ปรากฏการณ์ที่บ้านเลขที่ 888/8

โดย bangsai เมื่อ มิถุนายน 17, 2012 เวลา 10:23 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2069

เมื่อคืนผมไปร่วมงานชุมนุมนักศึกษาเก่าคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รุ่นปี 13 ซึ่ง มช.จะใช้รหัส 132… เลขสองตัวแรกคือ พ.ศ.ที่เข้า เลขตัวที่สามคือเลข 2 คือเลขประจำคณะศึกษาศาสตร์

เห็นบอกว่าคราวนี้มากันมากที่สุด 52 คนจากทั้งหมด ร้อยกว่าคน กิจกรรมส่วนใหญ่ก็คือ กิน คุย ถามไถ่หากันโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มาร่วมงาน ซึ่งผู้นำก็พยายามทำให้เป็นลักษณะกึ่งรูปแบบเพื่อให้สาระงานเดินไปและสบายๆ ซึ่งดำเนินไปได้ดีมากทีเดียวชื่นชมน้องๆที่จัดการได้ดี

นอกจากแกนนำรุ่นจะเอาผมเป็นเซอร์ไพรซ์ว่ามีรุ่นพี่เข้าร่วมด้วยหนึ่งคนแล้ว ซุปเปอร์เซอร์ไพรซ์คืออุดม อย่างที่กล่าวไว้ในบันทึกก่อน แกนนำให้ทายกันว่าเป็นใคร แน่นอนไม่มีใครทายถูก และแล้วสิ่งที่ฮือฮาแบบอธิบายไม่ถูกก็ดังลั่น ทั้งดีใจ ไม่เชื่อใจ ฯ… แกนนำให้อุดมอธิบายชีวิตให้เพื่อนฟังนานที่สุด

อุดมเป็นคนนครศรีธรรมราช กำลังเติบโตที่มหิดลกำลังเป็นอาจารย์และได้รับทุนไปทำปริญญาเอกต่างประเทศ แล้วชตากรรมก็เกิดขึ้น ป่วยหนักจนคุณหมอลงความเห็นว่าไม่รอด.. อุดมลาออกมุ่งสู่สายธรรมอย่างถวายชีวิตทางอีสาน หลายปีต่อมาความมหัศจรรย์ของธรรมช่วยให้เขาหายจากโรคไปได้ แต่ก่อนบวชเขามีลูกชายและยังมีห่วงจึงลาสิกขากลับมาเริ่มชีวิตใหม่จากที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ก็ค่อยๆสะสมและทำธุรกิจซื้อขายขี้ยาง และยางและอื่นๆเกี่ยวกับสานยางพาราในภาคอีสาน อุดมบอกว่าเขาทำงานในอาชีพทางโลกพร้อมกับทำบุญทำทาน เขาสร้างเจดีย์ให้วัดมาแล้วสามองค์มูลค่ามากกว่า 40 ล้านบาท และกิจกรรมอื่นๆเกี่ยวกับศาสนา

อุดมกล่าวว่าชีวิตเขาตายมาสองครั้ง ครั้งแรกคือการตายจากปุถุชนก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร และเขาตายอีกครั้งจากพระมาเป็นบุคคลธรรมดา เขาดีใจที่เข้าร่วมในวันนี้ และอาสาเป็นเจ้าภาพการชุมนุมครั้งต่อไป..

ผมไม่ขอกล่าวรายละเอียดอื่นๆเพราะคงเดากันออก แต่อยากพูดถึงความรู้สึกที่ประทับใจอีกประการหนึ่งคือ น้องรุ่นนี้ต่างแยกย้ายไปตามวิถีตัวเอง แน่นอนส่วนใหญ่เป็นครู เป็นอาจารย์ ตามวิชาชีพหลักที่เรียนมา แต่มีหลายคนเป็นนายธนาคาร เป็นนายตำรวจ เป็นนักการคลัง เป็นพ่อค้านักธุรกิจใหญ่ และบางคนไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ

ตี๋ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งที่ไปใช้ชีวิตที่ อเมริกา แต่กำลังเผชิญปัญหาใหญ่สุด คือ มีปัญหาครอบครัวมาก ตกงาน และที่ร้ายที่สุดกำลังเป็นมะเร็ง….??!!! เพื่อนๆแนะนำให้กลับมาเมืองไทยมารักษาที่เมืองไทยเพื่อนๆจะช่วยกัน…

แกนนำรุ่นบอกว่า ตี๋ เขามีความสามารถพิเศษในด้านกาพย์กลอนจึงใช้เวลาอดิเรกแปลเพลงเก่าๆในยุค 60 เป็นร้อยกรอง เพื่อนจึงเสนอให้จัดพิมพ์แล้วเพื่อนๆช่วยกันซื้อ หรือขาย แต่ไม่สามารถวางขายได้ เพราะเพลงมีลิขสิทธิ์ เงินที่ได้จะรวบรวมให้เขามาใช้ชีวิตในเมืองไทยช่วงตรวจรายละเอียดของอาการโรคและแนวทางการรักษา เพราะในอเมริกานั้นค่ารักษาพยาบาลแพงมากๆ ในสถานภาพปัจจุบันของตี๋ไม่สามารถทำได้…..

เพื่อนตกลงกันว่าราคาเล่มละ 250 บาทมีประมาณ 200 หน้า คาดว่าจะพิมพ์ประมาณ 300 เล่มหรือเท่าที่จะมียอดสั่งซื้อ จองเกิดขึ้นเท่านั้น..

ผมนั่งฟังแล้วก็ประทับใจน้องๆที่จัดการในเรื่องนี้ร่วมกัน นี่คือผลของสถาบัน รุ่น และการบริหารจัดการ เป็นแรงเกาะเกี่ยวทางสังคมอีกชนิดหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทย แรงเกาะเกี่ยวที่เกี่ยวกันด้วยน้ำใจ ความเอื้ออาทรแก่กัน ความรัก ความหวังดี ปรารถนาดีต่อกัน โดยมีจุดเริ่มมาจากรุ่น คณะ สถาบัน และโอกาสในการรวมตัวกัน

แรงเกาะเกี่ยวเช่นนี้เป็นพลังชนิดหนึ่งของสังคมไทย ที่สามารถนำไปใช้สร้างสรรค์สังคมได้กว้างขวาง

ผมคุยกับแกนนำว่า รุ่นพี่ก็มีกลุ่ม มีการรวมตัวกันเช่นนี้ทุกปีเหมือนกัน จะขอรายละเอียดเรื่องตี๋ และจะนำไปขยายต่อ เพื่อระดมแรง เพิ่มแรงเกาะเกี่ยว เพิ่มพลัง ในการอาทรต่อกันยามที่สมาชิกเดือดร้อนเกี่ยวกับชีวิตเช่นนี้

ผมเห็นแรงเกาะเกี่ยวชัดเจนที่บ้านเลขที่ 888/8 เช่นนั้นจริงๆ

« « Prev : เรื่องราวจะเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 888/8

Next : เป็นต่อ.. » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 เวลา 11:25

    คนอยู่เมืองศิวิไลซ์ ป่วยเป็นมะเร็งกันมาก คนบ้านเราก็ป่วยด้วยโรคนี้กันมากขึ้น เรื่องของตัวจี๊ดในคนอีสานเป็นตัวอย่างว่าพฤติกรรมการกินเป็นต้นเหตุนำมาซึ่งตัวก่อโรคร้าย น่าสนใจว่าเพื่อนพี่มีพฤติกรรมการกินที่สำคัญอย่างไรค่ะ องค์ความรู้เรื่องพฤติกรรมการกิน การอยู่ ในกลุ่มคนที่ป่วยเป็นมะเร็ง เป็นข้อมูลทางระบาดวิทยาที่ยงรู้กันน้อยค่ะพี่

    อีกอย่างหนึ่งของคนในแดนศิวิไลซ์ที่เหมือนกันคือ มีชีวิตแบบกิน นอน อยู่ เคลื่อนไหว สบายๆด้วยเครื่องทุ่นแรงเต็มไปหมด ชีวิตที่สะดวกสบายเหล่านี้ reset โปรแกรมธรรมชาติป้องกันของคนให้เฉื่อยชา หลับไหล ตื่นมาอีกทีก็เอาไม่อยู่แล้ว

    ชีวิตแต่ละวันของเพื่อนพี่ ไลฟ์สไตล์ที่แกะรอย ออกมาเล่าสู่กันฟังได้ ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่น่าสนใจ และนำมาเป็นเรื่องราวเรียนรู้ผ่านตัวหนังสือได้ค่ะพี่ หากจดจารลงเป็นรูปเล่ม ใช่แต่จะสร้างรายได้ให้ ปากต่อปาก มือต่อมือ ยังให้กุศล ช่วยคน ให้เกิดปัญญากระตุกคิด ยั้งการก้าวเดินเข้าสู้โลกศิวิไลซ์ เตือนตนให้ก้าวเดินเข้าสู่ทีละย่างก้าวให้สมดุล

    เชียร์ให้เขียนเล่าไลฟ์สไตล์ด้วยค่ะพี่

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 เวลา 14:25

    โฮ….เป็นความคิดที่ดีมากครับ ขอบคุณมากครับ พี่จะเอาไปเสนอให้แกนนำเขาติดต่อน้องที่อยู่อเมริกาพิจารณาน่าที่จะโอเค และเห็นด้วยว่าเป็นประโยชน์ยิ่งนัก อาจจะรวมเรื่องราวการต่อสู้โรคร้ายของอุดมด้วยอีกคน ที่สามารถจะห่างหายจากโรคร้ายด้วยธรรมะ ขอบคุณมากครับ

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 เวลา 17:27

    การเขียนในมุมที่น้องเสนอ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยนะพี่ ประเด็นทางแง่มุมด้านระบาดวิทยา เชื่อว่าพี่สามารถช่วยเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ได้ ผ่านแง่มุมด้านสังคมระบาดวิทยาชุมชนได้ด้วยนะพี่

  • #4 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 เวลา 23:39

    ครับ เมื่อเย็น ได้เอาความคิดนี้ไปคุยกับน้องผู้ประสานงานรุ่น ก่อนที่เขาจะกลับไปเชียงใหม่ เขาเห็นด้วยและจะประสารวานกับน้องคนที่อยู่ ‘เมกา ครับ ขอบคุณมากครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.02436089515686 sec
Sidebar: 0.027897119522095 sec