหาญของเด็กๆหายไปไหน หรือว่าเด็กไม่มีประสบการณ์ภาคสนาม หรือว่าเ็ด็กๆเกร็งกันเอง ถ้าเป็นอย่างหลังก็น่าห่วง จบกันไปแล้ว จะช่วยกันดูแลน่าน เป็นเครือข่ายกันยังไง ถ้าเป็นอย่างแรกยังพอแก้ ปีเดียวสำหรับนิสิตปี 3 ยังพอลุ้นเติมเต็มบทเรียนภาคสนาม

เมื่อการแบ่งปันจบลง อาจารย์ไก่ได้กล่าวขอบคุณพวกเรา นิสิตมอบเกลือน่านไว้ต่างหน้า แล้วเสียงเพลงนี้ก็ดังขึ้น…..น้ำใจน้องพี่สีชมพู………..แทนคำขอบคุณจากนิสิต

มื้อเย็นมีอาหารเตรียมให้แล้ว ดร.ฝนใช้เวลากับการจัดการโหลดรูปกับครูสุอยู่พักใหญ่ ทำงานชนิดว่าลืมไปเลยว่าตัวเองจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ชะตาจึงหนีไม่พ้นการกินข้าวแบบทอดกลืนๆและรีบร้อนแบบไม่ลนลาน  รีรอแบบไม่ลีลากับการรอเปลี่ยนผู้อาสานำส่งสู่สถานีขนส่งจนสะเด็ดน้ำ

ก่อนจะกินข้าวเย็น ได้นั่งรถหกล้อชมทิวทัศน์มหาวิทยาลัย บรรยากาศยามเย็นน่าอยู่ ชีวิตนิสิตที่นี่สุขสบาย เพียบพร้อมยิ่งกว่าแพทย์จบใหม่ที่ต้องไปทำงานในชนบทซะอีก อย่างนี้จะลุยไหวมั๊ยเมื่อคืนถิ่นสู่ครอบครัว น่าติดตาม

ระหว่างทางแวะเยี่ยมหมูหลุมที่ไม่มีหลุมให้เห็นแล้ว เพราะหลุมเต็ม  เจอวัวตัวหนึ่งอยู่ในทุ่ง พอเห็นคนกลุ่มใหญ่มา มันก็รี่เข้ามาหาแบบเคยคุ้น ความเชื่องและการเดินตรงรี่เข้ามาหาแบบชวนเล่นบอกว่าคนที่มันเจอได้มอบความรักให้มันอยู่เรื่อยๆ และเล่นกับมันแบบเพื่อน แอบคิดไปว่าบรรดานิสิตที่พักอยู่ที่นี่นั่นแหละที่มาเล่นกับมัน

« « Prev : เยือนน่าน (๔)

Next : เยือนน่าน (๖) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.36912894248962 sec
Sidebar: 0.33947420120239 sec