ผมเป็นนักอนุรักษ์นิยม..?

ไม่มีความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ มิถุนายน 2, 2012 เวลา 21:31 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 1533

ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมเรียนที่ มช. ปี 2512 นั้น วงสังคมกำลังคลั่งไคล้ค่านิยมบางอย่างที่มาจากตะวันตก เช่น การไว้ผมยาว ฟังเพลงร๊อก คุยกันถึงอิสรภาพ การปลดปล่อย สันติภาพ….. หลายเรื่องเป็นประเด็นใหญ่ในสังคม ในมหาวิทยาลัยก็มีการจัดเวทีอภิปราย มีมุมสนทนา และมีการเขียนบทความในหนังสือภายในมหาวิทยาลัย

ผมนั้นมาจากบ้านนอก ครอบครัวปิด คือเติบโตมาด้วยครอบครัวใหญ่ที่ต้องทำงานหนักมาตั้งแต่เด็ก ไปเรียนกรุงเทพฯก็พักอาศัยกับคุณตาคุณยายที่นับถือกันมิใช่ญาติแท้ ความเกรงใจ ความไม่กล้า และเจียมเนื้อเจียมตัวทำให้ผมเก็บตัวมากกว่าที่จะจ๊ะจ๊ากับใครๆ เมื่อไปเรียน มช.เหมือนก้าวออกมาจากห้องที่ปิด แต่ผมโชคดีที่มีเพื่อนที่ดี มีกลุ่มที่เดินไปในทางที่ดี เป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมและเป็นนักอ่านนักพูดคุยแลกเปลี่ยน ถกเถียง ตั้งคำถาม

กระนั้นผมก็รื่นไหลไปกับค่านิยมวัยรุ่นสมัยนั้นคือ ผมบนหัวค่อนข้าง “ยาว” แต่ไม่ถึงกับห้อย “ย่าม” ใส่รองเท้า “ยาง” เมื่อปิดเทอมกลับไปบ้านวิเศษชัยชาญ พ่อผมโกรธมากที่เห็นผมยาว และไล่ให้ไปตัดผมเดี๋ยวนั้นทันที หากไม่ทำก็ถึงกับจะตัดลูกตัดพ่อกันเลยทีเดียว เรียกว่า พ่อรับไม่ได้ที่ผมไปเอาค่านิยมวัยรุ่นสมัยนั้นมาประพฤติ แม้ว่าผมจะมีความเห็นค้านในใจ ที่สมัยนั้นมักอธิบายการกระทำแบบนี้ว่า “การประพฤติดีไม่ดีไม่ได้อยู่ที่การแต่งตัว การไว้ผมยาว….” แต่ด้วยระบบครอบครัวโบราณผมไม่มีสิทธิที่จะพูดแบบนั้นหรอก แค่นึกในใจ แล้วผมก็เดินไปตัดผมสั้นปกติ….


เมื่อเวลาผ่านไปแม้ผมจะไว้ผมยาวกว่าปกติ พ่อผมก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไร แค่มองๆแค่นั้น อาจเป็นเพราะท่านเห็นว่าผมไม่ได้ประพฤติอะไรผิดไปจากสิ่งที่พ่อแม่คาดหวัง ผมไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรให้แก่ครอบครัว และไม่มีพฤติกรรมแบบวัยรุ่นสมัยนั้น ตรงข้ามผมทำงานชนบท และที่สะเมิงพ่อผมเคยเดินทางไปดูผมทำงานด้วยตนเอง และท่านก็ไม่ได้พูดอะไรที่ตำหนิผม แต่ชื่นชมที่ทำงานเพื่อสังคม

ผมมีลูกสาว ที่เขาเติบโตมาด้วยตัวเขาเองมากกว่าที่จะอยู่เคียงข้างเรา เพราะเราส่งเขาเรียนหนังสือนั่นเอง เมื่อเรามีโอกาสมาอยู่ใกล้ชิดกัน ผมก็พบว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ขัดหูขัดตาผม เพราะเธอก็คือวัยรุ่นของสมัยนี้ หลายครั้งผมก็พูด แต่เธอก็มีคำอธิบาย ทั้งที่ฟังได้และฟังไม่ขึ้นในทัศนะผม แต่ผมก็ไม่ใช้พฤติกรรมที่รุนแรงแต่ทำให้ดูเลย เช่นการมีระเบียบเรียบร้อย ในเรื่องส่วนตัว ในเรื่องส่วนรวมในบ้าน การฟังเพลง การดูหนัง ดูทีวี การกินการอยู่ การทำให้ดู ดูเหมือนจะเป็นการสอนที่ดีกว่าการเอาเหตุผลมาคุยกัน เพราะการคุยกันมันสร้างความเครียด

ผมมานั่งสรุปด้วยตัวเองว่า เด็กสมัยนี้อิสระทางความคิดที่สิ่งแวดล้อมเขามีอิทธิพล ก็เหมือนเราสมัยก่อน เพียงแต่ว่าสิ่งแวดล้อมสมัยนี้กับสมัยเรานั้นต่างกันไปแล้ว แต่หลายเรื่องก็ก้าวข้ามความเหมาะสมดีงามตามวัฒนธรรม ประเพณีของสังคมไทยไป แต่ไม่เลวร้ายเกินกว่าจะรับไม่ได้ เราจึงค่อยๆทำให้ดู


ผมได้รับเมล์จากเพื่อนรุ่นน้อง ส่งเอกสาร และภาพ แจ้งให้ทราบว่า ลูกสาวอาจารย์ของผมท่านหนึ่งที่เราเคารพรักมากและท่านเสียชีวิตไปแล้ว บุตรสาวรับมรดกที่ดินและอาคารกลางเมืองหลวงที่มีมูลค่าไม่น้อย แต่ก่อนที่ท่านอาจารย์จะเสียชีวิตท่านได้ตั้งมูลนิธิขึ้นมาเพื่อดูแลทรัพย์สมบัติและทำประโยชน์เพื่อสังคม แต่บุตรสาวท่านทำผิด มหันต์ ตั้งเป็นคลับ เสพยาเสพติด เป็นเอเย่นสาวสวยขายตัว และฯลฯ…มูลนิธิจึงฟ้อง……

เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวว่าที่นักศึกษาใหม่ มธ โพสต์ท่าที่รูปปั้นท่านผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือท่านปรีดี พนมยงค์ วงการวิภาคกันมากทั้งในทางที่ไม่ดีและที่เข้าใจได้

สังคมเคลื่อนตัวไป หน่อใหม่ของสังคมรื่นไหลไปตามสิ่งแวดล้อมปัจจุบัน แล้วแต่ว่าเขาและเธอจะตกไปอยู่ในวงไหน อย่างไร ครอบครัวมีส่วนในการขัดเกลามากน้อยแค่ไหน สังคมใกล้ชิด มีส่วนให้ความคิดมากน้อยแค่ไหน การกระทำที่เขาและเธออธิบายว่า นี่คือการแสดงสัญลักษณ์ถึงการปลดปล่อย มิใช่การดูถูกเหยียดหยามท่านอาจารย์ปรีดี

ผมไม่ทราบว่าท่านคิดอย่างไรนะ แต่ผมฟังเหตุผลไม่ขึ้น

เอ…รึว่าผมเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมไปแล้ว….



Main: 0.29485082626343 sec
Sidebar: 0.53469514846802 sec