ปรากฏการณ์ที่บ้านเลขที่ 888/8
อ่าน: 2069เมื่อคืนผมไปร่วมงานชุมนุมนักศึกษาเก่าคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่นปี 13 ซึ่ง มช.จะใช้รหัส 132… เลขสองตัวแรกคือ พ.ศ.ที่เข้า เลขตัวที่สามคือเลข 2 คือเลขประจำคณะศึกษาศาสตร์
เห็นบอกว่าคราวนี้มากันมากที่สุด 52 คนจากทั้งหมด ร้อยกว่าคน กิจกรรมส่วนใหญ่ก็คือ กิน คุย ถามไถ่หากันโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มาร่วมงาน ซึ่งผู้นำก็พยายามทำให้เป็นลักษณะกึ่งรูปแบบเพื่อให้สาระงานเดินไปและสบายๆ ซึ่งดำเนินไปได้ดีมากทีเดียวชื่นชมน้องๆที่จัดการได้ดี
นอกจากแกนนำรุ่นจะเอาผมเป็นเซอร์ไพรซ์ว่ามีรุ่นพี่เข้าร่วมด้วยหนึ่งคนแล้ว ซุปเปอร์เซอร์ไพรซ์คืออุดม อย่างที่กล่าวไว้ในบันทึกก่อน แกนนำให้ทายกันว่าเป็นใคร แน่นอนไม่มีใครทายถูก และแล้วสิ่งที่ฮือฮาแบบอธิบายไม่ถูกก็ดังลั่น ทั้งดีใจ ไม่เชื่อใจ ฯ… แกนนำให้อุดมอธิบายชีวิตให้เพื่อนฟังนานที่สุด
อุดมเป็นคนนครศรีธรรมราช กำลังเติบโตที่มหิดลกำลังเป็นอาจารย์และได้รับทุนไปทำปริญญาเอกต่างประเทศ แล้วชตากรรมก็เกิดขึ้น ป่วยหนักจนคุณหมอลงความเห็นว่าไม่รอด.. อุดมลาออกมุ่งสู่สายธรรมอย่างถวายชีวิตทางอีสาน หลายปีต่อมาความมหัศจรรย์ของธรรมช่วยให้เขาหายจากโรคไปได้ แต่ก่อนบวชเขามีลูกชายและยังมีห่วงจึงลาสิกขากลับมาเริ่มชีวิตใหม่จากที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็ค่อยๆสะสมและทำธุรกิจซื้อขายขี้ยาง และยางและอื่นๆเกี่ยวกับสานยางพาราในภาคอีสาน อุดมบอกว่าเขาทำงานในอาชีพทางโลกพร้อมกับทำบุญทำทาน เขาสร้างเจดีย์ให้วัดมาแล้วสามองค์มูลค่ามากกว่า 40 ล้านบาท และกิจกรรมอื่นๆเกี่ยวกับศาสนา
อุดมกล่าวว่าชีวิตเขาตายมาสองครั้ง ครั้งแรกคือการตายจากปุถุชนก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร และเขาตายอีกครั้งจากพระมาเป็นบุคคลธรรมดา เขาดีใจที่เข้าร่วมในวันนี้ และอาสาเป็นเจ้าภาพการชุมนุมครั้งต่อไป..
ผมไม่ขอกล่าวรายละเอียดอื่นๆเพราะคงเดากันออก แต่อยากพูดถึงความรู้สึกที่ประทับใจอีกประการหนึ่งคือ น้องรุ่นนี้ต่างแยกย้ายไปตามวิถีตัวเอง แน่นอนส่วนใหญ่เป็นครู เป็นอาจารย์ ตามวิชาชีพหลักที่เรียนมา แต่มีหลายคนเป็นนายธนาคาร เป็นนายตำรวจ เป็นนักการคลัง เป็นพ่อค้านักธุรกิจใหญ่ และบางคนไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ
ตี๋ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งที่ไปใช้ชีวิตที่ อเมริกา แต่กำลังเผชิญปัญหาใหญ่สุด คือ มีปัญหาครอบครัวมาก ตกงาน และที่ร้ายที่สุดกำลังเป็นมะเร็ง….??!!! เพื่อนๆแนะนำให้กลับมาเมืองไทยมารักษาที่เมืองไทยเพื่อนๆจะช่วยกัน…
แกนนำรุ่นบอกว่า ตี๋ เขามีความสามารถพิเศษในด้านกาพย์กลอนจึงใช้เวลาอดิเรกแปลเพลงเก่าๆในยุค 60 เป็นร้อยกรอง เพื่อนจึงเสนอให้จัดพิมพ์แล้วเพื่อนๆช่วยกันซื้อ หรือขาย แต่ไม่สามารถวางขายได้ เพราะเพลงมีลิขสิทธิ์ เงินที่ได้จะรวบรวมให้เขามาใช้ชีวิตในเมืองไทยช่วงตรวจรายละเอียดของอาการโรคและแนวทางการรักษา เพราะในอเมริกานั้นค่ารักษาพยาบาลแพงมากๆ ในสถานภาพปัจจุบันของตี๋ไม่สามารถทำได้…..
เพื่อนตกลงกันว่าราคาเล่มละ 250 บาทมีประมาณ 200 หน้า คาดว่าจะพิมพ์ประมาณ 300 เล่มหรือเท่าที่จะมียอดสั่งซื้อ จองเกิดขึ้นเท่านั้น..
ผมนั่งฟังแล้วก็ประทับใจน้องๆที่จัดการในเรื่องนี้ร่วมกัน นี่คือผลของสถาบัน รุ่น และการบริหารจัดการ เป็นแรงเกาะเกี่ยวทางสังคมอีกชนิดหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทย แรงเกาะเกี่ยวที่เกี่ยวกันด้วยน้ำใจ ความเอื้ออาทรแก่กัน ความรัก ความหวังดี ปรารถนาดีต่อกัน โดยมีจุดเริ่มมาจากรุ่น คณะ สถาบัน และโอกาสในการรวมตัวกัน
แรงเกาะเกี่ยวเช่นนี้เป็นพลังชนิดหนึ่งของสังคมไทย ที่สามารถนำไปใช้สร้างสรรค์สังคมได้กว้างขวาง
ผมคุยกับแกนนำว่า รุ่นพี่ก็มีกลุ่ม มีการรวมตัวกันเช่นนี้ทุกปีเหมือนกัน จะขอรายละเอียดเรื่องตี๋ และจะนำไปขยายต่อ เพื่อระดมแรง เพิ่มแรงเกาะเกี่ยว เพิ่มพลัง ในการอาทรต่อกันยามที่สมาชิกเดือดร้อนเกี่ยวกับชีวิตเช่นนี้
ผมเห็นแรงเกาะเกี่ยวชัดเจนที่บ้านเลขที่ 888/8 เช่นนั้นจริงๆ