ไปสุรินทร์ทำไม..
อ่าน: 2553
ขณะที่ผมนั่งดูรายการระลึกถึงไมเคิล แจคสัน พิธีกรเชิญคุณมาโนช พุฒตาลมาคุยด้วย ซึ่งเขาเป็นผู้รู้ในเรื่องเสียงเพลงและประวัติบรรดานักร้องต่างประเทศ คุณมาโนชพูดถูกใจผมมาก กล่าวว่า ความคลั่งใคร้ของแฟนๆไมเคิลนั้น “เกินจริง ยกให้ไมเคิลเป็น King of Pop เขามีชื่อเสียงมากตั้งแต่เด็ก และดังมาตลอด วิถีเขาอย่างราชา จนเขาไม่เคยสัมผัสชีวิตความเป็นปุถุชนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเกินจริง ในสังคมนี้มีสิ่งเกินความจริงหลายอย่าง… การที่คนยกย่องเขามากมายมหาศาลนั้นมันไม่ได้ก่อประโยชน์แก่สังคม อาจจะมีเพียงธุรกิจเท่านั้นที่รองรับการเป็น Superstar ของเขา ขณะที่มีคนเล็กๆที่ทำประโยชน์แก่สังคมนี้ แต่เขาอยู่ในมุมมืดของการเป็นข่าว การดำเนินชีวิตของเขาเป็นประโยชน์แก่สังคมมากกว่าไมเคิล แต่สังคมไม่เคยกล่าวถึงเขาเหล่านั้น....”
ผมนึกถึงเรื่องในอดีตน้องเขยผมมีเหตุขัดคอกับเพื่อนบ้านที่เป็นคนนอกเข้ามาอยู่ในสายเครือญาติ เขาไม่ทราบพัฒนาการตระกูลเราเพราะเขาเป็นคนนอก ความรุนแรงของความขัดแย้งนั้นมันบานปลายมากกว่าที่เราคิดถึง เรื่องนี้เปิดเผยมาในภายหลังอีกหลายปีต่อมา คือ คู่ขัดแย้งของน้องเขยผมไปว่าจ้างมือปืนมาให้ไปทำร้ายแก่ชีวิตน้องเขยผม ต่อมามือปืนมาสารภาพแก่ครอบครัวผมว่า เขารับงานมาไม่รู้ว่าเป้าหมายคือใคร แต่เมื่อจะลงมือทราบว่าเป็นคนในครอบครัวผม มือปืนคนนั้นยกเลิกงานชิ้นนี้ เพราะเขากล่าวว่าเขาสำนึกใน “ข้าวแดงแกงร้อน” ที่อดีตปู่ผม พ่อผมเคยมีโอกาสเลี้ยงดูเขามา บุญคุณต้องทดแทน แม้ว่าน้องเขยผมเป็นคนนอก แต่ก็เข้ามาในตระกูลผมแล้ว มือปืนคนนี้จึงไม่ทำงานชิ้นนี้ต่อให้จบ….
ผมไม่ทราบว่าสังคมนี้จะมีอะไรอย่างนี้คงเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน.ไม่มีสำรวจหาความคงอยู่ หรือมันเป็นเพียงสิ่งบอกเล่าเรื่องในอดีตเท่านั้น
หลายสิบปีก่อน ขณะที่ผมและเพื่อนนั่งทานก๊วยเตี๋ยวที่ร้านเล็กๆแห่งหนึ่ง มีขอทานเข้ามาขอเงิน เพื่อนผมถามว่า เอาเงินไปทำอะไร ขอทานคนนั้นบอกว่า เอาไปซื้อข้าวกิน เขายังไม่ได้กินข้าว เพื่อนผมกล่าวกับขอทานคนนั้นว่า หากหิวข้าวก็นั่งลงตรงนี้เดี๋ยวจะสั่งก๊วยเตี๋ยวให้กินเอาไหม ขอทานคนนั้นพยักหน้า แล้วเราก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวโต๊ะเดียวกัน เขากินเสร็จก็ขอห่อเศษที่เหลือกลับไปด้วย…… ผมจำได้ติดหูติดหาต่อการกระทำของเพื่อนคนนี้…
เวลาผมออกหมู่บ้าน และมีโอกาสกิน นอนที่หมู่บ้านชาวบ้าน เราทราบดีว่า อาหารทุกมื้อที่ชาวบ้านทำให้ผมและเพื่อนๆกินนั้น เป็นอาหารที่ดีที่สุดที่เขาสรรหามาให้
ตอนที่คุณแม่(ยาย)ผมยังมีชีวิตและนอนแบบอยู่บนเตียงเป็นเวลา 7 ปีนั้น แม่มักจะเรียกผมไปหา แล้วกล่าวว่า “แม่ดีใจที่บู๊ดอยู่บ้านให้เห็นหน้า…” คนป่วยที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลยนั้นอยากให้คนใกล้ชิดมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ก็แค่ให้สบายใจ..
ผมไม่รู้จักคุณปิ๋วเป็นการส่วนตัว แทบจะไม่เห็นหน้าค่าตาด้วยซ้ำไป แต่ผมกินข้าวจากฝีมือเธอ จากความตั้งใจของเธอ จากน้ำใจของเธอ ผมอิ่มหนำสำราญจากการประกอบอาหารของเธอให้ผมและเพื่อนๆอีกนับจำนวนไม่หมดที่ผ่านสวนป่า…
ผมเชื่อว่าเพื่อนทุกคนก็คิดเหมือนผม และมีประสบการณ์คล้ายๆที่ผมกล่าวมา เมื่อผมมีโอกาสจึงเก็บหยูกยา และของใช้สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานของแม่ที่เหลืออยู่ น่าจะเป็นประโยชน์แก่คุณปิ๋วมากกว่าที่เก็บไว้เฉยๆที่บ้านผม…
คุณปิ๋วต้องการกำลังใจ เธอต้องการคุณหมอและการรักษากาย แม้ว่าคุณปิ๋วเป็นฟันเฟืองเล็กๆ แต่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ไปทำให้ฟันเฟืองใหญ่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนสังคมนี้ สังคมในฝันของเรา…
ผมมีความรู้สึกดีดีมอบให้คุณปิ๋วน่ะครับ
นี่คือเหตุผลที่ผมไปสุรินทร์…
(หมายเหตุ: เอารูปมาจาก blog ของพ่อครูบาฯ)
« « Prev : หนึ่งขวบปี..มีอะไรที่นี่ 2
Next : ภาพเก่าเล่าเรื่อง 1 วิถีนักพัฒนาชุมชน » »
14 ความคิดเห็น
ผมเสียดายที่ไปเยี่ยมป้าปิ๋วไม่ได้ ไม่มีช่วงจังหวะที่ลงตัวขณะนี้ ขนาดเมื่อวานว่าว่างแล้วยังถูกตามไปประชุมตอนบ่ายสาม
ผมได้พูดคุยกับป้าปิ๋วตอนไปสวนป่าสองครั้ง เจอกันครั้งที่สองได้กอดกันด้วย คุณแอ๊ดก็ไปช่วยป้าปิ๋วอยู่ในครัว พอทราบข่าวเราก็เป็นห่วง ได้แต่ส่งกำลังใจไปเยี่ยมครับ หวังว่าอาการป้าปิ๋วจะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
เอาเรื่องดีๆมาตีแผ่ ในวาระรำลึกไมเคิลแจ๊กสัน
ทั่วผืนโลกนี้มีคนทำดีมากมาย เพียงแต่เรื่องไม่กระจายออกไปให้รับรู้
มีเรื่องดีๆซึกอยู่ทุกหนทุกแห่ง
ถ้าเราไม่เขียน ไม่บอกเล่า แม้แต่เงาความดีก็ไม่มีใครเอ่ยถึง
ท่านบางทรายกำลังบ่มเพาะความดี
ขอบคุณทุกท่านแทนปิ๋วด้วย นะครับ
ขอให้เจริญความดีอันไพศาลนิรันดร์
โดนใจอาม่าจริงๆ น้องบางทราย การมองเห็นความดีแม้ผงธุลี ก็แสดงออกบอกได้ชัดว่า ผู้มองเห็นความดีของผู้อื่น คือคนดีโดยเนื้อแท้ค่ะ
เรื่องดีๆ นี้ คงไม่ใช่เพียงน้าปิ๋วที่มีกำลังใจ..
แต่ เรื่องของการทำความดี..ทำให้เกิดกำลังใจแก่ผู้คนได้อีกมากมาย..
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ตรงใจชาวเฮ..
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวจากใจที่ยิ่งใหญ่ค่ะ
การไปสุรินทร์ของพี่บู๊ดทำให้คนไม่ได้ไปมีความสุข อิอิอิ
ท่านอัยการครับ ผมเชื่อว่าเพื่อนๆทุกท่านอยากมีโอกาสไปเยี่ยมคุณปิ๋ว แต่ทราบดีว่าแต่ละคนนั้นมีภารกิจทั้งราชทั้งหลวง นัวเนียกันยุ่งไปหมด และก็ไม่ใช่ใกล้ๆ หากใกล้ๆก็จะแวบไปแวบมาได้ นี่มันไกล ใช้เวลา
เธอทราบดีครับ แค่คิดถึง มีใช้ให้แก่กันก็เหลือหลายแล้วครับ
พ่อครูครับ คุรปิ๋วเป็นกำลังสำคัญของสวนป่า ซึ่งสวนป่ามีงานมาก มากกว่าที่ผมและหลายคนคิด ต้องการคนมาช่วยเหลือ หากใครเจ็ปป่วยไปสักคนสองคนก็ยุ่งน่ะซีครับ แต่การเจ็บป่วยนั้นห้ามกันไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องให้กำลังใจกันและกันครับ
อาม่าครับ ก็อาม่าตีฆ้องร้องป่าว ดังลั่นลาน ชาวบ้านร้านช่องได้ยินไปสามคุ้งน้ำ ผมทราบก็เหลียวซ้ายแลขวา เห็นว่าเป็นไปได้ ก็ชวนคนข้างกายไปสุรินทร์ เธอก็ไฟเขียวแต่ขอนั่งทำงานที่บ้านให้เสร็จ ผมก็ฉายเดี่ยว แรกๆกะจะชวนจอมป่วนไปด้วย เมื่อยืนยันจะกลับเมืองพิด..ฯ.. ผมก็ฉายเดี่ยว ซึ่งประจำอยู่แล้วครับ
น้องอึ่งครับ พี่มีความเชื่อว่าคนเราได้มีโอกาสทำความดีมาแล้วทั้งนั้น ในหลายๆโอกาส ในหลายๆเรื่อง หลายๆมุม แต่ไม่ได้หยิบเอามาเล่าให้กันและกันเท่านั้นเอง ครับ
น้องเบิร์ดครับ 7 ปีที่ดูแลแม่ที่นอนบนเตียงเฉยๆนั้น รับรู้ความรู้สึกคนป่วยได้ดีทีเดียว มีสารพัดแบบ ตั้งแต่หงุดหงิด อาละวาด ไปจนฝันร้ายๆ..และนิ่งสงบ ปลง.. ซึ่งทั้งหมดต้องการคนมาปลอบใจ อยู่ใกล้ๆ ให้กำลังใจ ดูแลอย่างใกล้ชิด ใจอิ่มเอมก็ส่งผลดีต่อกายที่ดีขึ้นครับ อิอิ น้องเบิร์ดรู้ดีกว่าพี่ เรื่องนี้..
อ่านแล้วยิ้มๆๆๆๆ
ขอบคุณพี่บางทรายมากค่ะ
ว่าแต่ คนไม่ได้ไปส่งใจไปได้รับป่าวคร๊าบ
(^______________^)
น้องครูปูครับ ส่งใจไปก็ได้ครับ ก็คนเรามีเงื่อนไขกันทั้งนั้น มีภาระกันทั้งนั้น ไม่สามารถทำทุกอย่างที่อยากทำได้นะ แค่ส่งใจไปก็มากมายก่ายกองแล้วครับ
wh0cd697586 GENERIC CIALIS
cialis precio cialis
http://comprar-cialis-generico.net/
comprar cialis comprar cialis contrareembolso