ช่วงเวลาที่มีความหมาย

โดย สาวตา เมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 1:10 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, วันเกิด, สังคม, เพื่อน, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1466

ปลายสัปดาห์ที่เพิ่งผันผ่าน ฉันเป็นบ้านนอกเข้ากรุงอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ต่างกับทุกครั้งที่เข้าไปเมืองกรุงตรงที่ ตั้งใจอยู่นานหลายวันหน่อยเพื่อจะได้เจอะเจอกับเพื่อนฝูงทั้งเก่า กลางเก่ากลางใหม่ และใหม่ ลูกชายก็ถามเหมือนกันว่า เอาจริงเรอะ ทุกทีเห็นเสร็จธุระเรื่องราชการแล้วรีบเผ่นทุกที ฉันตอบไปว่า เอาจริงซิ คิดถึงเพื่อนอ่ะ บางคน 20 กว่าปีแล้วไม่เจอกันเลย

ที่ตั้งใจนี่กระแสจิตคงจะแรง เพราะก่อนจะเดินทาง 3 วันก็มีเสียงกริ๊งมาหาในตอนค่ำคืนจากเพื่อนรักคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เจอกันกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อเพื่อนรักได้รับรู้เจตนา เธอจึงอาสาที่จะอำนวยที่อยู่ที่พักให้ได้อยู่นานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ชื่นใจซะไม่มีค่ะคุณๆเจ้าขา ที่เธอมีน้ำใจห่วงใยเอื้อเฟื้ออ่ะค่ะ

คำว่าเพื่อน” สำหรับฉันมันจึงมีความหมายนัก มันมิได้มีความหมายเพราะการได้ผลประโยชน์จากเขาเหล่านั้น หากแต่มันมีความหมายเพราะเขาเปิดใจ ให้ใจ และวางใจในตัวฉันเสมอ การกระทำที่ได้หล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน การปิดระยะห่างของความสัมพันธ์ด้วยการให้ใจ วางใจ เปิดใจ และเชื่อใจกัน ผันแปรเป็นรู้ใจ” กันและกัน ทำให้คุณค่าของความเป็นเพื่อน” มีความหมายค่ะ

เพื่อนได้ทำให้ฉันได้เรียนรู้คุณค่าที่ยิ่งเติมค่าความเป็นเพื่อนมากขึ้นไปอีก ความเชื่อใจที่เรามีต่อกันมันส่งผลสะเทือนเชื่อมโยงให้เพื่อนใหม่” เปิดใจต่อกันได้ด้วยอย่างน่าแปลก เพื่อนใหม่ที่ฉันได้พบนี้คือ เพื่อนเขยคนหนึ่งค่ะ เป็นเพื่อนเขยที่รู้จักแต่ชื่อมานานแต่ไม่เคยเจอตัวกันเลย ไม่น่าเชื่อค่ะว่าการสนทนาที่เกิดขึ้น ณ คืนหนึ่งที่ได้เจอกันเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกันจะลื่นไหลราวกับเรารู้จักกันมาเนิ่นนานทั้งๆที่นี้คือ การเจอกันครั้งแรก

ฉันว่ามันแปลกค่ะ ที่หญิงชายซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจะคุยกันได้อย่างเฮฮาอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น บทสนทนาแลกเปลี่ยนเป็นเรื่องเล่าสู่กันฟังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิตค่ะ ฉันได้เล่าเรื่องที่ฉันเข้ามาเขียนบล็อกจนได้เพื่อนกลุ่มกลางเก่ากลางใหม่ชาวบล็อกให้เขาฟังด้วย เขาแปลกใจนะค่ะที่รู้ว่าฉันเขียนบล็อกอ่ะ ฉันจึงประชาสัมพันธ์ให้เขารู้จักทั้ง G2K และลานปัญญาไปพร้อมๆกันซะเลยค่ะ

คุยกันไปกินกันไปจนท้องตึงเลยค่ะ อยู่นานจนได้ช่วยปิดร้านอาหารเหมือนกับที่อัยการชาวเกาะเล่าเรื่องร้านอาหารญวนเลยค่ะ ชื่นใจและสุขใจซะไม่มีกับช่วงเวลาดีๆที่ได้พบเจอกันครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญอีกชิ้นสำหรับเดือนเกิดปีนี้ของฉันค่ะ

ฉันว่าฉันโชคดีกว่าใครๆที่มีเพื่อนแท้” อยู่หลายคนเพื่อนแท้” ทำให้ฉันรู้สึกว่าโลกนี้มีความหมาย แล้วชีวิตนี้ก็มีความหมายค่ะ ความปรารถนาดีที่มีให้กัน และการให้ใจต่อกันโดยบริสุทธิ์ คือ รากที่ทำให้เกิดความหมายที่ฉันเอ่ยถึงอยู่ค่ะ

ฉันว่าเพื่อนแท้จะได้มาไม่ยาก หากเรารู้จักการไว้ใจ ให้ใจ วางใจ ใส่ใจ เชื่อใจคน พร้อมกับการปล่อยวาง และพร้อมกับการให้ด้วยใจค่ะ

« « Prev : ลองตามติดการเรียนรู้และฝึกเรียนรู้ต่อค่ะ

Next : คิดอะไรเนี่ย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

13 ความคิดเห็น

  • #1 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 1:34

    สวัสดีคะหมอเจ๊

    สบายดีไหมคะ คิดถึงนะคะ

    อยากบอกว่า ราณีก็ไม่ได้เจอเพื่อนมานาน คะ 7-8 ปีแล้ว แต่โทรคุยกันตลอดคะ บ่อยมาก เวลาคิดถึงก็โทรเหมือนมีโทรจิตถึงกันไงไม่รู้ เหมือนเขากำลังอยากปรึกษาเรา หรือบางครั้งเราไม่สบายใจ เขาจะโทรมา แปลกนะคะ

    เห็นด้วยคะว่า เพื่อนแท้จะได้มาไม่ยาก หากเรารู้จักการไว้ใจ ให้ใจ วางใจ ใส่ใจ เชื่อใจกัน พร้อมกับการให้ด้วยใจค่ะ ถ้าคิดให้อย่าคิดมาก ให้เพราะเราสบายใจที่จะให้ เท่านั้นจบ อิอิ

    เพื่อนแท้หาซื้อไม่ได้ตามท้องตลาด ต้องใช้ใจแลกใจคะ

    ขอบคุณคะ

  • #2 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 2:23

    สวัสดีค่ะ คาดว่าจะได้เจอที่เมืองกรุงก็ไม่ได้เจอ เลยอดกอดให้หายคิดถึง
    ขอบคุณที่ส่งรูปดีๆไปให้คลายอารมณ์ค่ะ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 6:28

    พอตั้งหลักได้ก็ลุยเขียนจนอ่านแทบไม่ทัน แต่ก็ได้เห็นการเริ่มเรียนที่ลานปัญญากันทุกคน

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 สิงหาคม 2008 เวลา 12:55

    มาใช้สิทธิพาดพิงครับ
    พี่หมอเจ๊ ดูสิ ไปกทม.ทีก็มีคนรู้ใจพาไปกินอาหารญวณ ก่อนหน้านั้นเพื่อนอีกชุดพาไปทานอาหารจีนและร้องเพลง น้ำหนักก็เลยเพิ่มพรวดๆ ทำท่าจะคุมเบาหวานยาก ตอนนี้ก็เลยพยายามงดอาหารเย็นให้มากที่สุด ค่อยยังชั่วขึ้นมาอีกนิด พอผอมลงค่อยเอารูปหล่อๆมาลง จ๊าก….

  • #5 ning.dss ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 0:13

    พี่หมอเจ๊ขา
    หนิงมากราบขอบพระคุณแทนคนอีสานที่จะได้รับเสื้อผ้าของพี่หมอเจ๊คะ อิอิ ตอนนี้ฝากไว้ 814 ก่อนค่ะ
    ขำขำ
    ขำท่านพี่อัยการอ่ะค่ะ …คนแซ่เฮเนี่ย…ทั้งหล่อทั้งสวยเนอะ

  • #6 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 20:56

    หมอเจ๊ก็เหมือนพ่อเลย ตามอ่านไม่ทัน
    เข้าไปอ่านแล้วก็ไม่รู้คุยกับใครอยู่ก็มี
    ลานปัญญานี่ส่งเสริมให้ไร้นามนะพ่อครูนะ

  • #7 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 20:59

    น้องชายเจ้าขา หมอเจ๊อิจฉานะนี่ เข้ากรุงไปเจอเพื่อนบ่อยๆนี่อ่ะ
    ได้พบคนรู้ใจนี่มีความสุขเนอะ
    กำลังจะพลอตเรื่องเพื่อแนะนำวิธีกินไม่ให้อ้วนค่ะ

  • #8 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 21:01

    น้องหนิงจ๋า อย่าลืมส่งข่าวบริษัทขนส่งนะค่ะ พี่จะได้ส่งตรงไปให้ได้ค่ะ พี่ลืมบอกพ่อครูไปว่าก่อน 20 สค.จะเอาไปฝากเพิ่มอีกที่ 814 อะค่ะ

  • #9 คนไกลบ้าน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 21:07

    สวัสดีคะคุณหมอเจ๊
    “เพื่อน”
    ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดถึงเพื่อนคะ

    มาฝากกอดอุ่น ๆ ด้วยหัวใจนะค่ะ

  • #10 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 21:14

    โชคดีนะที่ทันรู้จัก จอมป่วน

    ไม่งั้นชีวิตจะขาดอะไรๆไปหลายอย่าง 555555

  • #11 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 22:05

    #9 เจ้าความคิดถึงกันนี่แหละที่ทำให้สายสัมพันธ์มันยังแนบแน่น แม้จะเจอกันน้อยครั้งค่ะ
    อุ่นกอดจังค่ะ ขอบคุณค่ะ

  • #12 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 สิงหาคม 2008 เวลา 22:09

    #10 จอมป่วนเป็นพี่ชายอีกคนที่หมอเจ๊ดีใจที่ได้มีกับเขาอย่างนี้ค่ะ วาสนาเราต้องกันค่ะพี่ ขอบคุณที่ได้ช่วยให้ชีวิตเติมเต็มและเปิดโลกกว้างให้อีกโลกหนึ่งค่ะ

  • #13 sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 สิงหาคม 2008 เวลา 20:58

    เรื่องเพื่อนแท้นี่ มีไม่ต้องมากก็ได้ค่ะ แต่ก็มีความสุขและอบอุ่นเสมอที่ได้คุยกัน แม้ไม่เห็นหน้ากัน ก็รู้สึกเหมือนอยู่ใกล้กัน


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.091326951980591 sec
Sidebar: 0.14159107208252 sec