Messenger 2
อ่าน: 9697การไปส่งเอกสารราชการนั้นในพื้นที่ที่ไม่เคยไปเลยนั้นทำอย่างไรจึงจะง่ายที่สุดในการเข้าถึง คำตอบคือดูแผนที่ แต่มีแผนที่ที่ไหนบ้างที่กำหนดสถานที่ราชการลงไปทั้งหมดทุกแห่ง พร้อมบอกที่ตั้งให้ด้วย ไม่มีแน่นอน….
ทำอย่างไรล่ะจึงจะได้คำตอบ เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งเอกสาร ท่านก็บอกว่าใช้วิธีถามเอาซี ง่ายจะตายไป ผมก็ใช้วิธีนี้แหละครับ แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านี้….ซึ่งผมใช้มาแล้วและได้ผลถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือ ไปที่ไปรษณีย์ครับ ที่ครอบคลุมพื้นที่นั้นขอแผนที่ของท่านซึ่งปกติท่านจะหวงห้าม (เพราะไปรษณีย์เป็นธุรกิจไปแล้ว)เราอาจทำหนังสือราชการไปขอความร่วมมือท่าน พนักงานไปรษณีย์มีหน้าที่ส่งจดหมาย เอกสารต่างๆท่านจึงทำแผนที่ทุกอย่างในพื้นที่รับผิดชอบของท่าน และ Update ตลอดเวลา…
สถานที่ราชการส่วนใหญ่จะมีป้ายบอกชัดเจน แต่แม่เจ้า..บางแห่งก็เก่าคร่ำคร่า ดำมิดหมี บางแห่งมีกิ่งไม้ เถาวัลย์ปกคลุม ต้องจอดรถแหวกไปดู อิอิ บางแห่งขับรถเลยไปแล้วต้องย้อนกลับมา ซึ่งเสียเวลาเสียน้ำมันรถ
สถานที่โอ่อ่าที่สุดคงไม่พ้นเทศบาล อย่างผมไปพบเทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ย้ำว่า “เทศบาลเมือง..” ไม่ใช่ “เทศบาล..” เฉยๆ ต่างกันนะครับ เทศบาลเมือง หรือเทศบาลนคร นั้นขึ้นตรงต่อจังหวัดไม่ต้องผ่านอำเภอ เพียงแค่ Inform ให้อำเภอทราบเท่านั้น เขาจึงใหญ่มาก ใหญ่ในที่นี้ทั้งอาคารและศักดิ์ศรี และการวางตัวของท่านนายกเทศมนตรี… ผมโดยด่ากระจุยมาแล้ว เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นใครมาจากไหน แต่ที่นี่คือถิ่นข้า..ฯ… อะไรทำนองนั้น ทั้งๆที่ผมก็ทำตัวเป็น “ผู้เฒ่าเดินหนังสือ..” เอ..รึว่าเพราะเป็นแค่คนเดินหนังสือจึงต้องรองรับคำผรุสวาทเหล่านั้น…
ที่ว่าการอำเภอห่วยแตกเช่นเคย เก่าคร่ำคร่า สกปรก รกรุงรัง ไม่เจริญหูเจริญตาเลย ไม่สมกับเป็นศูนย์กลางการติดต่อราชการของคนในท้องถิ่นเลย อาจเป็นเพราะ เทศบาลเมืองนั้นต้องมีงบประมาณ 300 ล้านขึ้นไป จึงจะยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองหรือนครได้ แต่งบประมาณอำเภอไม่อิสระพอที่จะเอามาพัฒนาอาคารได้ ขอแต่กระทรวงไม่ให้ นายอำเภอจึงน้อยใจว่าฐานะตกต่ำกว่าท่านนายกเทศมนตรี
แต่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีนั้นตายง่าย อย่างผมไปประสานงานแห่งหนึ่งเขาไม่รับแขกเพราะกำลังทำศพท่านนายกที่เพิ่งโดยยิงตาย… เพราะการเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์มหาศาลนั่นเอง
สถานที่ตั้ง เกษตรอำเภอ หาไม่ยากแต่ก็เก่าๆ โทรมๆ สาธารณสุขอำเภอก็พอดูได้ แต่ที่ผมงงเป็นไก่ตาแตกก็โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบึงสนั่น ของอำเภอธัญบุรี ผมหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ดูแผนที่ก็แล้ว ถามคนก็แล้ว เขาบอกว่าให้เข้าทางวัด ผมก็ดูถนนข้างวัดก็ไม่เห็นมี แล้วมันไปทางไหนกันวะ…
วนหลายรอบก็ไม่พบจนหิวน้ำ จอดรถลงไปซื้อน้ำเย็นๆดื่มแล้วถือโอกาสถามเฒ่าแก่ว่าโรงพยาบาลนี้น่ะอยู่ตรงไหน ไปทางไหน เท่านั้นเองเฒ่าแก่ก็จูงมือผมไปชี้ให้ดู พร้อมทั้งเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้
คุณ… แต่ก่อนเข้าทางนี้ พร้อมทั้งชี้มือไป เพราะมันเป็นที่ส่วนบุคคลเมื่อรุ่นพ่อตายไป ลูกๆไม่ยอมให้ใช้เป็นทางผ่านจึงปิดทางเข้า อ้าว..สถานีอนามัยเดิมที่กลายมาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพก็กลายเป็นสถานที่ตั้งในที่ตาบอด คือเข้าออกไม่ได้ เพราะหมู่บ้านล้อมรอบหมด บังเอิญติดวัด ติดกำแพงวัดตรงกุฏิพระเลย วัดจึงพังกำแพงให้เป็นทางผ่านเข้าโรงพยาบาลได้ นี่เองผมจึงร้องอ๋อ ที่คนเขาบอกผมว่าให้เข้าทางวัด ก็หมายถึงเข้าไปในวัดเลย จอดรถในวัดแล้วเดินไปหลังวัดจะพบโรงพยาบาลแห่งนี้…
แม่เจ้าประคุณทูนหัว…..คุณเอ้ยยยยย ผมเอารถจอดหน้าโบสถ์ เห็นรถโรงพยาบาลจอดอยู่ก็ใช่เลย เห็นป้ายบอกทางไปโรงพยาบาล ผมเดินไป…..มันเป็นทางผ่านกุฏิพระ ผ่านห้องส้วมพระ ผ่านเจดีย์ใส่กระดูกคนตาย..ผ่าน…..โอย..เป็นไปได้ไงนี่คือทางไปโรงพยาบาลประเทศไทยนะเนี่ย….
ผมสงสารคุณหมอและพนักงานทุกท่านที่จำใจต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เจ้าของที่ดินก็ใจร้ายมาปิดทางเข้า ผมไม่ทราบต้นสายปลายเหตุว่าทำไมโรงพยาบาลจึงมีสถานที่ตรงนี้ ที่มาที่ไปผมไม่ได้สอบถาม แต่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง…เชื่อว่าทางราชการคงพยายามหาทางขยับขยายอยู่ แต่ทราบว่าของบประมาณมาหลายปีแล้วไม่ได้…
อย่างไรคุณหมอและทีมงานก็ยังรักษามาตรฐานความสะอาด ความเป็นระบบได้อยู่ แต่ที่ตั้งเท่านั้นที่ทุเรศทุรังเต็มที…. ยิ่งเมื่อเทียบกับเทศบาลเมืองนั่น…ยังกะพระราชวังก็ไม่ปาน….
“เด็ก..เอ้ย..ผู้เฒ่าเดินเอกสาร” ก็ได้ประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนี่แหละครับ…