Messenger 2

194 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 11 กันยายน 2011 เวลา 15:11 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 9697

การไปส่งเอกสารราชการนั้นในพื้นที่ที่ไม่เคยไปเลยนั้นทำอย่างไรจึงจะง่ายที่สุดในการเข้าถึง คำตอบคือดูแผนที่ แต่มีแผนที่ที่ไหนบ้างที่กำหนดสถานที่ราชการลงไปทั้งหมดทุกแห่ง พร้อมบอกที่ตั้งให้ด้วย ไม่มีแน่นอน….

ทำอย่างไรล่ะจึงจะได้คำตอบ เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งเอกสาร ท่านก็บอกว่าใช้วิธีถามเอาซี ง่ายจะตายไป ผมก็ใช้วิธีนี้แหละครับ แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านี้….ซึ่งผมใช้มาแล้วและได้ผลถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือ ไปที่ไปรษณีย์ครับ ที่ครอบคลุมพื้นที่นั้นขอแผนที่ของท่านซึ่งปกติท่านจะหวงห้าม (เพราะไปรษณีย์เป็นธุรกิจไปแล้ว)เราอาจทำหนังสือราชการไปขอความร่วมมือท่าน พนักงานไปรษณีย์มีหน้าที่ส่งจดหมาย เอกสารต่างๆท่านจึงทำแผนที่ทุกอย่างในพื้นที่รับผิดชอบของท่าน และ Update ตลอดเวลา…

สถานที่ราชการส่วนใหญ่จะมีป้ายบอกชัดเจน แต่แม่เจ้า..บางแห่งก็เก่าคร่ำคร่า ดำมิดหมี บางแห่งมีกิ่งไม้ เถาวัลย์ปกคลุม ต้องจอดรถแหวกไปดู อิอิ บางแห่งขับรถเลยไปแล้วต้องย้อนกลับมา ซึ่งเสียเวลาเสียน้ำมันรถ

สถานที่โอ่อ่าที่สุดคงไม่พ้นเทศบาล อย่างผมไปพบเทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ย้ำว่า “เทศบาลเมือง..” ไม่ใช่ “เทศบาล..” เฉยๆ ต่างกันนะครับ เทศบาลเมือง หรือเทศบาลนคร นั้นขึ้นตรงต่อจังหวัดไม่ต้องผ่านอำเภอ เพียงแค่ Inform ให้อำเภอทราบเท่านั้น เขาจึงใหญ่มาก ใหญ่ในที่นี้ทั้งอาคารและศักดิ์ศรี และการวางตัวของท่านนายกเทศมนตรี… ผมโดยด่ากระจุยมาแล้ว เขาไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นใครมาจากไหน แต่ที่นี่คือถิ่นข้า..ฯ… อะไรทำนองนั้น ทั้งๆที่ผมก็ทำตัวเป็น “ผู้เฒ่าเดินหนังสือ..” เอ..รึว่าเพราะเป็นแค่คนเดินหนังสือจึงต้องรองรับคำผรุสวาทเหล่านั้น…

ที่ว่าการอำเภอห่วยแตกเช่นเคย เก่าคร่ำคร่า สกปรก รกรุงรัง ไม่เจริญหูเจริญตาเลย ไม่สมกับเป็นศูนย์กลางการติดต่อราชการของคนในท้องถิ่นเลย อาจเป็นเพราะ เทศบาลเมืองนั้นต้องมีงบประมาณ 300 ล้านขึ้นไป จึงจะยกฐานะเป็นเทศบาลเมืองหรือนครได้ แต่งบประมาณอำเภอไม่อิสระพอที่จะเอามาพัฒนาอาคารได้ ขอแต่กระทรวงไม่ให้ นายอำเภอจึงน้อยใจว่าฐานะตกต่ำกว่าท่านนายกเทศมนตรี

แต่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีนั้นตายง่าย อย่างผมไปประสานงานแห่งหนึ่งเขาไม่รับแขกเพราะกำลังทำศพท่านนายกที่เพิ่งโดยยิงตาย… เพราะการเมืองท้องถิ่น และผลประโยชน์มหาศาลนั่นเอง

สถานที่ตั้ง เกษตรอำเภอ หาไม่ยากแต่ก็เก่าๆ โทรมๆ สาธารณสุขอำเภอก็พอดูได้ แต่ที่ผมงงเป็นไก่ตาแตกก็โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบึงสนั่น ของอำเภอธัญบุรี ผมหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ดูแผนที่ก็แล้ว ถามคนก็แล้ว เขาบอกว่าให้เข้าทางวัด ผมก็ดูถนนข้างวัดก็ไม่เห็นมี แล้วมันไปทางไหนกันวะ…

วนหลายรอบก็ไม่พบจนหิวน้ำ จอดรถลงไปซื้อน้ำเย็นๆดื่มแล้วถือโอกาสถามเฒ่าแก่ว่าโรงพยาบาลนี้น่ะอยู่ตรงไหน ไปทางไหน เท่านั้นเองเฒ่าแก่ก็จูงมือผมไปชี้ให้ดู พร้อมทั้งเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์ของสถานที่แห่งนี้

คุณ… แต่ก่อนเข้าทางนี้ พร้อมทั้งชี้มือไป เพราะมันเป็นที่ส่วนบุคคลเมื่อรุ่นพ่อตายไป ลูกๆไม่ยอมให้ใช้เป็นทางผ่านจึงปิดทางเข้า อ้าว..สถานีอนามัยเดิมที่กลายมาเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพก็กลายเป็นสถานที่ตั้งในที่ตาบอด คือเข้าออกไม่ได้ เพราะหมู่บ้านล้อมรอบหมด บังเอิญติดวัด ติดกำแพงวัดตรงกุฏิพระเลย วัดจึงพังกำแพงให้เป็นทางผ่านเข้าโรงพยาบาลได้ นี่เองผมจึงร้องอ๋อ ที่คนเขาบอกผมว่าให้เข้าทางวัด ก็หมายถึงเข้าไปในวัดเลย จอดรถในวัดแล้วเดินไปหลังวัดจะพบโรงพยาบาลแห่งนี้…

แม่เจ้าประคุณทูนหัว…..คุณเอ้ยยยยย ผมเอารถจอดหน้าโบสถ์ เห็นรถโรงพยาบาลจอดอยู่ก็ใช่เลย เห็นป้ายบอกทางไปโรงพยาบาล ผมเดินไป…..มันเป็นทางผ่านกุฏิพระ ผ่านห้องส้วมพระ ผ่านเจดีย์ใส่กระดูกคนตาย..ผ่าน…..โอย..เป็นไปได้ไงนี่คือทางไปโรงพยาบาลประเทศไทยนะเนี่ย….

ผมสงสารคุณหมอและพนักงานทุกท่านที่จำใจต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เจ้าของที่ดินก็ใจร้ายมาปิดทางเข้า ผมไม่ทราบต้นสายปลายเหตุว่าทำไมโรงพยาบาลจึงมีสถานที่ตรงนี้ ที่มาที่ไปผมไม่ได้สอบถาม แต่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง…เชื่อว่าทางราชการคงพยายามหาทางขยับขยายอยู่ แต่ทราบว่าของบประมาณมาหลายปีแล้วไม่ได้…

อย่างไรคุณหมอและทีมงานก็ยังรักษามาตรฐานความสะอาด ความเป็นระบบได้อยู่ แต่ที่ตั้งเท่านั้นที่ทุเรศทุรังเต็มที…. ยิ่งเมื่อเทียบกับเทศบาลเมืองนั่น…ยังกะพระราชวังก็ไม่ปาน….

“เด็ก..เอ้ย..ผู้เฒ่าเดินเอกสาร” ก็ได้ประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนี่แหละครับ…


Messenger 1

1264 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 11 กันยายน 2011 เวลา 9:00 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 18406

งานที่ปรึกษานั้น ต้องรักษามาตรฐานหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือตรงต่อเวลา หมายถึงกำหนดการต่างๆนั้นต้องเป็นไปตามแผนงานเปะ เร็วกว่าได้ แต่ช้ากว่าไม่ดี…เสียหาย.. อย่าง Report มีกำหนดส่งแล้วไม่ได้ส่งนี่ บริษัทเสียชื่อ ถูกหยิบยกมาตำหนิได้ไม่รู้จบ สำหรับผู้ว่าจ้าง ยิ่งมีคู่แข่งมาก ก็ยิ่งเป็นจุดอ่อน

ผมไปทำงานบริษัทที่ปรึกษาใหม่ๆก็นึกแปลกใจว่าบริษัทมี “ทีมงานมอเตอร์ไซด์ซิ่ง” เอาไว้ช่วยในกรณีจวนเจียนการส่ง Report ซึ่งในมุมมองผมคิดว่ามันเป็นปกติของการทำงานที่บางครั้งเราควบคุมตัวแปรไม่ได้หมด ทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นได้ ยิ่งสังคมกรุงเทพฯรถติด การไปประชุม ไม่ทันก็ต้องอาศัยมอเตอร์ไซด์ ส่งเอกสารแบบจวนเจียนก็อาศัยเด็กมอเตอร์ไซด์ ที่ถึงกับจ้างมาประจำบริการ เราเรียก messenger เรียกง่ายๆว่าเด็กเดินเอกสาร

เคยทราบว่าเอางานรายงานสำคัญไปให้วินาทีสุดท้าย ด้วย Messenger หรือมอเตอร์ไซด์นี่แหละ ที่สามารถซอกแซกบนถนนที่รถติดมหาศาลทันเวลาพอดี… หลายหน่วยงานก็มี messenger ประจำการที่สามารถเติมเต็มงานตรงนี้ได้ เข้าใจว่ามีบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะ โดยที่หน่วยงานไม่ต้องจ้างพนักงานประจำ จะใช้ก็เรียกบริษัทมาทำหน้าที่นี้ โดยเสียค่าใช้จ่ายที่ต่างฝ่ายพึงพอใจ

ช่วงนี้ผมก็เป็น Messenger ครับแต่ไม่ได้ใช้มอเตอร์ไซด์ แต่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเพราะไม่ได้วิ่งในกรุงเทพฯ ไปวิ่งรอบนอก ไปหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาเอกสารไปให้ ขอรับสำเนาที่ลงรับตามทะเบียนรับเอกสารแล้วกลับมายังสำนักงาน

การมาเป็น Messenger ก็ได้เรียนรู้อย่างน้อยที่สุดสองเรื่อง คือ คน กับสถานที่ ผมพยายามพูดไพเราะที่สุด “ครับผม” ทุกคำ เวลาไปพบเจ้าหน้าที่สำนักงานที่รับเอกสารก็ยืนกุมมือเรียบร้อย เพียงหน้าตาแก่ไปกว่าที่ควรจะเป็นเด็กเดินเอกสาร หน่วยงานเขาไม่ถามหรอกครับ เรามาในฐานะนั้น เขาก็คิดว่า “ไอ้หน่วยงานนี้ทำไม messenger แก่จังวะ…แถมพุงใหญ่อีกต่างหาก…อิอิ” บางหน่วยงานก็ดีมาก หากผมเป็นคนให้ดาว ก็จะให้ 4 ถึง 5 ดาว บางหน่วยงานก็…แม่เจ้าประคุณทูนหัวเอ้ย…..สุนัขไม่รับประทานจริงๆ เราก็ปลงซะ..

บางหน่วยงานที่ผมชื่นชมคือ โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือชื่อเดิมคือ อนามัยตำบลจะเดินขึ้นไปต้องถอดรองเท้าขึ้นไป เพราะสถานที่แห่งนี้คือโรงพยาบาลต้องปฏิบัติเสมือนเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัด มีแผนกต่างๆมีเจ้าหน้าที่มากน้อยแล้วแต่ สะอาด มีระบบ หลายแห่งที่ไปพบเขากำลังยุ่งกับงานรับคนป่วย เราเห็นเขาทำงานแล้วก็ชื่นใจ บางแห่งท่าน ผอ.อยู่คนเดียวลูกน้องไปอบรม ประชุมหมด ท่านต้องมารับหนังสือเอง บางแห่งเจ้าหน้าที่มารับเป็นคนที่จบปริญญาโท ด้านสิ่งแวดล้อม ออกจะเป็นสาวประเภทสอง แต่บริการดีมาก

ที่แย่ที่สุดดูจะเป็นที่ว่าการอำเภอ โทรม สกปรก เมื่อเทียบกับ โรงพยาบาลฯตำบลดังกล่าว กองเอกสารรกรุงรังล้นโต๊ะ สาวเจ้าก็คุยกัน หรือไม่ก็ทานอะไรจุ๊บๆจั๊บๆ เมื่อเราไปยื่นหนังสืออธิบายแล้วเขาก็ชี้บอกว่า “ลุงไปนั่งคอยก่อน” อิอิ เออ หน้าตาเราเป็นลุงจริงๆ แต่น้ำเสียงเธอไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่ ระหว่างนั้นมีพ่อค้าขายของกินเดินขึ้นไป ทุกคนก็หันหน้าไปดูสินค้า รวมทั้งเธอที่รับเอกสารเรานั้นด้วย วางเอกสารเราลงแล้วก็ไปสนใจสินค้านั้นๆ…อ้าว….ปล่อยให้ลุง(ผมเอง)นั่งยิ้มแบบสมเพชสภาพที่เกิดต่อหน้า…. ผมปล่อยให้เวลาเป็นของเธอนึกอะไรไปต่างๆนานา เช่น แม่หนูจ๋า ลุงคอยอยู่นะจ๊ะ… ลุงรีบจ่ะ… ยังไปอีกสามสิบแห่ง…. แต่เพียงนึกในใจ ไม่ได้เปล่งวาจาออกมาขัดจังหวะเธอ….ห้า ห้า ห้า

ที่เทศบาล ผมว่าเป็นระบบดีกว่าที่ว่าการอำเภอ เจ้าหน้าที่กระฉับกระเฉงกว่า แค่เดินเข้าไป แม้จะมีคนนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ก็เงยหน้าทักทายว่า มาทำอะไร ต่างก็แนะนำไปตรงนั้นตรงนี้…และก็รีบจัดการให้ เซ็นรับ ปั้มลงวันที่ ในใบสำเนาที่เราไปเตรียมเรียบร้อยนั้น แล้วยื่นกลับให้เรา

สรุปว่าที่ว่าการอำเภอ ห่วยแตกที่สุด ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดีที่สุดครับ



Main: 0.022445917129517 sec
Sidebar: 0.045146942138672 sec