คิดอะไรเนี่ย

โดย สาวตา เมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 22:57 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, วงแม่พิมพ์, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1170

วันนี้เป็นวันที่มีแขกมาให้ได้บริหารสมองอยู่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มพยาบาลซึ่งเป็นตัวแทนจากสภาการพยาบาล ที่ยกขบวนกันมาประเมินมาตรฐานทางการพยาบาล กลุ่มนี้ดีหน่อยที่ขอเวลาแค่ให้ไปกินข้าวคุยด้วย กลุ่มหลังเป็นคุณครูที่ดูแลเด็กปฐมวัย เล่าแล้วนึกคงนึกภาพว่า คุณครูจะมากันหลายคนเนอะ แต่ว่าความจริงมาแค่คนเดียวค่ะ แต่ที่เรียกว่ากลุ่มก็เพราะว่า คุณครูเป็นตัวแทนนำเอาเรื่องราวของครูอีกจำนวนหนึ่งมาแลกเปลี่ยนกันค่ะ

เรื่องของเรื่องคือว่า โรงเรียนได้รับงบประมาณมาก้อนหนึ่งให้จัดกิจกรรมพัฒนาความรู้พ่อแม่ คุณครูมาหาก็เพื่อจะเชิญให้ไปเป็นวิทยากรให้พ่อแม่ค่ะ เหตุผลที่บอกว่าเลือกเชิญหมอด้วยคาดในใจไว้ว่า พ่อแม่เชื่อถือหมอมากกว่าครู คุณครูเลยโดนฉันสวนตรงไปว่า ครูเข้าใจผิดแล้วที่ดูถูกตัวเองว่า รู้สู้หมอไม่ได้ ถ้าคิดอย่างนี้แย่ค่ะแย่เลย พูดไปแล้วรู้สึกตัวว่าอัดครูเข้าไปแล้ว ไม่ได้ขอโทษอะไรไปหรอกนะค่ะ เพียงแต่เมื่อรู้ตัวเองว่าบังอาจมากไปซะแล้ว ก็ปรับคำพูดซะใหม่ที่จะออกความเห็นให้ฟังนิ่มนวลขึ้น


ครูเล่าว่าก่อนมาพบกัน ครูต้องเตรียมตัวเรื่องข้อมูลมาหลากหลายค่ะ ด้วยเดาว่าอาจจะต้องให้คำอธิบายเรื่องราวที่ทำให้มาเชิญ ในตอนแรกที่ฟังฉันนึกไปว่า เป็นเพราะกิตติศัพท์ฉันมั๊งที่ทำให้คุณครูต้องเตรียมตัวอย่างนี้ ก็กิตติศัพท์ที่ว่าคือ ฉันเป็นลูกอีช่างซักอ่ะค่ะ ซักซะจนน้องๆพยาบาลกลัวไม่กล้าเข้าใกล้มากนักเวลาทำงานด้วย

ความกลัวนี่นะมันหลอกคนให้สาบคนอื่นให้กลายร่างได้นะนี่ ลูกชายมาเล่าว่าไปเล่นกีฬากับกลุ่มพยาบาลทีไร ถ้านึกสนุก อีตอนที่เขามารับลูกชายที่บ้านแล้วบอกว่า แม่นั่งทำงานอยู่หน้าบ้านน่ะนี่ อีตอนนี้คนมารับจะทำคอย่นแล้วแอบย่องเบาๆไม่ให้ฉันเห็น และจะเร่งให้รีบขึ้นรถและรีบขับออกไปเร็วๆจนลูกชายเขานึกขำ

ด้วยความฉงนทำไม๊ทำไมพยาบาลจึงกลัวฉันกันนัก ลูกชายมาถามฉันว่า แม่ดุมากหรือเวลาอยู่โรงพยาบาลน่ะ เห็นใครๆเขากลัวนักเมื่อคุยถึงแม่น่ะ ฉันได้แต่ตอบว่า ไม่หรอก แต่อาจจะมีบ้างที่พูดเสียงดัง ส่วนใหญ่ที่เขากลัวน่ะเป็นอีตอนโดนซักเกี่ยวกับงานการที่ทำ ซักแล้วมักตอบไม่ได้ อีนี่ละมั๊งที่ทำให้เขากลัวนะ ลูกชายฟังแล้ว อ๋อ! ที่แท้ยังงี้นี่เอง เราวิเคราะห์สรุปกันได้คำตอบว่า ที่แท้เขากลัวตัวเองอาย ที่ไม่รู้” นี่เอง

ไม่รู้ก็คือไม่รู้ ถ้าไม่เรียนเพื่อให้รู้แล้วจะรู้มั๊ยค่ะ ไม่อยากอายใครก็ปรับตัวให้กล้ายอมรับซิค่ะว่า “ไม่รู้” จะได้มีโอกาสเรียนไง แล้วส่วนใหญ่เมื่อไม่รู้ ฉันก็จะสอนทุกทีไปนะค่ะ ไม่เคยเอ็ดเคยว่าแล้วทำไมต้องกลัว ที่น่าหัวร่อก็คือที่แท้ก็กลัวตัวเอง ช่างแปลกคนจริงๆ

« « Prev : ช่วงเวลาที่มีความหมาย

Next : เพี้ยนเกินไปซะแล้วมั๊ง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 20:34

    ตั้งแต่พี่หมอเจ๊แนะนำให้มองตัวเอง รู้สึกกลัวตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน เพราะบางทีเราเครียดเกินไปจนลูกน้องกลัว แต่ลูกน้องก็รู้ว่างานเป็นงาน เล่นเป็นเล่น พาลูกน้องเที่ยว พา,กน้องกินข้าว แต่พอถึงเวลาทำงานมันไม่ทำ 555 เลยต้องเล่นงิ้วให้ลุกน้องดู อิอิ

  • #2 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 21:05

    มองบ่อยเถอะจะดี ที่เล่นงิ้วบ่อยๆจะลดไปโขเลยแหละ แล้วก็เครียดน้อยลงเยอะเลย สบายตัวเป็นกอง
    ใหม่ก็อย่างนี้แหละ กลัวสูญเสียฟอร์มเดิมของเรา
    รับรองไม่มีเสีย มีแต่ได้ คนรักเราขึ้นอีกจมเลยแหละ แล้วก็กล้าบอกตรงๆให้เราเข้าใจเรื่องราวเพื่อแก้ปัญหาได้ตรง
    อีกอย่างที่อาจจะเจอ เล่าไว้เลยนะค่ะตรงนี้ จะพบ “คนขี้ร้อง(ขี้แย)” มากขึ้น

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 21:18

    ดุก็คือดุ ขี้บ่นก็คือขี้บ่น …….

    ใครจะมาปรึกษาหมอเจ๊ กรุณานำหมวกกันน็อคมาด้วย อิอิ

  • #4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 22:16

    ฮ่าๆๆๆ ดีเลยช่วยประกาศ เวลามาปรึกษาใครไม่เอาอ้อมกอดมาด้วย โดนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    ไม่ดุ ไม่ดุ แค่ช่างซักเอาจริงแค่นั้นแหละ…..อิอิ
    ไม่ขี้บ่น ไม่ขี้บ่น แค่อยากพูด อยากบอกให้ช่วยฟังหน่อยแค่นั้นแหละ…อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.12738013267517 sec
Sidebar: 0.1415069103241 sec