ดีใจที่เป็นนิ่ว….
อ่าน: 3586เมื่อสิบกว่าปีก่อนผมต้องบินด่วนจากกรุงเทพฯกลับขอนแก่น เพื่อนฝรั่งเอารถไปรับผมที่สนามบินพาเข้าโรงพยาบาลเอกชนทันที เพราะผมปวดอาการของนิ่ว หมอให้เข้าห้องเพื่อทำการส่องและคีบเอาก้อนนิ่วออกมาทันที…
คุณหมอคนนี้เป็นรุ่นน้องที่เรียน มช.เรารู้จักกันดี ต่อมาครอบครัวผมก็เป็นคนไข้ของคุณหมอท่านนี้ทั้งบ้านรวมทั้งภรรยาคุณหมอท่านนี้ก็เป็นหมอด้วย เมื่อคุณหมอทั้งสองท่านย้ายไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่เพราะโรงพยาบาลเอกชนเดิมปิดกิจการ ครอบครัวผมก็ตามไปเป็นคนไข้อีกเหมือนเดิม.. ก็ติดใจในบริการคุณหมอ
การเอานิ่วออกครั้งนั้นผมไม่ต้องนอนโรงพยาบาลแค่คีบเอาออกมา พักสักพักก็กลับบ้านได้ แล้วก็มีความรู้ว่าคนกินใบไม้ใบหญ้าอย่างผม(พวกมังสวิรัติ)นั้นเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วไม่น้อยเพราะผักประเภทใบหลายชนิดมีส่วนสร้างก้อนนิ่วได้หากระบบขับถ่ายสารไม่มีคุณภาพดีพอ ที่สำคัญผักที่ผมชอบคือ ใบชับพลู หน่อไม้…..
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมเป็นไข้ครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดกล้ามเนื้อ จึงไปซื้อยามาทานอาการก็ลดลงแต่กลับมีอาการเจ็บจี๊ดๆที่พุงด้านขวามือ เมื่อวันอาทิตย์ตั้งใจจะไปพบคุณหมอพิศาล ไม้เรียง ญาติป้าจุ๋มของเรา แต่คุณหมอไม่ได้เข้าเวรแพทย์กว่าจะมาเข้าเวรก็วันอังคาร วันจันทร์อาการเจ็บที่พุงด้านขวามือหนักขึ้น ผมเสียวเรื่องตับจึงเปิดอินเตอร์เนทดูเปรียบเทียบอาการต่างๆแล้วก็เบาใจว่า หากเกี่ยวกับตับก็น่าจะเป็นอาการของตับอักเสบ จึงตัดสินใจไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพราะทนไม่ไหว…ใจร้อนทั้งๆที่เสียวลึกๆว่ามันอะไรกันแน่
ผลการตรวจเลือดที่ต้องนั่งคอย 1 ชั่วโมงพบว่า ตับผมไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ ค่าต่างๆอยู่ในเกณฑ์ดี แต่เนื่องจากช่วงที่ผมไปตรวจนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้กลับบ้านไปแล้ว แพทย์ที่รับไข้ก็ยังเด็กและไม่มีความชำนาญด้านนี้ ก็ไม่สามารถบอกอะไรได้มาก เพียงแต่อ่านค่าตามการตรวจเลือดมาเท่านั้น
ผมดีใจที่มันไม่เกี่ยวกับตับ แต่คำถามคือ ก็มันยังปวดอยู่ แล้วมันคืออะไร พรุ่งนี้ผมต้องไปพบคุณหมอพิศาล ไม้เรียงผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ให้ได้ โดยผมไปตามปกติเหมือนคนไข้ทั่วไปโดยไม่ได้ใช้อ้างอิงว่าป้าจุ๋มแนะนำมา เพราะอยากจะดูว่าระบบเป็นเช่นไรบ้าง..
เมื่อผมไปถึงคลินิกคุณหมอเวลาประมาณ หกโมงครึ่ง คุณหมอเข้ามาพอดี คนไข้เต็มจนไม่มีที่นั่ง และเป็นเช่นนี้ทุกวัน…..ผมแจ้งประสงค์แล้วก็บังเอิญมีที่นั่งพอดีเนื่องจากมีคนไข้หนึ่งคนเสร็จสิ้นแล้ว
เมื่อนั่งสายตาก็สำรวจความเป็นไปในคลีนิคที่ทุกคนต่างมาหาคุณหมอด้วยมีทุกข์มาทั้งนั้น แต่คุณหมอก็ใจเย็นออกมาทักทายคนไข้ ล้อเล่นกับคนไข้ แหย่บ้าง จนบรรยากาศดูดี คนไข้คนหนึ่งพูดกับเพื่อนข้างๆว่า ผมเป็นคนไข้คุณหมอมานาน คุณหมอใจดีมาก ผู้ช่วยแพทย์จำนวน 3 คนวิ่งกันวุ่นเพื่อจัดคนไข้เข้าพบคุณหมอ แล้วก็วิ่งมาจ่ายยา แต่เธอก็ยิ้มตลอด
ผมรู้ตัวว่าต้องนั่งยาวจึงหยิบเอาหนังสือจากบ้านมาอ่านเล่มหนึ่ง ชื่อ “เดินสู่อิสรภาพ” ของอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ที่ลือลั่นมาแล้วเพราะเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วลาออก ทำการเดินด้วยเท้าจากเชียงใหม่ไปบ้านเกิดที่เกาะสมุย…. ผมอ่านเพลินสลับกับการสังเกตความเป็นไปในคลินิกแห่งนี้ที่น่าสนใจมาก…
สามทุ่มไปแล้วคนไข้เริ่มบางตาแต่ผมยังไม่ได้รับการเรียกชื่อ แต่แล้วคุณหมอก็ออกมาดูคนไข้แล้วให้ผู้ช่วยขานชื่อแล้วให้จัดลำดับเข้าพบคุณหมอ ตามห้องเล็กๆ 4 ห้อง ผมได้อันดับที่ 3 ห้องหมายเลข 4
เกือบสี่ทุ่มผู้ช่วยพยาบาลก็ขานชื่อผมให้เข้าไปนั่งรอคุณหมอ
ไม่พร่ำทำเพลง ผมอธิบายสาเหตที่มาหาคุณหมอขณะที่คุณหมอตรวจสอบใบประวัติผม แล้วก็กล่าวว่า คราวนี้ต้องผ่าตัดสาละมั๊ง….ผมหยุดอธิบายไปนิดหนึ่ง คุณหมอมองหน้ายิ้มๆ แล้วก็กล่าวว่า ยาที่ให้ไปทานน่ะ ทานประจำไหม.. เอายาใหม่ไปอีกชุดหนึ่งก็แล้วกัน แล้วอีกสองสัปดาห์มาหาหมอใหม่พร้อมเอาแผ่นอุลตร้าซาวมาให้ดูด้วย ว่าจะต้องผ่าหรือไม่ นิ่วแน่นอน อาการของคุณนี่ไม่ใช่อะไร นิ่วที่คุณเป็นอยู่นั้นเอง….
คุณหมอสั่งยาแล้วก็บอกว่า..ค่อยพบกันตามนัดนะครับ…
ผมกราบลาคุณหมอด้วยแอบดีใจลึกๆว่ามันไม่ใช่ตับก็ดีหลายแล้ว แค่นิ่วแม้จะต้องผ่าก็ดีกว่าเรื่องเกี่ยวกับตับมากมายหลายเท่าตัวนัก…อิอิ
ก็เพื่อนฝูง น้องนุ่ง ญาติพี่น้อง เป็นมะเร็งที่ตับกันมากมาย จะไม่ให้ผมดีใจได้อย่างไรที่เป็นนิ่ว …. แม้จะเป็นนิ่วที่ไตก็ตาม…