12 พันนา(2): ถนน..ความแตกต่าง

207 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 25 มีนาคม 2009 เวลา 20:22 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป, ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 7977

เราเดินทางจากขอนแก่นไปเชียงของด้วยรถตู้เจ้าประจำ รู้ใจกันจนเป็นเพื่อนสนิทไปแล้ว เพราะใช้บริการกันบ่อย หรือกล่าวอีกทีคือเราเป็นลูกค้าใหญ่ที่สุด.. อย่างที่เกริ่นไว้ในลานเจ๊าะแจ๊ะว่าคนข้างกายผมเกือบไม่ได้ไปแล้วเพราะเธออาเจียนเสียจนไม่มีอะไรจะออกมาจากพุงแล้ว.. ทั้งนี้เพราะการขับรถบนพื้นที่ภูเขาที่วนไปวนมา เลี้ยวซ้าย ขวาตลอดเวลา ยิ่งหากคนขับรถคนไหนไม่นิ่มพอ เดี๋ยวเบรก กึกกัก เลี้ยวแบบเหวี่ยง อย่างนี้เสร็จ คนเมารถทนไม่ไหว.. แต่ปัจจัยสำคัญหนึ่งของคนเมารถก็คือ ร่างกายพักผ่อนไม่พอ..


เมื่อเราข้ามฝั่งลาว ก็นั่งรถตู้ของบริษัทลาว 2 คัน ถนน หนทางยิ่งแย่กว่าบ้านเรา และถนนโค้งไปมาตามไหล่ภูเขามากกว่าฝั่งไทย แต่โชคดีที่เป็นเวลากลางวัน คุณสุภาพสตรีหลายคนไม่เมาเพราะมองเห็นข้างทาง เธอว่าเช่นนั้น แต่เมื่อเข้าดินแดนจีนเราก็เปลี่ยนเป็นรถมินิบัสขนาดกลางตามภาพ


เส้นทางถนนก็คล้ายบ้านเราคือมักจะผ่าเข้าไปกลางหมู่บ้านและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และการที่โค้งไปมาจำนวนมากๆนั้นมีผลต่อเนื่องหลายประการ นี่ผมก็เพิ่งสังเกตนะครับ


เมื่อข้ามฝั่งประเทศจีนเพื่อเดินทางไปเมืองเชียงรุ้งนั้น มันช่างตรงข้ามเสียจริงๆ แม้ว่าจะเป็นเขตภูเขาแต่การก่อสร้างถนนนั้น กว้างกว่าฝั่งลาวและฝั่งไทย ถนนเป็นเส้นตรงแม้จะผ่านเขตภูเขาก็พยายามให้เป็นเส้นตรงมากที่สุด


เมื่อผ่านภูเขาก็เจาะอุโมงค์ใหญ่โต รถบรรทุกขนาดใหญ่ขับสวนกันอย่างสบาย จำนวนอุโมงค์จากด่าน จีน-ลาวไปเมืองเชียงรุ้งนั้นมีจำนวนมากถึง 27 แห่งมีความยาวต่างกันตั้งแต่ไม่ถึง 100 เมตรจนยาวถึง 4 กิโลเมตรเศษ จำนวนอุโมงค์นี้ไกด์เอามาทายเราช่วงขากลับเพื่อสนุกสนานและให้รางวัลเล็กๆน้อยๆ


เมื่อถนนต้องผ่านที่ต่ำก็ทำสะพานหลายแห่ง ยาวๆก็มี สั้นๆก็มี นี่เองที่ทำให้การเดินทางส่วนใหญ่เป็นเส้นตรง และแม้รถจะทำความเร็วได้ แต่เขาก็ขับไม่เกิน 80 กม.ต่อชม. ทำให้เกิดการประหยัดเชื้อเพลิงมาก

การที่ไม่ต้องปีนภูเขาแบบถนนในประเทศไทย ก็ทำให้ประหยัดและลดการสิ้นเปลืองของเครื่องยนต์ ลดอุบัติเหตุ

การที่ทำอุโมงค์ ช่วยให้เกิดระยะทางที่สั้นลง ก่อให้เกิดการประหยัด ปลอดภัยกว่า ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน

แม้ว่าการลงทุนจะสูงกว่าในช่วงการก่อสร้าง แต่ในระยะยาวแล้วจะประหยัดกว่า

ผมจึงเห็นด้วยในการทำอุโมงค์และสะพาน ดีกว่าการสร้างถนนเลาะไปตามไหล่เขาแบบโค้งไปมา

เฮ่อ..แตกต่างกันที่ระบบคิดหรือเปล่า..หรือว่าอย่างอื่น..


12 พันนา (1) : เรื่องที่ไม่อยากพบ

13 ความคิดเห็น โดย bangsai เมื่อ 25 มีนาคม 2009 เวลา 16:27 ในหมวดหมู่ เรื่องทั่วไป, ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 4286

ไม่ลำดับเรื่องที่ไปเที่ยวสิบสองปันนา อยากเขียนอะไรก็เขียน อิอิ กลัวลืม..


เรื่องแรกเป็นสิ่งที่พบในวันสุดท้ายที่เดินทางกลับ เป็นเรื่องที่ไม่อยากจะพบ ฮึ คนไทยทำกันได้…


ตลอดการเดินทางของเราราบรื่น และสนุกสนาน หัวเราะกันรถแทบแตกเพราะทั้งหมดเป็นเพื่อนร่วมงานของคนข้างกายและสนิทสนมกันมาก เราพบไกด์ไทยที่ดี ไกด์จีนยิ่งดี ก็เป็นความสุข พุดจาเย้าแหย่กันให้ครื้นเครง


วันเดินทางกลับเราก็ต้องรายงานตัวที่ด่านชายแดนจีน-ลาวตามปกติ วันที่เราเดินทางเข้าประเทศจีนเราต้องยืนเข้าคิวคอยนานเป็นชั่วโมง เพราะมีนักท่องเที่ยวคนไทยไปมากมายหลายชุด หลายบริษัท และพนักงานนายด่านจีนแม้เป็นคนหนุ่มสาวก็เอาจริงจังต่อการตรวจเอกกสารอย่างมาก แต่ละคนใช้เวลานาน และมีบางคนต้องคัดออกเพราะมีเอกสารบางอย่างไม่ชัดเจน คนนั้นก็เอะอะพอหอมปากหอมคอ ต่อว่าว่ามาเที่ยวตั้งหลายครั้งไม่เห็นมีอะไรทำไมเที่ยวนี้จึงติดขัด ดูเหมือนเจ้าหน้าที่จีนตอบว่า ก็มาบ่อยนี่แหละสงสัย….

วันเดินทางกลับเราเห็นคนไทยเข้าแถวรอการตรวจอยู่ก่อนแล้วหนึ่งแถว ล้วนเป็นผู้สูงอายุ ไกด์จีนของเราก็แนะนำให้เราเอาเอกสารแสดงต่างๆออกมาตรวจสอบการเขียนว่าครบถ้วนไหม แล้วให้สอดเข้าไปที่หน้านั้นหน้านี้ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจ แล้วไกด์ก็เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ ตม. แล้วเราก็เข้ายื่นเอกสารตรวจทีละคนตามลำดับที่จัดไว้แล้ว


ระหว่างนั้นเราสังเกตเห็นกลุ่มคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่มาก่อนเราไม่ขยับแถวเลย ยืนตรงไหนก็ตรงนั้น หน้าตาดูว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อพวกเราผ่านการตรวจเสร็จโดยไม่มีสิ่งใดต้องติดขัด จึงเดินเข้าไปไต่ถามคุณลุงคุณป้าเหล่านั้นว่าทำไมยืนตั้งนานจึงไม่เข้าไปตรวจสักที

ได้คำตอบว่า ไกด์จีนหนีไปแล้ว อ้าว…….ตายหละ เกิดอะไรขึ้น??????

ไกด์จีนของเราจึงเข้าไปเจรจากับ ตม.แล้วได้ความมาว่า เกิดปัญหาขึ้นระหว่างบริษัททัวร์ของไทยที่จัดทัวร์กลุ่มนี้มาประเทศจีน ไม่ดำเนินการตามข้อตกลงกับบริษัททัวร์จีนที่รับช่วงต่อในประเทศจีน คือไม่จ่ายเงินถึงสามครั้งแล้ว รวมเป็นเงิน 5 แสนบาท บริษัททัวร์จีนจึงดัดหลังโดยไม่จัดการการผ่านด่านให้ ยึดพาสปอร์ตลูกทัวร์คนไทยทุกคนไว้ จนกว่าบริษัทไทยที่กรุงเทพฯจะโอนเงินเข้าบัญชีที่เมืองจีนจึงจะดำเนินการต่อให้ เอาลูกทัวร์เป็นประกัน…. ทั้งๆที่ลูกทัวร์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

พวกเราได้ทราบเรื่องดังนั้นแล้วก็ตกใจ เข้าไปแสดงความเห็นใจและปรึกษาหารือว่าจะมีส่วนช่วยอะไรได้บ้าง

โถโถโถ….คุณลุงคุณป้าต้องมาโดนลอยแพอย่างนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร ได้.. พูดจีนก็ไม่ได้ พูดอังกฤษก็ไม่ได้ จะติดต่อใครก็ไม่ได้..

ดูเป็นเรื่องเกินความสามารถของเราเพราะเป็นเรื่องของผู้มีหน้าที่เฉพาะจะเข้ามาจัดการ และนี่เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ระหว่างบริษัททัวร์ นอกจากเราจะลุ้นให้ไกด์จีนของเราไปสอบถาม ตม.จีนว่าดูลู่ทางแล้วจะเป็นอย่างไร ได้คำตอบว่าทางทัวร์จีนกำลังติดต่อกับทัวร์ไทยที่กรุงเทพฯให้รีบจัดการเงิน และดูท่าทีว่าจะเป็นไปได้ แต่ใช้เวลาสักหน่อย…. ซึ่งจริงๆเราก็ไม่ทราบว่าจะลงเอยอย่างไร…


เราบอกกับคุณลุงคุณป้าว่า เรากำลังเดินทางกลับเมืองไทย จะฝากอะไรให้โทรหาทางบ้านก็บอกเราจะจัดการให้

แต่ทั้งหมดก็เชื่อว่าจะลงเอยด้วยดี จึงไม่อยากรบกวนอะไร…


บริษัททัวร์ไทยที่มีปัญหานี้ชื่ออะไร ดูชื่อได้ที่หมวกของคุณลุงนี้นะครับ

ไกด์แนะนำว่า หากเกิดกรณีแบบนี้ ให้ทำดังต่อไปนี้

หนึ่ง ติดต่อสถานทูต หรือสถานกงสุลให้ทราบเพื่อเข้ามาจัดการ และ

สองเมื่อกลับเมืองไทยให้ไปแจ้งความต่อตำรวจแล้วเอาหลักฐานไปแจ้ง ททท.เพื่อทำการลบบัญชีบริษัททัวร์นี้ออกจากใบอนุญาตประกอบการ..

เราจากมาด้วยความห่วงใยพี่น้องไทย..

ดู ดู๋ ดู ดู ดู ทำไมคนไทยถึงทำกันได้…

คำเตือนการไปเที่ยวจีนสิบสองปันนา

-อย่าไปช่วงสงกรานต์….เพราะคนไปเดินทางกันมากเกินที่จะรับได้…

-ตรวจสอบบริษัททัวร์ให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา

-เลือกไกด์ที่มีประสบการณ์ เพราะทราบว่าบางคนเพิ่งฝึกหัด เราก็จะไม่ได้อรรถรสของเรื่องราวสองข้างทาง หรือสถานที่ที่เราไปดู ไปเที่ยว เพราะเราฟังภาษาจีนไม่ออกน่ะซี…



Main: 0.021950006484985 sec
Sidebar: 0.061452865600586 sec