ทำไมต้องรอกอด
การเดินทางไปสวนป่ามหาชีวาลัยอีสานครั้งแรกของชีวิต ได้ “สัมผัส” ทั้งเกลียวความรู้ และเกลียวความรู้สึกตลอดเวลา จนต้องตัดสินใจวางกล้องและปากกาลง แล้วใช้ใจสัมผัสแทน (ขอบคุณรูปบางส่วนจาก คุณ Logos และน้อง อ.ขจิต ค่ะ)
ได้คลุกวงในกับคนที่ “กอดกับความคัน” อยู่ตลอดเวลา
จนพลอยทำให้ใครต่อใคร
ต้องปีนป่ายตะกายยอดความรู้ตามกันมาเป็นทิวแถว
แถมชี้ให้อีกแนะ ว่าตัวเองน่ะ
ระดับนางสาวไทย อย่าเอามาใช้ไม่ถูกเรื่อง
^_^
ได้สัมผัสกับคนตัวใหญ่ใจละเอียดที่เลือกจะ “กอดกับความมัน(กว่า)ของชีวิต”
ได้เห็นครูที่ “กอดแน่นกับวิชาชีพ” เต็ม ๆ ตา
ทึ่งกับคนกล้าที่ “กอดกับความศรัทธา” ในการทำสิ่งดี
ยิ้มแก้มแทบแตกกับอ้อมกอดของเหล่า “คนน่ากอด”
ได้เจอน้องมะเดี่ยวผู้น่ารัก คนที่ “รอจะกอดอีกไม่นาน” อิอิ
ได้ปล่อยใจไป “กอดกับอดีต” ทำให้มีความหวังเพิ่มกับอนาคต
ได้รับ “กอดอุ่น ๆ” จากน้องชายที่แสนดีคนนี้ตลอดเวลา
เห็นตัวเองชัด ๆ ก็อีตอนเดินตามใคร ๆ ไป “กอดกับความอยาก” ของตัวเองนี่ล่ะค่ะ
ได้เห็นความหวังว่ามนุษย์น่าจะรอดและอยู่ใน
“อ้อมกอดของธรรมชาติ” ได้
หากเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกสรรพสิ่ง ด้วยการใส่ใจและใส่ความรู้ลงไป
มากพอที่จะสร้าง “ชุดความรู้เฉพาะ” ขึ้นมา
เป็นคู่มือในการอยู่ร่วมกันได้
ได้ยินเขาพูดกันว่ากำลังจะถึง “เทศกาลแห่งความรัก” อยู่รอมมะร่อ
เลยอยากให้ใครต่อใครได้มีโอกาส “กอด”
กับสิ่งที่ตัวเองรักและต้องการจริง ๆ ซะบ้าง
เพราะยังมีอีกหลายชีวิตที่ยังคงต้องเข้าคิว “รอกอด” กันต่อไป
ว่าแล้วก็จะมัวไป ”รอกอด” กันอยู่ทำไมล่ะพี่น้องเอ๊ย
ฮิ๊ว…
(^__________^)
Key Word : อย่าเอานางสาวไทย มาเป็นคนใช้
« « Prev : ปลูกป่าชายเลนกับพี่ครูต้อย
Next : “เหตุที่ต้องปลูกป่า” จากครูบาสุทธินันท์ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ทำไมต้องรอกอด"