พ่อครูบาฯต้องไปตรวจสุขภาพประจำที่ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น ซึ่งผมเดาเอาว่า พ่อครูบาฯมีบัตรทองรักษาทุกโรค ยกเว้นโรคทางใจ อิอิ.. แต่เมื่อมาใช้บริการที่ รพ.ศรีนครินทร์ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้เพราะข้ามเขต… เมื่อข้ามเขตก็ต้องจ่ายเงิน
น้องหมอเจ๊ท่านปรารถนาดี ในฐานะที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่รู้เรื่องนี้ดี ก็แนะนำว่า พ่อครูบาฯสามารถโอนย้ายสิทธิบัตรทองนี้ไปที่ขอนแก่นได้ หากเป็นไปได้ ก็จะไม่เสียเงินแต่อย่างใด สามารถใช้สิทธิบัตรทองได้เต็มที่
น้องหมอเจ๊แนะนำว่า พี่บู๊ดบ้านอยู่ขอนแก่น หากโอนย้ายที่พักพ่อครูบามาเข้าทะเบียนบ้านพี่บู๊ด ก็สามารถดำเนินการต่อเนื่องเรื่องการโอนสิทธิการใช้ประโยชน์บัตรทองของพ่อครูบามาที่ รพ.ในขอนแก่นได้เลย ซึ่งเป้าหมายคือ รพ.ศรีนครินทร์
หมอเจ๊ได้แนะนำเบื้องต้นว่ามีเพื่อนเป็น ผอ. สป.สช.เขตขอนแก่นแนะนำให้พี่บู๊ดไปติดตามเรื่องการย้ายสิทธินี้ให้ด้วย ความจริงระบบระเบียบก็เหมือนกัน แต่ที่ขอนแก่นอาจจะมีรายละเอียดพิเศษอะไร ก็ขอไปศึกษาติดตามหน่อย แล้วมาปรึกษากัน
ผมเข้ามาขอนแก่นเมื่อวานค่ำ เช้าวันนี้จึงตระเวนไปศึกษาเรื่องนี้
โอ…ผมได้ประโยชน์มาก ได้เรียนรู้หลายประการเกี่ยวกับสิทธิการรักษาพยาบาล ในโรงพยาบาลของรัฐตามสิทธิ ซึ่งผมก็มีประกันสุขภาพ
ที่ สำนักงาน สป.สช. (เลข1) ผมไม่พบ ท่านผอ.ท่านติดธุระอื่น มีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้คำแนะนำ ดีมากๆ ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ ให้รายละเอียด ค้น internet ข้อมูลของท่านครูบาฯ ข้อมูลของครอบครัวผมเพื่อดูลู่ทางว่ามีทางใดบ้างที่จะดำเนินการในเรื่องนี้
เจ้าหน้าที่แนะนำให้ผมไปศึกษารายละเอียดกับสำนักงานท้องถิ่นในพื้นที่ที่ผมเคยติดต่อ (ลูกขวัญผมเคยใช้สิทธิผ่าตัดต่อมทอลซิล) ผมไปที่สำนักงานดังกล่าวที่เลข 2 พบคุณพยาบาลอ้วนตึบกำลังงานเข้า ก็ยืนคอยครู่หนึ่งท่านเห็นเข้าก็เรียกไปถาม ผมอธิบายท่านแล้ว ท่านก็ให้คำแนะนำละเอียดยิบ แต่เพื่อความแน่ใจให้ไปติดต่อศูนย์อนามัยชุมชนที่สร้างขึ้นใหม่สดๆร้อนๆ ใกล้บ้านผมที่หมายเลข 3
ที่นั่น เจ้าหน้าที่สตรีต้อนรับดีมาก กระฉับกระเฉง อธิบายเป็นขั้นตอน อาจเป็นเพราะคนไข้ไม่มาก ไม่ยุ่งก็ได้ คำแนะนำนั้นทำให้ผมกระจ่างมากขึ้นเรื่อยๆถึงสิทธิและขอบเขตความรับผิดชอบของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น และ รพ.ศรีนครินทร์
สรุปว่าบ้านพักของผมนั้นอยู่ในเขตความรับผิดชอบของ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่อาจไปใช้สิทธิที่ รพ.ศรีนครินทร์ได้ แต่ก็มีสองกรณีที่สามารถไปศรีนครินทร์ได้คือ
-
คนไข้เข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นแล้ว คณะแพทย์ศูนย์ขอนแก่นมีความเห็นว่าให้ไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ ก็จะส่งคนไข้ไปที่นั่น
-
คนไข้ต้องการไปรักษากับแพทย์ประจำที่ รพ.ศรีนครินทร์เอง ก็ไปได้เลยแต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์บัตรได้ นั่นหมายความว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง(ซึ่งไม่ใช่ความประสงค์)
อื่นๆ
-
มีคำแนะนำจาก สป.สช.ว่าให้พยายามอธิบายคุณหมอที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นว่า รักษาประจำกับคุณหมอที่ รพ.ศรีนครินทร์จึงขอให้กรุณาโอนย้ายสิทธิไปที่ รพ.ศรีนครินทร์เลยจะได้ไหม ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นกับการติดสินใจของแพทย์ผู้ทำการรักษา…
เพื่อความรอบคอบผมไปที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น หมายเลข 4 เพื่อพบเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสุขภาพประจำ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ผมได้พบเจ้าหน้าที่สาวสวย ซักถามผมแล้วเราก็พูดกัน ผมได้ข้อมูลที่ซ้ำๆจนมั่นใจว่า
-
การโอนย้ายทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ผมเตรียมเอกสาร สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลงนามรับรอง
-
พิเศษคือสำเนาทะเบียนบ้านนั้นให้ผมระบุ ยืนยันว่าพ่อครูบามาเป็นสมาชิกมรครอบครัวนี้ โดยไม่จำเป็นต้องย้ายมาจริงๆ
-
ผมมอบเอกสารทั้งสองนั้นให้พ่อครูบาไปแสดงต่อ สำนักงานประกันสุขภาพแห่งนั้นๆ หรือฝ่ายประกันสุขภาพประจำโรงพยาบาลนั้นๆ แล้วทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ แต่ต้องคอยการออกบัตรใหม่ประมาณ 45 วัน แต่(ทราบว่าระหว่างนั้นสามารถใช้เอกสารสำรองไปใช้สิทธิได้)
-
ข้อมูลอื่นๆคือ ส่วนใหญ่คุณหมอมักจะไม่ส่งสิทธิต่อไปที่อื่นยกเว้นกรณีจำเป็นจริงๆ ตรงข้ามที่ รพ.ศรีนครินทร์เสียอีกที่ส่งมาที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น เหตุผลที่สำคัญคือ ที่ รพ.ศรีนครินทร์นั้นเป็นโรงเรียนแพทย์ ต้นสังกัดคือ ทบวงมหาวิทยาลัย ไม่ใช่กระทรวงสาธารณะสุข เช่น รพ.ศูนย์ขอนแก่น ดังนั้น รพ.ศรีนครินทร์จึงมักมีเป้าหมายต่อคนไข้ที่แตกต่างออกไป
ก่อนออกมาจาก รพ.ศูนย์ขอนแก่น คุยกับเจ้าหน้าที่ว่า หนทางที่ดีที่สุดคือ ให้หาคนที่อยู่ในเขตบริการของ รพ.ศรีนครินทร์ แล้วย้ายพ่อครูบาฯไปเข้าทำเบียนย้ายที่นั่น โดยไม่ต้องมาทำที่ รพ.ศูนย์ซึ่งเสี่ยงว่าจะไม่สามารถโอนสิทธิไปที่ รพ.ศรีนครินทร์ได้
ผมนึกถึง อ.แป๋ว อ.หมอเจเจ คุณพยาบาลอุบล นึกถึงป้าหวาน ซึ่งเป็นกลุ่ม blogger แต่ที่แน่ๆได้สบายคือลูกน้องของคนข้างกายหลายคนที่มีที่พักในขอบเขตความรับผิดชอบของศรีนครินทร์ และเธอเหล่านั้นก็ยินดี
เพื่อความมั่นใจผมควรจะไปสอบถามต้นเรื่องดีกว่า คือ ฝ่ายประกันสุขภาพของ รพ.ศรีนครินทร์ หมายเลข 5 ผมไปถึงช่องระบุเรื่องการโอนสิทธิ์ เจ้าหน้าที่นั่งว่างงานพอดี ผมอธิบายยาวยืด เจ้าหน้าที่ท่านก็นั่งยิ้มแป้นให้ผม…เมื่อผมอธิบายเสร็จท่านก็กล่าวว่า
คุณคะ..โควต้าประกับสุขภาพบัตรทองที่จะมาใช้ที่รพ.ศรีนครินทร์นี้หมดแล้วค่ะ หมดตั้งแต่ปี 2549 แล้วค่ะ
ผม..????!!!!! จบกัน เดินเรื่องมาทั้งวัน มาจบเอาสุดท้ายนี่เอง…
สรุปคือ
-
การโอน-ย้าย สิทธิประกันสุขภาพนั้นทำได้ และทำได้ง่ายด้วย
-
เมื่อมีสิทธิที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นจะขอไปใช้สิทธิที่ รพ.ศรีนครินทร์ด้วยตัวเองไม่ได้ กระทำได้ก็ต่อเมื่อ แพทย์เป็นผู้ตัดสินใจย้ายผู้ป่วยอันเนื่องจากเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น
-
กรณี รพ.ศรีนครินทร์นั้นเนื่องจากเป็นโรงเรียนแพทย์ จึงรับการประกันสุขภาพในปริมาณคนไข้ที่จำกัดเท่านั้น ซึ่ง รพ.ศรีนครินทร์ก็ไม่รับเพิ่ม ไม่รับโอน ย้ายสิทธิแล้วตั้งแต่ปี 2549 เพราะปริมาณมากแล้ว
-
หากต้องการใช้สิทธิบัตรทองที่ขอนแก่นทำได้เฉพาะการโอนย้ายมาที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นเท่านั้น ในกรณีนี้ย้ายโดยผมเป็นผู้จัดทำเอกสารระบุยืนยันการเข้าพักอาศัยในทะเบียบบ้านของผม โดยไม่ต้องย้ายมาจริง แล้วใช้สิทธินี้ย้ายสิทธิบัตรทองจากบุรีรัมย์มารพ.ศูนย์ขอนแก่นได้เลย แต่ใช้สิทธิได้เฉพาะที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นเท่านั้น..
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมศึกษามาในวันนี้ครับ จึงเรียนมายังพ่อครูบาฯ และหมอเจ๊ด้วยครับเพื่อปรึกษาหาทางอื่นๆต่อไป