บ้านหลังแรก..

747 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 30 กรกฏาคม 2011 เวลา 15:48 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 14501

ผมไม่ได้คลุกคลีกรุงเทพฯ จึงไม่รู้จักกรุงเทพดีพอ คราวที่ลูกสาวตัดสินใจว่าจะเอาบ้านไม่ต้องไปส่งค่าเช่าคอนโด เอาค่าเช่าคอนโดมาผ่อนบ้านดีกว่า คิดสะระตะแล้วก็ เมื่อลูกคิดเช่นนั้น และตลาดงานของเขาอยู่ที่ กทม. แม้ว่าผมจะไม่ชอบที่จะมาอยู่กรุงเทพฯก็ตาม แต่เมื่อลูกสาวเลือกเช่นนั้น ก็ตกลง


เราตระเวนหาบ้านมาหลายเดือน ญาติพี่น้องต่างช่วยกันแนะนำ เดินทางไปดูก็หลายครั้ง ถึงกะมัดจำแล้วทิ้งไปก็มี มาถูกใจที่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านญาติในเสนานิเวศน์นักเลยตัดสินใจเอาที่นี่ มาติดต่อเดินเรื่องหลายต่อหลายครั้งจากไม่รู้เรื่องการซื้อบ้านก็พอเข้าใจดี พอคุยกับใครๆได้ มาดูการก่อสร้างที่กำลังขยายไปเรื่อยๆ เพราะคนต้องการที่พักมาก ญาติที่เป็นวิศวกรจากจุฬามาด้วยก็ชี้ให้ดูว่า เดี๋ยวนี้ไม่ใช้เสาแล้วก่อกำแพงสำเร็จรูปก็ขึ้นหลังคาได้เลย

ผมนึกไปถึงเมื่อสามสิบ สี่สิบปีที่แล้วที่พักที่เชียงใหม่ เป็นห้องเช่า เจ้าของเป็นสถาปนิก ห้องพักไม่มีเสาเลย สมัยนั้นงงๆมากบ้านอะไรไม่มีเสา มาเดี๋ยวนี้ใช้กันหมดแล้ว ประหยัด และรวดเร็ว


ที่หมู่บ้านนี้ใช้แรงงานเด็กจากพม่าและเขมร อย่างเด็กกลุ่มนี้มาจากเสียมเรียบ ผมพอสื่อสารได้นิดหน่อยเพราะสมัยทำงานที่สุรินทร์ก็ไปเรียนภาษาเขมรที่วิทยาลัยครู แต่นี่เป็น ขะแมร์กรอม ไม่ใช่ ขะแมร์ลือ แต่ก็พอสื่อสารได้นิดหน่อย ดูเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย…


อย่างรูปซ้ายมือนั้นดูภายนอกเป็นสี่ห้อง จริงๆแบ่งเป็นสองหลังติดกัน จริงๆก็คือห้องแถว แต่ออกแบบให้เหมือนบ้านนั่นแหละ เดี๋ยวนี้จะซื้อบ้านเขาพิจารณา อย่างแรกเงินในกระเป๋า สองทำเลที่ตั้ง สามระบบการคมนาคม สี่น้ำท่วมหรือไม่ท่วม ตามลำดับ ญาติที่เขาอยู่กรุงเทพฯมานานแสนนานก็บอกว่า ตรงนี้ดีที่สุดสำหรับลูกสาว ก็เลยตัดสินใจ ต้องมาจองตั้งแต่ยังไม่เสร็จ แย่งกันยังกะซื้อขนมปังเว้ยเฮ้ย…

หลังจากเป็นรูปร่างโอนกันเรียบร้อยก็มาถึงการตกแต่งเพราะได้แต่ตัวบ้าน จะเข้าอยู่ต้องติดนั่นติดนี่อีกหลายตังค์ คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเราร้องจ๊ากสส์ มันหลายเท่าตัวเทียบกับบ้านขอนแก่นที่ผมซื้อเมื่อสามสิบปีที่แล้ว อ้าวก็สามสิบปีที่แล้ว…ลูกสาวผมย้อนใส่….

ผมมาขลุกกับเรื่องบ้านของลูกเสียหลายวัน เดินไปดูบ้านคนโน้นคนนี้ตามประสาคนอยากศึกษาเปรียบเทียบ ความคิดต่างๆว่าเขามองอะไร คิดอะไร แล้วเราควรจะคิดอย่างไร ก็ทราบว่า มีอาจารย์ มข.มาซื้อให้ลูกสาวเหมือนกัน และคนใต้ มาซื้อห้องให้ลูกสาวเท่าที่นับได้ เกือบห้าคน ถามช่างที่มาตกแต่งห้องเขาก็ชี้ว่าห้องโน้นคนขอนแก่นซื้อให้ลูกชาย ห้องนั้นคนเชียงใหม่ แม่เป็นใต้ซื้อให้ลูกสาว

ปรากฏว่าเป็นห้องที่คนรุ่นใหม่มาหาที่พักกันเสียส่วนใหญ่ การที่คนอายุมากออกจากงานนั้นไม่มีให้เห็นเลย มีแต่มาส่งลูก มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสักพักหนึ่ง

เป็นที่อยู่ของคนรุ่นใหม่ มิน่าเล่า ผมถามพนักงานเจ้าของโครงการว่า ทำไมตั้งชื่อ The Color Premium เขาอธิบายว่าเป็น Concept สำหรับเด็กยุคใหม่…..

ญาติที่เป็นวิศวกรมาดูบ้านก่อนจะโอนบ้านก็ติเสียสองหน้ากระดาษให้ตกแต่ง ทำใหม่ โอย..ผมไม่รู้เรื่อง อาศัยวิศวกรพี่เขา นี่ก็บอกว่าหลังห้องนั้นหากจะปรับปรุงใส่หลังคาทำห้องครัวเล็กๆก็ต้องตอกเสาเข็ม อย่างน้อย 15 ต้น เพราะดินมันทรุด ซึ่งถามช่างที่มาตกแต่งห้องอื่นๆก็พยักหน้าว่า จริงครับ….

ผมก็วาดรูปแสดงความเห็นตรงนั้นตรงนี้ ควรจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ลูกสาวบอกว่า ไม่ต้องเลย..นี่บ้านหนู..หนูมีไอเดียเพียบแล้ว…ไม่ต้องมาบอกว่าควรทำนั่นทำนี่…. อิอิ

เออ…ออกความเห็นก็ไม่ได้…ทีเงินซื้อบ้านก็มารีดไปจากเราจนหมดตูด…ห้า ห้า ห้า


ระบบเมือง..

10 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 30 กรกฏาคม 2011 เวลา 14:18 ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1913

ที่ใจกลาง กทม.แห่งหนึ่งมีรถเข้าแถวกันยาวเหยียดโดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น เพื่อไปทำงานและกลับเข้าบ้าน หลายคนชิงตื่นแต่เช้าเพื่อหนีความหนาแน่นของจราจร บางคนวางแผนเดินทางแต่ตีห้าแล้วไปนอนอีกงีบหนึ่งที่ทำงาน…ไปล้างหน้าแปรงฟันแต่งโฉมอีกทีที่ห้องน้ำที่ทำงาน ซึ่งเพื่อนๆร่วมงานก็รู้กันเพราะหลายคนก็ทำเช่นนั้น ช่วงกลับคนไหนที่ยังไม่มีครอบครัว ไม่มีภาระมากนักก็นั่งแช่ที่ทำงานจน สองทุ่มและบางคนเลยเถิดไปถึงห้าทุ่มเที่ยงคืน


เช่น หลานสาวผมเธอกลับบ้านเอาประมาณ ห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน มาถึงก็ล้มตัวหลับที่โซฟาสักพักใหญ่ๆ แล้วก็ตื่นมาอาบน้ำอาจเปิดเมล์ดูสักพักก็นอนแล้วตื่นตีห้าครึ่งรีบหนีรถติดไปทำงานอีก เป็นเช่นนี้ทุกคืน เราบอกลูกสาวว่าทำไมไม่ปลุกพี่เขาให้อาบน้ำนอนดีดี เธอบอกว่านี่คือขั้นตอนประจำของเธอ อย่าไปยุ่งเขานะ อย่าไปข้ามขั้นตอนเขา อือ……

ในตอนเช้าที่รถจากซอยต่างๆมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสายหลัก ต่างก็แย่งชิงกันไปก่อน หลายรายก็แสดงน้ำใจต่อกัน แต่สังเกตเห็นหากให้น้ำใจก็หมายความว่า นั่งคอยไปอีกพักนะ เพราะจะตามมาอีกยาวเหยียด นี่อาจเป็นสาเหตุที่หยุดรถให้คนในซอยไปก่อนนั้นไม่ง่ายนัก..ยังมีคำอธิบายอีกยาวเกี่ยวกับประเด็นนี้

ผมพูดกับลูกสาวว่า หากระหว่างเข้าแถวเพื่อจะรอการเคลื่อนตัวไปนี้ รถคันใดคันหนึ่งเกิดเสีย มีปัญหา รถอีกจำนวนมากก็ถูกกระทบไปด้วย หากการเข้าออกซอยไม่เป็นไปตามกติกา จราจร มันคงวุ่นวาย

ที่คิวรถไปต่างจังหวัดในวันหยุดยาวหากไม่เข้าคิวและเป็นไปตามลำดับด้วยสามัญสำนึก ความขุ่นข้องหมองใจของคนที่ถูกละเมิดสิทธิข้างหลังก็จะนึกตำหนิในใจ แรงๆก็จะออกปากกันไปเลย

ผมนั่งรถให้ลูกสาวขับไปที่มหิดลอินเตอร์ที่เธอเรียนโทอยู่ เพราะเธอตื่นสาย จึงรีบขับรถ ได้ยินเธอสบถเพราะรถคันหน้าขับช้า …???!!!!!


ผมนั่งนึกในใจว่ายิ่งสถานที่มีความเป็นระบบเมืองมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องการการปฏิบัติตามกฎ กติกามากขึ้นที่สุด ยิ่งต้องสังเกตสังกา เอาใจเขามาใส่ใจเรามากเท่านั้น มิเช่นนั้นระบบจะกระทบไปหมด แต่คนไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมแล้วเขาก็ทำตามโปรแกรมไปเรื่อยๆ คนมันมีกิเลสตัณหา อุปาทาน ยิ่งใครมีมากก็ยิ่งไปกระทบระบบเมืองมากทั้งต่อหน้าและลับหลัง และปัจจุบันก็ไร้รูปแบบมากขึ้นจนคนจำนวนไม่น้อยมองไม่ออกว่านั่นผิดกติกาของสังคมนะ

แล้วสังคมเมืองมันมีระบบที่ซับซ้อนมากมาย ก่ายเกี่ยวกัน ยากที่คนที่อาศัยอยู่ทุกผู้ทุกคนทุกซอกหลืบของพื้นที่จะเข้าใจถ่องแท้ เขาก็เรียนรู้เอาจากสิ่งปรากฏต่อหน้าทุกวี่ทุกวันนั่นแหละ เขาก็เรียนรู้จากสื่อที่ประโคมทุกนาทีที่หน้าจอทีวี แผงหนังสือและสื่อคอมพิวเตอร์หลากหลาย

ไอ้บักจ่อยเลี้ยงควายเลี้ยงวัวอยู่ที่ราบสูงดีดี หรือทิดมากแห่งลุ่มเจ้าพระยาเข้ามากรุงเทพฯไม่นานก็มาขับแท็กซี่ ชำนาญกรุงเทพฯมากกว่าคนกรุงเทพฯอีก

 

วันนั้นผมนั่งแท็กซี่กลับเข้าบ้านคุยกับคนขับกันไป ช่วงหนึ่งคนขับบอกว่า …คุณครับเดี๋ยวนี้ไม่มีนักการเมืองคนไหนกล้ามาแสดงนโยบายแก้ปัญหาจราจรกรุงเทพฯแล้ว…..หุหุ

 

ผมไม่มีความเห็นครับ..



Main: 0.033958911895752 sec
Sidebar: 0.056735038757324 sec