อานิสงส์จากงาน Ignite Thailand : สิ่งที่ไม่ควรลืม

อ่าน: 3479

วันที่ 18 มิถุนายน 2553

ได้รับโทรศัพท์จากคุณแม่ท่านหนึ่ง บอกว่าไม่สามารถหาใครเซ็นเป็นผู้รับรองรายได้เพื่อใช้ประกอบสัญญาเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้กับลูกได้เพราะเหล่าข้าราชการที่มีคุณสมบัติครบ มักเข้าใจว่าเป็นการเซ็นค้ำประกันเงินกู้ยืมของเด็กจึงไม่มีใครยอมเซ็นให้

จึงขอให้ส่งเด็กมาพบเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้วจะเซ็นให้เอง เสียงคุณแม่ท่านนั้นดีใจและตื่นเต้นมากคงไม่นึกว่าเราจะตอบตกลงง่ายขนาดนี้

เช้านี้เด็กผู้หญิงรูปร่างผอมบาง ผมยังเป็นหน้าม้าทรงนักเรียนมัธยมอยู่เลย คงเพิ่งเริ่มมาปล่อยให้ยาวตอนมาเรียนในระดับ ปวช. รวบด้วยหนังสติ๊กสีแดงที่ใช้มัดถุงแกงอย่างง่าย ๆ ยิ้มตาปิด สวัสดีอย่างนอบน้อม แนะำนำตัวแล้วบอกที่ไปที่มาว่าคุณแม่ให้มาหาอาจารย์ปู

ถามว่า “รู้จักอาจารย์ปูมั้ยคะลูก”

เจ้าเด็กน้อยตอบ “แหะ แหะ ไม่รู้จักค่ะ”

ถามว่า “หนูได้มาตอนปฐมนิเทศมั้ย”

“มาค่ะ”

แล้วจำอาจารย์คนที่พูดคนสุดท้ายบนเวทีได้มั้ย”

“อ๋อ อาจารย์นี่เอง หนูจำได้แล้วค่ะ แม่หนูยังบอกเลยว่าชอบอาจารย์ปูมาก ดูแล้วรู้เลยว่าใจดี แต่ก็นักเล๊งนักเลงดี ชอบค่ะ”

(แป่ว!)

แม่หนูทำงานอะไรแล้วนะคะ”

“อ๋อ แม่เย็บผ้าโหลค่ะ ไปรับผ้ามาเป็นถุง ๆ แล้วเย็บตามแบบค่ะ”

“คุณพ่อล่ะคะ”

“พ่อเลิกกับแม่แล้วค่ะ แต่ตอนนี้แม่มีแฟนใหม่ เป็น รปภ.โรงงานค่ะ”

“แล้วที่มาเรียนนี่ หนูตั้งใจอะไรไว้บ้างจ๊ะ”

“ก็ตั้งใจจะเรียนให้จบ หางานทำค่ะ”

“ทำงานไปทำไมล่ะลูก”

“จะได้เอาสตังค์ไปช่วยแม่ค่ะ”

“ตอนนี้แม่ติดขัดเรื่องสตังค์เหรอคะ”

เท่านั้นเอง ทั้ง ๆ ที่ยังยิ้มค้างอยู่ น้ำตาหยดน้อย ๆ หล่นใส่ปกสมุดที่วางอยู่ตรงหน้าเสียงดังเผลาะ ๆ ภาพที่ได้เห็นส่งผ่านความรู้สึกอัดอั้นมากระแทกใจแทบประคองน้ำตาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน

“แม่หนูลำบาก มีเงินบ้างไม่มีบ้าง หนูเห็นแม่ต้องไปยืมเิงินข้างบ้านประจำ หนูมาโรงเรียนหนูก็ไม่ได้กินข้า่วกลางวัน รีบกลับไปกินที่บ้านตอนบ่าย ๆ แทน เก็บตังค์ไว้เป็นค่ารถไปกลับก็พอ”

“แม่ทำงานหนักมั้ย”

“หนักค่ะ”

“ทำไมหนูถึงรู้ว่าแม่ทำงานหนักล่ะ”

“แม่นั่งเย็บผ้าทั้งวันทั้งคืน พอลุกขึ้นทีนึงแทบเดินไม่ได้ ต้องลงไปนอนให้หนูนวดก่อนจะเดินได้ทุกครั้ง”

ทุกครั้งที่เด็กน้อยเอ่ยคำว่า “แม่” เม็ดน้ำตาก็จะผุดเพิ่มขึ้นมาทุกที ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ครูปูจะเลือกวิธีปลอบให้เด็กหยุดร้องก่อน จะชวนกันมองหามุมดี ๆ จากเรื่องนี้ เพื่อให้สบายก่อนแล้วจึงจะรีบประสานให้การช่วยเหลือเ่ท่าที่จะทำได้

แต่คราวนี้ ครูปูเลือกที่จะยังไม่ปลอบเด็ก คุยกับเด็กต่อไปทั้งน้ำตา

“แล้วหนูรู้มั้ยคะ ขนาดเราไม่รู้จักกันมาก่อนเนี่ยะ อาจารย์มาช่วยหนูเพราะอะไร”

เด็กน้อยยิ้มอาย ๆ “ไม่ทราบค่ะ หนูได้ยินแต่ว่ามาพบผู้ช่วย เมื่อคืนหนูนอนไม่หลับเลยค่ะ” (หง่ะ!)

“อาจารย์เนี่ยะ เคยอยู่ในสถานการณ์แบบหนูมาแล้วนะ แล้วอาจารย์ก็ได้พบเจอคนดี ๆ หยิบยื่นน้ำใจและความช่วยเหลือให้ อาจารย์ก็เลยรอดและมีวันนี้ได้ อาจารย์ถึงได้จำขึ้นใจไม่เคยลืมถึงความประทับใจของการให้ และความสุขใจของการได้รับ  เหตุผลที่อาจารย์ช่วยหนูเพราะ อาจารย์อยากให้หนูได้จดจำเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ ต่อไปภายภาคหน้า ถ้าหนูแข็งแรงพอหนูจะต้องส่งต่อการให้นี้ต่อ ให้การช่วยเหลือดูแลพ่อแม่ ครอบครัว และคนอื่น ๆ ในสังคม เพราะเราก็ไม่รู้หรอกเนอะว่าแค่ที่เราแบ่งปันและช่วยเหลือกันเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่  อาจสามารถช่วยคนที่กำลังย่ำแย่ให้รอดมาก็เป็นได้”

“อาจารย์ว่าเนอะ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าการให้มันดีอย่างนี้นี่เอง ถ้าเราทำได้ เราก็เป็นฝ่ายให้บ้าง ให้น้ำใจ ให้ความช่วยเหลือ ให้ความจริงใจ โดยไม่ต้องเลือกว่าเขาจะต้องให้อะไรเราตอบ ข้อสำคัญอยู่ที่เราได้ให้ ไม่ได้อยู่ที่เขาเป็นอะไรกับเรา รู้จักไม่รู้จัก เป็นญาติ เป็นเพื่อนหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่าเราได้ให้”

“จริงค่ะอาจารย์ เพราะหนูไม่เคยคุยกับผู้ใหญ่ที่ไหน แล้วเขาช่วยหนูทันทีเหมือนอาจารย์เลย หนูจะดูแลแม่ ดูแลครอบครัว และหนูจะช่วยคนอื่น ๆ เท่าที่หนูทำได้ ขอบคุณค่ะอาจารย์”

(^________________^)

จัดการเอกสารให้เด็กเสร็จเรียบร้อย พร้อมทั้งเชิญอาจารย์ที่ปรึกษาและงานแนะแนวและอาจารย์ที่ปรึกษามารับทราบกรณีเพื่อวางแผนการติดตามดูแลช่วยเหลือต่อไป เสร็จเรียบร้อย ก็มีเวลามานั่งคิดทบทวนเรื่อง

“ความทรงจำ ความประทับใจในอดีตเป็น สิ่งที่ไม่ควรลืม เพราะมันจะส่งผลถึงการกระทำในปัจจุบันแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”

เอ แล้วไอ้แว่ปนี้มันโผล่มาจากไหนหว่า????

อ๋อ รู้แล้วค่ะ ได้มาเมื่อสองวันก่อนจากท่านนี้ค่ะ

บันทึกนี้โพสต์ช้าไป 1 เดือน แต่ประเด็นคิดที่ได้จากงาน Ignite Thailand ในคืนวันที่ 16 มิถุนายน 2553 นั้น ยังส่งกลิ่นกรุ่น ๆ อยู่ในห้วงคำนึงของครูปูจนทุกวันนี้อยู่เลยค่ะ

ขอบคุณคุณทรงกลด บางยี่ขัน เจ้าของมุมปิ๊งแว๊ปอันนี้ แทนเด็กตัวน้อย ๆ ด้วยนะคะ

ขอบคุณป๋าขาที่แนะนำ

ขอบคุณพ่อครูบาที่ให้เกียรติไปร่วมเรียนรู้ด้วยกัน

ขอบคุณตัวเองที่คิดแล้วตัดสินใจลงมือทำตามความต้องการของตัวเองค่ะ

^_^

Post to Facebook

« « Prev : โยงจิตกับปัญญาลงมาถึงพฤติกรรม

Next : JUST SEE THEM » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

169 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.53946113586426 sec
Sidebar: 0.31502604484558 sec