ระดมใจไปตีแตกอีสาน (1)
อ่าน: 2652งานตีแตกอีสานคราวนี้ 27 ก.พ.- 1 มี.ค. ทำใจไว้แต่แรกว่าคงไม่ได้ไปเพราะคำนวณจากภารกิจแล้วไม่น่าจะรอดไปได้ จึงต้องรับปากเจ้าน้อง อ.ขจิต ชิงไปสวนป่าเสียตั้งแต่ต้นเดือนเพื่อไปช่วยพ่อครูบาและ อ.แป๋ว
แต่หลังจากกลับจากสวนป่าครานั้น ทำให้ต้องลงมือจัดลำดับความสำคัญในชีวิตเสียใหม่ งานก็สำคัญแต่ยังไม่เร่งด่วนเท่ากับประสบการณ์ปิ๊งแว๊ปที่จะได้รับจากสังคมอุดมปัญญาแห่งนี้
ด้วยความเมามันที่ยังไม่จางหาย (อย่างที่อาเหลียงกับท่านอัยการรำระบำชาวเกาะ อรยนท.นั่นล่ะค่ะ อิอิ) จึงนัดแนะเจ้าน้องรักคู่หูคู่ฮาทันที “ที่เก่าเวลาเดิมนะน้องนะ” ปรากฏว่าเวลาที่ไปถึงดันเป็นเวลาใหม่นี่ซิ่ ยืนเอ๋อเหรอกันตรงสถานีขนส่งบุรีรัมย์ไปไหนไม่ถูกเพราะมืดตื๋อและไม่มีรถซักคัน ร้อนถึง GPS ของท่านเทพ Logos พี่ใหญ่ใจดีผู้ที่คราวนี้ทำหน้าที่ยิ่งกว่าดังพันกร ต้องเข้ากะตอนตีสองครึ่งทันที ได้ยินว่าหิวจึงอยากจะพาท่านเทพไปชิมชาโบราณที่อร่อยที่ซู๊ดร้านก็ไม่เปิด พาเดินดุ่ม ๆ ไปชิมชาร้านในตลาดสดรสชาติพอกล้อมแกล้ม สุดท้ายต้องล้างปากด้วยซาลาเปายี่ห้อ 7-11 คนละลูกสองลูกแล้วจึงหาทางกลับสวนป่าถูก
ดีนะที่ไม่ลืมหอบ Sugus และ Mentos หลากรสมาเป็นเครื่องบรรณาการ ให้ท่านเทพพอยิ้มกริ่มได้บ้าง อิอิ
ก่อนจะย่องเข้าห้องนอนด้วยความเกรงใจว่าคนอื่นคงกำลังหลับอยู่ ที่ไหนได้เปิดไฟโช๊ะขึ้นมาไม่มีใครเลยห้องโล่งกว้างและแสนจะวังเวง เจ้าน้องขจิตที่อุตสาห์ช่วยหอบสัมภาระมาเต็มมือถามทันที “เอาไงดีพี่ จะไปตามหาคนอื่นๆ ไหม” ครูปูสวนออกไปทันควัน “ม่ายอาวแว๊ว ง่วง นอนคนเดียวก็ได้ (วะ)” ว่าแล้วเจ้าน้องชายคนดีก็จัดแจงปูที่นอนให้เรียบร้อยก่อนโบกมือบ๊ายบายหายไปเผชิญชะตากรรมตามสุมทุมพุ่มไม้เพียงลำพัง
ลงมาจากห้องก็พบชาวพาราตั้งวงโจ้ข้าวต้มที่อร่อยที่สุดในโลกของพ่อครูบากันอยู่แล้ว เลยได้กอดเรียงคนตั้งแต่ป้าจุ๋ม พี่ครูอึ่ง พ่อครูบา ครูอาราม อ.Handy และไม่จำเป็นต้องแนะนำตัว ก็ปรี่เข้าไปกอด อ.สร้อย แน่น ๆ หวังจะได้ยินเสียงร้องแอ่ก แต่ไหงกลายเป็นยิ้มหวานจ๋อยแทนก็ม่ายรุ๊ จบ ณ กอดนี้เลยค่ะ แค้นที่บอกจะชำระน่ะ จบแร่ะ อิอิ
ก็ไอ่เรามันพวกความจำสั้น แต่ความฝันยาวนี่นา ฮิ๊ว……..
นั่งคุยกันเพลินรู้ตัวอีกทีตอนคณะของท่านอัยการ พี่แอ๊ด พี่หมอตา และน้องเขียวมาถึงเริ่มต้นมหกรรมการกอดเป็นหมู่คณะ ณ บัดนาวครับพี่น้อง
พูดถึงการกอด ครูปูเข้าใจเอาเองว่า (แฮ่ะ ๆ ก็ไม่มีใครเคยบอกนี่นา) ชาวเฮฮาศาสตร์คงจงใจใช้เป็นสัญญาณส่งผ่านความปรารถนาดี ความรัก ความห่วงใยต่อกันอย่างถึงเนื้อถึงตัว และยังหวังจะบีบอัดระยะห่างระหว่างกันลงภายในระยะเวลาแค่เสี้ยวนาทีอีกด้วย ซึ่งถือเป็นสมการแห่งสัมพันธภาพที่ทรงพลังยิ่ง
เมื่อได้ผ่านกระบวนการพูดคุยปฏิสัมพันธ์ เจ๊าะแจ๊ะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จับสไตล์และพื้นฐานอารมณ์ความคิดกันผ่านบล็อกหรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ มาบ้างแล้ว
ด้วยกุศโลบายนี้ ประกอบกับใจที่เปิดรับชาวเฮฮาศาสตร์ก็จะสามารถก้าวข้ามกำแพงแห่งความเก้อเขินและแปลกแยกนั้นมาสัมผัสใจอุ่น ๆ ผ่านภาษากายชัด ๆ เช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย อานิสงส์ที่ได้รับทันทีไม่ต้องรอสะสมคะแนนแลก คือความเป็นเพื่อนเช่นที่ อ.สร้อย ได้กล่้าวถึงอย่างลึกซึ้งมาแล้วใน ความเป็นญาติ
ช่วงเที่ยงคณะของคุณหมอจอมป่วน น้าอึ่งอ๊อบ น้องราณี และน้องครูมิมก็มาถึง ซึ่งหายห่วงได้เลยค่ะเรื่องทักษะการกอดของคณะนี้ ตามด้วยคณะของท่าน ผอ.มณสันต์ ครูคิม ครูนิน กับ พขร.ส่วนตัวและเด็กนักเรียนอีก 6 คนจากโรงเรียนวิทยสัมพันธ์
น้องมะเดี่ยวโผล่มาจ๊ะเอ๋ตอนไหนไม่ทราบเลยถูกพี่ครูปูแตะอั๋งด้วยการกอดแน่น ๆ จนทำให้น้าอึ่งอ๊อบค้อนตาเขียวปั๊ดเลยล่ะค่ะ ฮี่ๆๆ
พวกเราทั้งหมดช่วยกันมะรุมมะตุ้มเตรียมการเพื่อต้อนรับคณะของอาจารย์ไร้กรอบ (ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ) และคณะ สสสส. ล้างจานล้างแก้ว ต่อเครื่องเสียง จัดโต๊ะ เก้าอี้ แบ่งสคริป วิ่งถามถึงกำหนดการก่อนหลังกันให้จ้าละหวั่น เวลาที่เหลือระหว่างรอ ก็ อรยนท คนที่ไม่ได้มา เช่น อาเหลียง เป็นต้น :) และคนที่ยังมาไม่ถึง (เพราะถ้ามาถึงแล้วอาจจะอด อิอิ)
อยู่ดี ๆ พ่อครูมากระซิบ “ครูปู ๆ เดี๋ยวเค้าเข้ามาปุ๊บเสิร์ฟน้ำเสาวรสเย็น ๆ ปั๊บเลยนะ” จัดแจงล้างแก้วคว่ำเพื่อเตรียมปริมาณให้เพียงพอกับแขก รับน้ำจากพี่ปิ๋วแช่ช่องฟรีซทันที โดยป้าจุ๋มกระซิบเคล็ดลับว่าให้ตักน้ำแข็งใส่ลงไปแช่ด้วยเดี๋ยวจะเย็นไม่ทัน
พ่อครูมากระซิบอีก ”ครูปู ๆ เดี๋ยวเค้ามาแล้วกล่าวต้อนรับนิดนึงนะ” นั่งรวมหัวกับคุณหมอจอมป่วนและน้องมะเดี่ยวทันที หลังเตรียมการเสร็จทุกอย่างพร้อมแล้ว ตอนเห็นรถตู้คณะอาจารย์ไร้กรอบกำลังเข้าจอด
พ่อครูมากระซิบอีกแล้วครับทั่น “ครูปู ๆ เปลี่ยนใจแล้ว เดี๋ยวพอเค้าเข้าประตูปุ๊บครูปูคว้าไมค์ร้องเพลงนี้เลย (Top of The World) เอาให้ตะลึงไปเลยนะ “
แล้วจากไปด้วยรอยยิ้มและเสียง อิอิ เบา ๆ พร้อมยักคิ้วให้กำลังใจเหมือนจะส่งสัญญาณ ลุยโลด!
ได้ผลแฮะ อาจารย์ไร้กรอบและคณะเปลี่ยนจากเหรอหราเป็นยิ้มกริ่มทั้งคณะ กับการต้อนรับที่อบอุ่นจากพวกเรา
ไม้เดิมนี้ถูก reuse กับคณะ สสสส. ในเวลาต่อมาทันที ได้ผลยิ่งกว่าค่ะ เพราะแทบทั้งคณะร้องตามและปรบมือให้จังหวะอยู่ตลอด ส่งตัวแทนออกมาช่วยร้อง แล้วยังขอเพลงเพิ่มด้วยนะคะ (คงดีใจที่ได้เจอเพลงร่วมสมัย กั่กๆๆๆ)
มองออกไปจากด้านหน้า เห็นพี่น้องเฮฮาศาสตร์รุมล้อม ต้อนหน้าต้อนหลัง เสิร์ฟน้ำ พูดคุย ทักทาย แจกยิ้มหวานเจี๊ยบโชว์สุขภาพเหงือกและฟันกันอย่างเต็มที่ ภาพไหนจะชื่นใจเท่านี้ไม่มีอีกแล้ว สังคมแบบนี้จะหาได้จากไหน ไม่มีการสั่งการ ไม่มีการ put any men to any jobs ทั้งสิ้น ทุกคนต่างเทกระจาดใจลงมากองรวมกันไว้ที่ภารกิจตรงหน้าอย่างพร้อมเพรียง งานจึงออกมาอย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวา ผู้คนสัมผัสได้ถึงมิตรจิต มิตรใจที่รายล้อม จึงยอมเผยอยิ้ม พร้อมส่งมิตรภาพเข้าแลกทันที งานนี้ลืมความสมบูรณ์แบบ หรือความครบถ้วนเสร็จสรรพตามขั้นตอนไปได้เลยค่ะ
ครูปูจึงฉวยโอกาสแต๊ะอั๋งหลาย ๆ ท่านโดยอัตโนมือ กอดเอว จับมือถือแขนโยกตัวไปมาด้วยกันขณะกำลังอยู่ในอารมณ์เพลง สห.ด้านนอก ได้แต่ทำหน้างง ๆ คงกำลังนึกหาวิธีระงับเหตุ หากเกิดการเกินเลยไปกว่านี้ อิอิ
เห็นไม๊คะ พวกเรากำจัดระยะห่างระหว่างกัน ให้ลดลงไปได้อีกระลอกนึงแล้วค่ะ
และที่ทิ้งรอยยิ้มแก้มตุ่ยแสนประทับใจให้แก่พวกเรา คือ คณะพี่ครูอึ่ง ครูอารามและน้องราณีที่อาสาเป็นตัวแทนท่านเทพไปรับ อ.หลินฮุ่ย ถึงโคราชทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ชำนาญทาง แต่ใช้ GPS แห่งใจ ฝ่าฟันอุปสรรคนานากรุยทางให้ฝันของพวกเราที่จะได้มีโอกาสสัมผัสกับผู้ใหญ่ใจดีที่ทรงภูมิรู้ อย่างใกล้ชิดท่านนี้เป็นความจริงขึ้นมา
อาการนัวเนียเริ่มต้น ณ บัดนี้
หุ หุ หุ
« « Prev : เจ้าเป็นไผ (คนค้นชีวิต)
Next : ระดมใจไปตีแตกอีสาน (2) » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ระดมใจไปตีแตกอีสาน (1)"