ไอหมอกลอยอ้อยอิ่งห่มคลุมขุนเขาในยามเช้า แลเห็นสีเหลืองทองรางๆของดวงตะวัน และเคลื่อนไหวกลายเป็นพระชราที่อุ้มบาตร ตามหลังด้วยเด็กชายที่ไว้หางเปียตัวน้อยสะพายย่ามเดินตามมาด้วย
ความอ่อนน้อมสงบเสงี่ยม หญิงชราอยู่หน้าบ้านห่มสไบเฉียงขาว ยกขันข้าวทูนขึ้นเหนือหัวขณะหลับตาปากพึมพำเบาๆ ดั่งจะขอพรให้ยามเช้านี้เป็นวันแห่งความศักดิ์สิทธิ์และดีงาม ขณะตักข้าวจากขันลงใส่บาตรพระพร้อมกับคาวหวาน มีมะม่วงสุกปากตะกร้อที่สุกคาต้นหย่อนลงมาด้วย ทำให้สายตาของเด็กหางเปียที่เดินตามหลังพระมาถึงกับตาลุกวาว
ที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียน พวกเด็กๆกำลังล้อมวงมุมดูเด็กหางเปียคนนั้นกำลังกอดปล้ำต่อยกันกับเด็กชายอีกคนหนึ่ง ขณะที่ครูผู้หญิงวิ่งเข้ามายุติ และถามว่าใครเป็นคนต่อยกัน เด็กที่ถูกต่อยจึงชี้ไปที่เด็กหางเปียว่าเป็นคนลงมือต่อยก่อน ครูสาวจึงหันไปถามเด็กชายเปีย “เธอต่อยเขาก่อนจริงหรือเปล่า” เด็กชายเปียก้มหน้าพยักหน้ารับคำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ครูจึงให้ยืนหันหลัง และใช้ไม้เรียวหวดไปที่ก้นอย่างแรง 5 ครั้ง
ท่ามกลางที่เด็กนักเรียนยืนมุงดูมากมาย เด็กชายเปียยังคงสงบข่มความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในใจ ครูสาวจึงเอ่ยถามว่า “เปีย เธอต่อยสมชายทำไม” เด็กชายเปียค่อยๆเอามือล้วงประเป๋ากางเกง หยิบมะม่วงสุกปากตะกร้อลูกนั้นออกมา แล้วยื่นส่งให้คุณครูซึ่งมองดูด้วยความฉงนสงสัยโดยไม่ยื่นมือออกไปรับ แต่สายตาเพ่งใส่เด็กชายเปียด้วยความคาดคั้น เด็กชายเปียสบตาคู่นั้นแล้วกล่าวว่า “ผมขอมะม่วงสุกปากตะกร้อจากหลวงตามาฝากคุณครู แต่สมชายแย่งเอาไป ผมจึงต่อยเขา”…..
ขณะนั้นเองที่น้ำตาของเด็กชายเปียเริ่มหลั่งไหล มือยังถือมะม่วงยื่นให้คุณครูอย่างวิงวอนร้องขอให้คุณครูช่วยรับไปด้วย………
(ผมขออนุญาตคัดลอกมาเพียงแค่นี้ เพราะแค่นี้ก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่สนั่น หวั่นไหวไปทั่วกายแล้วครับ ……)
————-
จากเรื่อง “น้ำตาแห่งความสุข” หนังสือ ความสุขที่ไม่ควรสูญเสีย โดยพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส แห่งผาซ่อนแก้ว หน้า 251
กราบพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส กราบขอบพระคุณป้าจุ๋มเป็นยิ่งนัก เรื่องแรกที่ผมอ่านก็ปิติเป็นล้นพ้นแล้วครับป้าจุ๋ม